ความคิดเห็นจากการประชุมเครือข่ายฯสัญจร (3.1)


การถกเถียงที่ไม่หาทางออก และ ไม่บันทึกไว้เป็นบทเรียนสำหรับการทำงานต่างหากที่จะก่อให้เกิดปัญหาไม่รู้จบ

      เป็นปกติที่เมื่อเขียนเล่าเรื่องต่างๆให้อ่านแล้ว  ผู้วิจัยจะสอดแทรกความคิดเห็นต่างๆลงไปในช่วงท้าย  แต่เมื่อวานนี้ค้างเอาไว้  เนื่องจาก  ต้องรีบ (กลับบ้าน) เข้าไปในเมือง  เพราะ  ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน  อาจารย์พิมพ์นำนักศึกษาไปร่วมงานสถาปนาคณะสังคมสงเคราะห์ที่กรุงเทพฯ  เพิ่งกลับมาถึงลำปางเมื่อคืนนี้ (จะว่าเมื่อคืนก็ไม่เชิงค่ะ  กว่าจะกลับมาถึงตี 1 ก็ถือว่าขึ้นวันใหม่แล้ว)  ดังนั้น  ก่อนที่จะเล่าต่อในวันนี้ผู้วิจัยจึงขอถือโอกาสแสดงความคิดเห็นของตนเองหน่อยก็แล้วกันนะคะ

     ประเด็นของเมื่อวานนี้เป็นการพูดคุยกันในเรื่องของที่ทำการเครือข่ายฯ  และเรื่องคอมพิวเตอร์  สำหรับเรื่องที่ทำการเครือข่ายฯนั้นผู้วิจัยไม่ขอแสดงความคิดเห็นก็แล้วกันนะคะ  เพราะ  เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่  ความจริงทุกคนก็มีความพยายามในเรื่องนี้อยู่แล้ว  แต่การที่เครือข่ายฯยังต้องขอความร่วมมือในการสนับสนุนที่ทำการฯจากหน่วยงานอื่นนั้น  ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าต้องทำใจถ้าหากจะมีอะไรติดขัดหรือชักช้าไปบ้าง  (ก็คงเหมือนอย่างที่ใครหลายคนเคยบอกไว้ว่ามากคนก็มากความ) 

