ผมขออนุญาตยกคำพูดของท่านอาจารย์หมอพิเชฐ (ศ.นพ.พิเชฐ อุดมรัตน์) ที่เขียนไว้ใน KM NEWS (ข่าวสารด้านการจัดการความรู้ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) ปีที่ 2 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2548 หน้า 1 (บรรณาธิการแถลง) มาช่วยตอบ ดังนี้ครับ
“มีหลายคนที่เข้าใจผิด คิดว่าการจัดการความรู้หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ติดปากว่า “ทำ KM” นั้น เป็นการทำงานใหม่ ที่ต้องทำเพิ่มขึ้นมาต่างหาก หลายคนจึงปฏิเสธ KM เพราะคิดว่าตัวเองก็รับเงินเดือนอยู่เท่าเดิม แล้วจะไปเพิ่มงานตัวเองให้มากขึ้นไปทำไมเล่า? ในองค์กรที่สื่อสารกับคนในองค์กรได้ไม่ชัดเจนก็ยิ่งทำให้คนในองค์กรเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ก็เลยเกิดอาการ 3 ไม่ คือ ไม่สน (ใจ), ไม่ (รับ) รู้, ไม่ (สู้) ทำ
แท้ที่จริงแล้ว KM ไม่ใช่เป็นการทำงานใหม่ แต่เป็นการทำงานเดิม หรืองานประจำที่ตัวเองทำอยู่ทุกวันนั่นเอง เพียงแต่ตั้งโจทย์ถามตัวเองว่า “จะทำงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ให้ดีกว่า, สวยกว่า, ประหยัดกว่า, เร็วกว่า...ได้อย่างไร ? ” และเพื่อตอบคำถามนี้ให้ได้ ต้องการความรู้ใด, จะไปหาความรู้นั้นมาจากไหน เอาความรู้นั้นมาใช้กับงานประจำที่ตัวเองทำอยู่แล้ว ได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง ต้องปรับตรงไหนอย่างไรหรือไม่ เมื่อปรับแล้วได้ความรู้ใหม่อะไร และความรู้ใหม่ที่ได้นี้ควรจะบอกใครให้เขารู้ต่ออีกบ้าง เขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปลองผิดลองถูก หรือจะจัดเก็บความรู้นั้นไว้ที่ไหน เพื่อให้คนอื่นเขามาคว้าไปใช้ในหน่วยงานของเขาต่อไป KM จึงช่วยให้เราทำงานประจำอย่างฉลาด ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า work smart ไม่ใช่การทำงานหนักหรือ work hard”
วิบูลย์ วัฒนาธร
ไม่มีความเห็น