ประมงเข็น2,700ล้านดัน3แผนงานหลักปี'48ถึงฝั่งเน้นวิจัย-ผลิต-อนุรักษ์สัตว์น้ำ


ในด้านการอนุรักษ์บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำนั้นจะ เน้นในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อสร้างจิตสำนึกและให้เกิดความหวงแหนในการดูแลอนุรักษ์ ทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่
         กรมประมงเผยแผนปี'48 เตรียมงบ 2,700 ล้าน เน้น 3 งานหลัก ทั้งการวิจัยแก้ปัญหาเร่งด่วน การผลิตสัตว์น้ำคืนสู่ธรรมชาติ 2,000 ล้านตัว และการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ หวังให้ชุมชนมี ส่วนรวม พร้อมสร้างจิตสำนึกหวงแหนและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่
นายสิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงแผนงานในปี 2548 ว่า กรมประมง ได้รับจัดสรรงบประมาณราว 2,700 ล้านบาท โดยจะเน้นหนักในเรื่องของงานวิชาการ และงาน วิจัยให้มากยิ่งขึ้น ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำแผนแม่บทงานวิจัยปี 2548-2552 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะให้การสนับสนุนและส่งเสริมการวิจัยของนักวิชาการในด้านงบประมาณ เพื่อการดำเนินงานวิ จัย จะคำนึงถึงหัวข้อวิจัยที่เป็นปัญหาเร่งด่วน และเป็นความต้องการของเกษตรกรประมงเป็นหลัก
สำหรับในด้านการผลิตได้ตั้งเป้าการผลิตสัตว์น้ำจำนวนทั้งสิ้น 2,000 ล้านตัว ประกอบไป ด้วย พันธุ์สัตว์น้ำจืด 1,500 ล้านตัว พันธุ์สัตว์น้ำกร่อย 500 ล้านตัว ซึ่งพันธุ์สัตว์น้ำจืด 1,500 ล้านตัว ได้แก่ กุ้งก้ามกราม 500 ล้านตัว ส่วนที่เหลือจะเป็นพันธุ์ปลา รวมไปถึงพันธุ์ปลาไทยที่ หายาก เป็นไปตามพระราชเสาวนีย์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็น ห่วงพันธุ์ปลาไทยจะสูญพันธุ์ โดยกรมประมงจะได้มีการเพาะขยายเพื่อปล่อยกลับสู่แหล่งน้ำของ โครงการหลวง หรือ โครงการในพระราชดำริ ซึ่งมีประมาณ 30 โครงการ ตั้งแต่พื้นที่สูงมาจน ถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีอาชีพทำกินและมีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภคอย่างเพียงพอ
     อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการอนุรักษ์บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำนั้นจะ เน้นในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อสร้างจิตสำนึกและให้เกิดความหวงแหนในการดูแลอนุรักษ์ ทรัพยากรสัตว์น้ำในพื้นที่ โดยกรมประมงจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำปรึกษา และกำ กับดูแล
"การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำจำเป็นต้องให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนรวม เพื่อที่จะทำให้เกิด ความรู้สึกความเป็นเจ้าของในทรัพยากรสัตว์น้ำมากขึ้น ตลอดจนเมื่อการดูแลและการจัดการโดย ชุมชนมีมากขึ้นแล้ว ก็จะทำให้การควบคุมและปราบปรามของหน่วยงานภาครัฐลดน้อยลง"อธิบดี กรมประมงกล่าว
ที่มา http://news.cedis.or.th/detail.php?id=1500&lang=en&group_id=1
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 13784เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2006 12:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท