6. การหลอกลวงโดยใช้การตลาดหรือการขายแบบตรง (Multilevel
Marketing Plans/ Pyramids)
ลักษณะการหลอกลวง:
การหลอกลวงในลักษณะนี้คล้ายคลึงกับการนำสื่อโฆษณาในการทำตลาดหรือการขายตรง
โดยมีการชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกในเครือข่ายธุรกิจ
โดยการกล่าวอ้างว่าผู้ขายจะได้รับสิทธิในการ จำหน่ายสินค้าหลายชนิด
และได้รับผลประโยชน์จากการขายสินค้าหรือชักชวนบุคคลอื่นเข้ามาเป็นตัวแทนขายตรงเป็นทอดๆ
ทำให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จริงมีจำนวนน้อยราย
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้บริโภคที่เข้าร่วมเครือข่ายจะต้องชำระค่าสมาชิกจำนวนหนึ่ง
แต่จะไม่มีรายได้ประจำแต่อย่างใด
รายได้ของผู้บริโภคจึงไม่แน่นอนและมักจะไม่ได้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้หลอกลวงกล่าวอ้าง
เพราะไม่สามารถขายสินค้าได้ตามเป้าหมาย
วิธีการป้องกัน:
ผู้บริโภคควรระมัดระวังในการสมัครเป็นสมาชิกหรือตัวแทนจำหน่ายสินค้า
ที่ต้องหาสมาชิกรายอื่น เพิ่มขึ้นหรือต้อง
จำหน่ายสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงให้ได้ตามยอดจำหน่ายที่กำหนด
เพราะอาจถูกหลอกลวงได้
7. การหลอกลวงโดยเสนอให้เงินจากประเทศไนจีเรีย
(Nigerian Money Offers)
ลักษณะการหลอกลวง:
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะได้รับข้อความจากจดหมายหรืออีเมล์ (e-mail)
จากบุคคลที่กล่าวอ้างว่ามีความสำคัญในประเทศไนจีเรีย
เพื่อขอช่วยเหลือในการโอนเงินจำนวนมากไปยังต่างประเทศ
โดยผู้บริโภคจะได้รับเงินส่วนแบ่ง จำนวนนับล้านเหรียญ
ดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อความในจดหมายหรืออีเมล์มีเนื้อหาทำนองว่า
ประชาชนในประเทศไนจีเรียไม่สามารถเปิด
บัญชีเงินฝากในต่างประเทศ หรือโอนเงินออกนอกประเทศที่มีมูลค่าราว 10
ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้
หรือรัฐบาลไนจีเรียต้องการทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ
จึงต้องการความช่วยเหลือจากชาวต่างชาติในการ
เปิดบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวันที่เบิกด้วยเช็ค
ซึ่งท่านจะได้รับค่า ตอบแทนหรือค่านายหน้า
ผู้บริโภคเพียงแต่แจ้งรายละเอียดของบัญชีเงินฝากของตน
และกรอกเอกสารพร้อมทั้งลงลายมือชื่อ ของเจ้าของบัญชีเท่านั้น
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
เมื่อมีการแจ้งข้อมูลบัญชีเงินฝากแล้ว
ผู้บริโภคจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการ
ดำเนินการตลอดเวลา โดยให้ผู้บริโภคโอนเงินเข้าบัญชีที่แจ้งไว้
ผู้ที่หลอกลวงจึงสามารถเบิกเงินจากบัญชีดังกล่าวได้
โดยอ้างเอกสารมอบอำนาจของเจ้า ของบัญชี
แต่การโอนเงินลักษณะนี้อาจทำไม่ได้ในประเทศไทย
เว้นแต่จะเป็นการโอนเงินระหว่างบัญชีของธนาคารเดียวกัน
ทางอินเทอร์เน็ต
วิธีการป้องกัน:
ผู้บริโภคไม่ควรหลงเชื่อบุคคลอื่นที่อ้างตัวและเสนอจะให้ผลประโยชน์จำนวนมหาศาลโดยไม่มีความเสี่ยงเช่นนี้
และ ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลบัญชีธนาคารของตนแก่ผู้อื่นด้วย
8. การหลอกลวงให้ประกอบธุรกิจที่บ้าน
(Work-at-Home)
ลักษณะการหลอกลวง:
บริษัทที่หลอกลวงจะเชิญชวนให้ผู้ต้องการประกอบธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตหรือธุรกิจด้าน
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สมัครเป็นสมาชิกเพื่อทำธุรกิจ
โดยผู้บริโภคมีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์และ
สามารถ ใช้อินเทอร์เน็ตจากที่บ้านได้ และมักอ้าง
ว่าธุรกิจประเภทนี้เป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ผู้บริโภคจะไม่ได้รับคำแนะนำในการทำธุรกิจ ไม่มีข้อมูลธุรกิจ
