จากหัวเรื่อง นี่เป็นลักษณะหนึ่งครับที่ตีความได้อย่างน้อย 2 ลักษณะ คือ คนไทยจะมีอายุยืนยาวขึ้นนะ ต้องเตรียมการอย่างไร (ปัจจุบันคนไทย เริ่มมีอายุยืนยาวมากขึ้นแล้ว และมีจำนวนหลายคน เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ) นี่เป็นประเด็นที่หนึ่งล๊ะ ประเด็นที่สอง คือ จะทำกันอย่างไรดี มีวิธีการไหนบ้างที่จะทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวได้มากขึ้น (ปัจจุบันคนไทยแต่ละคน อายุยังไม่ยืนยาวมากนัก) เป็นเสน่ห์ของภาษาไทย แต่คำถามอย่างนี้แหละที่เอาเข้าจริง หากเป็นการสื่อสารทางเดียว เช่นโจทย์ข้อสอบ ก็เล่นเอาหมังเหมํได้ (คลิ้กดูความหมายของ “หมังเหมํ”)
หัวเรื่องนี้เกิดจากผมเข้าไปอ่านเจอที่ web กรมสุขภาพจิต ตอนเห็นหัวเรื่องผมคาดหวังจะได้ตามประเด็นแรก เพราะมีข้อมูลยืนยันแล้วว่ามีแนวโน้มคนไทยจะอายุยืนยาวขึ้นเรื่อย ๆ และตั้งใจจะนำเอาข้อมูลนี้ไปฝากทีมงาน “ไตรภาคีฯ” ที่ปากพะยูนที่กำลังทำเรื่องนี้อยู่ โดยทีมงานของคุณลูกหมูอ้วน
แต่พออ่านจบกลับพบว่าเป็นไปตามประเด็นที่สองครับ ผิดคาด แต่ไม่ผิดหวังเพราะเป็นประโยชน์ และก็จะเป็นประโยชน์กับทีมงานเช่นที่อยากให้เป็น เอามาฝากไว้ดังนี้ครับ
ผู้เฒ่า ชื่อ หลิว ต้าไห่ ปีนี้อายุ ๙๘ ปี ว่า ทำอย่างไรจึงอายุยืน ท่านบอกว่ามีข้อพึงปฏิบัติอยู่ ๓ อย่าง ที่หากสามารถปฏิบัติได้แล้ว อายุจะยืนแน่นอน ดังนี้
ข้อที่หนึ่ง ออกกำลังกายด้วยการทำงานอย่างสม่ำเสมอ ตัวผู้เฒ่า หลิว เอง ตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ถึง ๙๖ ปี ได้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงงานมาโดยตลอด ท่านมีคำพูดประจำตัวท่าน ว่า “๘๐ปี ร่างกายไม่เคยห่างดิน มือไม่เคยห่างเสียม”
ข้อที่สอง ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา กินเนื้อแต่น้อย เปลี่ยนชนิดอาหารบ่อย ๆ ท่านบอกว่า ทำแบบนี้ใน วัน – สองวัน นั้นง่าย การจะทำอย่างนี้ตลอดไปให้ได้นั้น ย่อมลำบากมาก ยกตัวอย่างว่า แต่ละปีเมื่อถึงวันครบรอบวันเกิด คนในครอบครัวเอย ญาติพี่น้องเอย เพื่อนฝูงเอย ย่อมต้องการให้ของขวัญ เป็นบุหรี่ดี ๆ บ้างละ สุราดี ๆ บ้างละ ของกินดี ๆ บ้างละ เหล่านั้น ตัวผู้เฒ่า หลิว ไม่เคยหวั่นไหว
ข้อที่สาม ต้องมีอารมณ์ที่จะมองโลกในแง่ดี ไม่โกรธ ไม่ทะเลาะกับใคร ๆ มีคำกล่าวว่า “ยิ้มจุ๊บจิ๊บ สิบปีเยาว์ เศร้ากังวล บนหัวขาว” ประมาณว่า เป็นแบบนี้กระมัง
ท่านผู้เฒ่ายังบอกพวกเราว่า ท่านเพิ่งตรวจร่างกายเมื่อเร็ว ๆ นี้ นอกจาก หู และ ตา ไม่ค่อยดีแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายไม่มีปัญหาใด ๆ คนรุ่นเก่าพูดไว้ว่า “คนอายุถึง ๗๐ ปีนั้นหาได้ยาก” แต่เดี๋ยวนี้ ที่ไหน ๆ ก็มีผู้เฒ่า อายุถึง ๗๐ ปี ๘๐ ปี อาจจะมองได้ว่า เป็นเพราะความก้าวหน้าทางสังคม ทำให้ระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้คนที่มีอายุถึง ๗๐ ปี ๘๐ ปี ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ คอลัมน์ "มุมจีน" วันที่ 1 สิงหาคม 2548 และอ่านทั้งหมดได้ที่นี่ครับ http://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=976