การควบคุมคุณภาพของข้อมูล
คุณภาพของข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลวิจัย
มีความสำคัญอย่างยิ่งในการตอบปัญหาวิจัย งานวิจัยจะมีคุณภาพหรือไม่
ข้อค้นพบจากการวิจัยจะเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงใด
ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลที่ผู้วิจัยรวบรวมมาได้นี้
การควบคุมคุณภาพของข้อมูลจึงเป็นความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่งที่นักวิจัยจะต้องนึกถึง
และควบคุมแหล่งของความคลาดเคลื่อนที่จะเกิดขึ้นจากการวัดให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด
แหล่งความคลาดเคลื่อนใหญ่ ๆ
ที่นักวิจัยต้องควบคุมเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพแบ่งเป็น 4
แหล่งใหญ่ ๆ คือ
1)
ความคลาดเคลื่อนเนื่องจากเครื่องมือวิจัยโดยตรง และการวัด
2)
ความคลาดเคลื่อนเนื่องจากผู้ถูกวัด
3)
ความคลาดเคลื่อนเนื่องจากสถานการณ์ในขณะวัด
4)
ความคลาดเคลื่อนเนื่องจากผู้วัด
ในการควบคุมความคลาดเคลื่อนจากแหล่งต่าง ๆ
เหล่านี้ทำได้ดังนี้
1) เลือกเครื่องมือวิจัยที่มีคุณภาพ
และวัดได้ตรงจุดมุ่งหมายของการวัดให้ได้มากที่สุด
2) ควบคุมการดำเนินการวัดให้ได้ถูกต้อง
เป็นระบบ มีความสม่ำเสมอกับในการวัดจากกลุ่ม
ตัวอย่างแต่ละราย
3)
จัดสภาพการณ์ในขณะวัดให้คล้ายคลึงกับมากที่สุด
ในการวัดแต่ละครั้ง
4)
ลดความคลาดเคลื่อนที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากผู้ตอบให้มีน้อยที่สุด
5)
ประมวลผลข้อมูลให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน
การพิทักษ์สิทธิ์กลุ่มตัวอย่าง
ก่อนดำเนินการวิจัย
ผู้วิจัยจะต้องทำหนังสือ/จดหมายขออนุญาตเก็บข้อมูลจากหัวหน้า/
เจ้าของสถานที่ที่เข้าทำการเก็บข้อมูล
โดยแจ้งชื่อโครงการวิจัยและชี้แจงวัตถุประสงค์ของการวิจัย
รวมทั้งระบุระยะเวลาของการดำเนินการเข้าเก็บข้อมูลให้ทราบล่วงหน้าก่อนเข้าทำการเก็บข้อมูล
นอกจากนี้
ยังต้องแจ้งให้ประชากร/กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาทราบว่าข้อมูลที่ได้จะเป็นความลับไม่น่าเปิดเผย
กลุ่มตัวอย่างมีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมในโครงการวิจัยนี้ได้
และมีสิทธิ์ที่จะทราบผลของการวิจัยหลังจากการวิจัยสิ้นสุดลง
ไม่มีความเห็น