ที่ชัดเจนหรือไม่ทราบว่าตนอาจไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ
เลยผู้ถูกหลอกลวงจะถูกเรียกเก็บเงินค่าสมาชิกหรือซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อเริ่มทำธุรกิจ
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนตามที่มีการกล่าวอ้าง
และอาจต้องสูญเสียเงินจากการ
ลงทุนอีกด้วย
วิธีการป้องกัน:
ผู้ที่ต้องการลงทุนหรือต้องการเป็นเจ้าของกิจการ
ควรศึกษาหรือสอบถามรายละเอียดของ
ประเภทธุรกิจที่จะลงทุนการจ่าย เงินค่าตอบแทนที่ผู้บริโภคจะได้รับ
ที่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน
รวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะต้องจ่ายในการเริ่มต้นทำธุรกิจ
และผู้บริโภคควรระวังไม่หลงเชื่อ
คำเชิญชวนของผู้ที่อ้างว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมากภายในระยะเวลาสั้นๆ
9. การหลอกลวงให้จดทะเบียนโดเมนเนม (domain name
registration scams)
ลักษณะการหลอกลวง:
ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตที่ต้องการมีเว็บไซต์และโดเมนเนมของตนเอง
จะได้รับ
การเสนอแนะว่าท่านสามารถได้รับสิทธิในการจดทะเบียนโดเมนเนมในระดับบนที่เรียกว่า
“Generic Top-Level Domain’ หรือ gTLD ได้แก่ .com, .org, .net, .int,
.edu, .gov,
.mil, .aero, .biz, .coop, .info, .museum, .name, and .pro เป็นต้น
ก่อนบุคคลอื่น
และถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจองโดเมนเนมที่ต้องการ
ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีการให้บริการ
ในลักษณะดังกล่าว
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้ที่หลงเชื่ออาจได้รับความเสียหายเพราะได้ชำระเงินให้แก่ผู้ที่หลอกลวง
โดยไม่ได้รับสิทธิหรือ ประโยชน์ตามที่กล่าวอ้าง
วิธีการป้องกัน:
1.
หลีกเลี่ยงการใช้บริการการขอจดทะเบียนโดเมนเนมล่วงหน้า
ที่ให้การรับรองว่าจะได้รับสิทธิ
ในการเลือกโดเมนเนมประเภทนี้ (gTLD) ก่อนบุคคลอื่น
และไม่ควรหลงเชื่อคำโฆษณา
2.
ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการยื่นขอจดทะเบียนจากผู้รับจดทะเบียนที่ได้รับสิทธิภายใน
ประเทศหรือเว็บไซต์ของ ICANN (Internet Corporation for Assigned
Names and
Numbers) (www.icann.org)
3.
ควรใช้บริการจดทะเบียนโดเมนเนมกับหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต,
บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
หรือใช้บริการของ
“ศูนย์สารสนเทศเครือข่ายแห่งประเทศไทย” (Thailand Network Information
Center –
THNIC) (www.thnic.net)
10. การหลอกลวงโฆษณาหรือขายยามหัศจรรย์
(miracle products)
ลักษณะการหลอกลวง:
การโฆษณาหรือขายยาทางอินเทอร์เน็ตที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถรักษาโรคหรืออาการ
เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง, โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
(HIV/AIDS), โรคความดัน
โลหิตสูง ฯลฯ หรือสามารถบรรเทาความเจ็บป่วยได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
และมักอ้างว่ายาเหล่านี้
ได้รับการรับรองหรือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้:
ผู้ป่วยที่ซื้อยาดังกล่าวโดยเชื่อว่าสามารถรักษาความเจ็บป่วยได้
อาจต้องสูญเสียเงินหรือ
โอกาสในการได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง นอกจากนั้น
ยังอาจได้รับอันตรายจากการใช้ยาเหล่านั้นด้วย
วิธีการป้องกัน:
การใช้ยารักษาโรคควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น