      ส่วนประเด็นในเรื่องคอมพิวเตอร์นั้น  ผู้วิจัยขอตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งก็แล้วกันนะคะว่าเรื่องนี้ถ้าจัดการไม่ดี  อาจทำให้เกิดปัญหาต่อไปได้อีกยาวค่ะ  เนื่องจาก  การที่ได้เข้าไปสังเกตการณ์การประชุมทำให้ผู้วิจัยรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  บางคนก็แสดงความเบื่อหน่าย  (คงเป็นเพราะ  มีการตอบโต้ไปมาระหว่างคณะกรรมการเครือข่ายฯที่เป็นฝ่ายจัดการสั่งซื้อ  กับกลุ่มที่รับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาไป  ไม่จบลงซะที  หรืออาจเป็นเพราะ  กลุ่มของตนเองก็ไม่ค่อยพอใจกับคอมพิวเตอร์ชุดนี้เหมือนกัน)  ในขณะที่ลุงคมสัน  ในฐานะผู้รับผิดชอบสั่งซื้อก็คงรู้สึกอึดอัดใจ  น้อยอกน้อยใจ  (ไม่ขอยกตัวอย่างคำพูดก็แล้วกันนะคะ  ขอรู้กันแต่ในที่ประชุมก็แล้วกันค่ะ)  ส่วนบางคนก็คงจะงงไม่รู้ว่าเรื่องจะจบอย่างไร  (เพราะ  การพูดคุยตั้งท่าจะจบหลายครั้งแล้ว  แต่ก็ไม่จบเสียที  พูดไปพูดมาออกนอกเรื่องบ้าง  วกกลับเข้ามาใหม่บ้าง)  สำหรับผู้วิจัยนั้นเห็นว่าการถกเถียงกันเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน  เพราะ  จะได้สะท้อนให้เห็นว่าแต่ละคนคิดอย่างไร  มีความรู้อะไร  ขาดความรู้อะไร  รวมทั้งมีวิสัยทัศน์อย่างไร (แต่ประธานฯต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้)  แต่  การถกเถียงที่ไม่หาทางออก  และ  ไม่บันทึกไว้เป็นบทเรียนสำหรับการทำงานต่างหากที่จะก่อให้เกิดปัญหาไม่รู้จบ  การที่ผู้วิจัยยกมือขอแสดงความคิดเห็นในตอนท้ายนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะยกตนข่มท่านหรือแสดงภูมิปัญญาว่าตนเองฉลาดแต่อย่างใด  ในทางตรงกันข้ามผู้วิจัยกลับคิดว่าการที่ได้เข้ามาร่วมประชุมในครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้ตนเองกล้าคิด  กล้าแสดงออกมากขึ้น  และยังทำให้เครือข่ายฯได้รับความรู้มากขึ้นด้วย  (ถ้ามีคนสนใจสิ่งที่ผู้วิจัยเสนอ)  อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้วิจัยเห็นว่ามีความน่าสนใจก็คือ  จากกรณีปัญหาในเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเครือข่ายฯยังขาดความรู้ในเรื่องคอมพิวเตอร์  เทคโนโลยี  ซึ่งไม่ใช่สิ่งผิด  เพราะ   ความรู้ในด้านพวกนี้เป็นความรู้  ความชำนาญเฉพาะด้าน  ถ้าไม่ได้มีการศึกษาหรือฝึกฝนก็จะไม่มีความรู้  ความชำนาญในด้านนี้   หากเครือข่ายฯได้ฉุกคิดและนำบทเรียนจากกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาของตนเอง  พยายามหาความรู้ต่างๆมาใช้ในการแก้ไขปัญหาก็จะดีมาก (ความรู้ที่จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาในที่นี้ผู้วิจัยไม่ได้หมายความว่าเครือข่ายฯจะต้องส่งคนไปศึกษาหาความรู้ในเรื่องนี้หรอกนะคะ  แต่เครือข่ายฯสามารถหาวิธีการแก้ไขได้อีกหลายวิธี  เช่น  ถ้าต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องใดแล้วไม่มีผู้มีความรู้เรื่องนั้นอยู่ในเครือข่ายฯ  เครือข่ายฯก็อาจหาความรู้หรือหาผู้รู้จากภายนอกมาช่วยก็ได้)   เพราะ  ถ้าหากมีกรณีเช่นนี้อีก  ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องคอมพิวเตอร์  อาจเป็นเรื่องอื่นๆที่เครือข่ายฯไม่มีความรู้  จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีกหรือถ้าจะเกิดก็เกิดน้อยที่สุด  (เปรียบเสมือนกับการสรุปงานที่ผู้วิจัยได้เสนอเอาไว้  ถ้ามีการสรุปงานก็จะช้วยให้เครือข่ายฯทราบว่าตนเองรู้อะไร  มีความสามารถเรื่องอะไร  มีความสำเร็จเรื่องอะไร  และเรื่องอะไรที่ตนเองยังบกพร่องอยู่  จะได้หาทางแก้ไข  ต่อไปหากมีกรณีอย่างนี้เกิดขึ้นอีกจะได้ไม่ผิดพลาดเหมือนในอดีต) 

      ขอจบความคิดเห็นในประเด็นนี้แต่เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ  ถ้าท่านใดที่เคยประสบปัญหาหรือเคยแก้ไขปัญหาในลักษณะนี้  มีประสบการณ์อย่างไรก็เขียนเล่าสู่กันฟังบ้งนะคะ  จะขอบคุณมากค่ะ  เพราะ  ผู้วิจัยจะได้มีข้อมูล  ความรู้  ไปนำเสนอให้ที่ประชุมทราบ  เป็นการเปิดโลกทัศน์ในอีกทางหนึ่งค่ะ  

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 13420เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2006 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท