ความสำคัญของการฝึกอบรม
ปัจจุบันการฝึกอบรมกำลังตื่นตัวเป็นอันมาก
อีกทั้งได้รับความสนใจและกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในหน่วยงาน
องค์การต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นองค์การขนาดเล็ก กลาง
หรือใหญ่ ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีโครงการฝึกอบรมสัมมนา
สำหรับบุคลากรในระดับต่างๆเกือบทุกระดับ ทุกแผนก
ทุกฝ่ายในหน่วยงานต่างๆเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นการเพิ่มทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพของทรัพยากรบุคล
ซึ่งองค์การต่างๆได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นอย่างมาก
โดยถือว่า
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับการพัฒนาความมั่นคงขององค์การในอนาคต
ซึ่งการแข่งขันในยุคหน้าไม่ได้แข่งขันกันที่คุณภาพของสินค้า ราคา
การบริการหลังการขาย วิธีการจัดจำหน่าย
และการส่งเสริมการขายแต่เพียงเท่านั้น
ยังจะต้องแข่งขันกันในเรื่องของคุณภาพและคุณค่าของคนในองค์การ
ที่จะสามารถสร้างองค์การธุรกิจนั้นๆให้เจริญสืบต่อไป
การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมีสภาพการแข่งขันกันเป็นอย่างมาก
ปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
และช่วยให้ได้เปรียบทางการแข่งขัน คือ การพัฒนาบุคลากร
รองรับกับการเจริญเติบโตขององค์การได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังที่เราจะพบว่าในองค์การขนาดใหญ่หลายองค์การ
ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรขึ้นมาโดนเฉพาะ
ทั้งในส่วนราชการและเอกชน เช่นในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
รัฐบาลได้มอบให้หน่วยงานหลายแห่งปฏิบัติการวางแผนและประสานงานการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ
ได้แก่ สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
สถาบันพัฒนาผู้บริหารการศึกษา วิทยาลัยการปกครองของกระทรวงมหาดไทย
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
และศูนย์เพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรม เป็นต้น
ส่วนหน่วยงานธุรกิจเอกชนที่มีการจัดตั้งหน่วยงานขึ้นรับผิดชอบงานด้านการฝึกอบรม
อาทิ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด
และบริษัทเอสโซ่สแตนดาร์ด จำกัด เป็นต้น
หน่วยงานรับผิดชอบด้านการฝึกอบรมขององค์การต่างๆเหล่านี้
จะทำหน้าที่วิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรมขององค์การ
เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาจัดทำแผนดำเนินโครงการต่างๆ
ตลอดจนสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับนโยบายและความต้องการขององค์การ
และในแต่ละปีหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการฝึกอบรมขององค์การเหล่านี้จะจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมประจำปีขึ้นพร้อมทั้งแจ้งให้หน่วยงานต่างๆภายในองค์การได้ทราบล่วงหน้าทั้งปี
การฝึกอบรมที่ดีจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน
จึงเท่ากับเป็นการเพิ่มผลผลิตให้กับองค์การ
ช่วยทำให้เกิดเจตคติที่ดีกับองค์การ
ช่วยองค์การลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
เพราะการฝึกอบรมทำให้มีการขาดงานน้อยลงและลดอัตราการลาออก
ซึ่งสอดคล้องกับแนวความคิดของคุด (Cooke,1989) ที่กล่าวเสริมไว้ว่า
การฝึกอบรมบุคลากรในองค์การสามารถช่วยวางแผนอัตรากำลังพนักงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การโยกย้ายเลื่อนตำแหน่งแต่งตั้ง
ทำให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง
การฝึกอบรมจะทำให้องค์การได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากความสามารถของพนักงาน
องค์การต่างๆไม่ว่าจากภาครัฐหรือเอกชน
ต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องการจัดฝึกอบรม
มีการส่งเสริมให้บุคลากรมีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมมากขึ้น
บางองค์การกำหนดงบประมาณการฝึกอบรมในอัตราถึงร้อยละ 10
ของงบประมาณทั้งหมด
ไม่ว่าเป็นการฝึกอบรมขณะทำการหรือการฝึกอบรมนอกที่ทำการ
โดยองค์การเป็นผู้จัดฝึกอบรมเองหรือองค์การฝึกอบรมอื่นเป็นผู้จัดฝึกอบรมให้
การที่มีการฝึกอบรมเนื่องจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้
1.
ไม่มีสถาบันการศึกษาใดๆ
ที่สามารถผลิตคนให้มีความสามารถที่จะทำงานในองค์การต่างๆได้ทันที
องค์การที่รับบุคลากรใหม่จึงต้องทำการฝึกอบรมประเภทก่อนการทำงาน
(Preservice Training) ไม่ว่าจะเป็นการปฐมนิเทศ (Orientation)
หรือการแนะนำการทำงาน (Introduction Training)
เพื่อให้บุคลากรใหม่สามารถคุ้นเคยกับสถานที่ที่จะทำงาน
เข้าใจถึงสิทธิและหน้าที่ในฐานะเป็นสมาชิกขององค์การ
ตลอดจนเข้าใจวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน มีความรู้
ทักษะและเจตคติที่พอเหมาะต่อความต้องการของหน่วยงาน
และช่วยสร้างขวัญและเจตคติที่ถูกต้องให้กับบุคลากรใหม่
2.
สภาพแวดล้อมต่างๆอันประกอบด้วย
สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
สภาพแวดล้อมภายนอกได้แก่ สภาพการเมืองเศรษฐกิจและสังคม
ของในประเทศและต่างประเทศ
นโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญทางด้านอุตสาหกรรม
ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
ความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและระบบการศึกษา
ความเสื่อมโทรมของศีลธรรมในสังคม และทรัพยากรธรรมชาติ
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในได้แก่ นโยบายขององค์การ
การแบ่งส่วนงาน การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน
การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหน้าที่ หรือการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่
เป็นผลให้องค์การต้องหาทางให้บุคลากรสามารถทำงานให้สภาพแวดล้อมใหม่ได้ภายในเวลารวดเร็ว
และการฝึกอบรมที่ถูกต้อง
จะช่วยให้บุคลากรสามารถเรียนรู้ได้เร็วยิ่งขึ้น
การฝึกอบรมและพัฒนานี้เป็นการฝึกอบรมหลังจากที่บุคลากรได้เข้ามาปฏิบัติงานในองค์การแล้ว
เรียกว่าการฝึกอบรมระหว่างทำงาน
(In-service
Training)
3.
ได้มีการพิสูจน์แล้วว่าการขาดการฝึกอบรมอย่างมีระบบ
ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมทางอ้อมสูงกว่า
เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานต้องฝึกฝนตนเอง
โดยลองผิดลองถูกหรือสังเกตจากผู้อื่นให้เสียเวลา
และอาจไม่ได้เรียนรู้วิธีการทำงานที่ดีที่สุดอีกด้วย
เมื่อองค์การใดมีการฝึกอบรมอย่างมีระบบ
องค์การนั้นก็ได้รับประโยชน์จากการฝึกอบรม คือ มีการเพิ่มผลผลิต
(Productivity) นั่นก็คือมีผลผลิตสูงมีต้นทุนต่ำมีกำไรมาก
มีบุคลากรที่มีคุณภาพและมีความพอใจในการทำงาน
ตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ลดอุบัติเหตุ
มีการปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการ
ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นหรือผู้รับบริการพึงพอใจในการรับบริการมากขึ้น
มีส่วนแบ่งของตลาดมากขึ้นและสามารถทำให้กิจการเติบโตก้าวหน้าได้
โยเดอร์ (Yoder)
ได้กล่าวว่า
“ถ้าพนักงานได้พัฒนาและใช้ทักษะต่างๆของเขาอย่างสูงสุดและเต็มความสามรถแล้ว
เขาจะต้องมีโอกาสที่จะได้พัฒนาตนเอง
มีช่องทางให้ได้ทำงานที่ใช้ทักษะสูงขึ้น และมีความรับผิดชอบมากขึ้น”
จากคำกล่าวนี้ทำให้เห็นความจำเป็นของการบริหารงานบุคลที่จะต้องมีการพัฒนาบุคลากร
โดยเฉพาะในด้านการฝึกทักษะต่างๆ
เพื่อบุลากรได้ทำงานที่ใช้ทักษะมากขึ้น และมีความรับผิดชอบมากขึ้น
นับเป็นการสนองตอบความต้องการของมนุษย์ตามลำดับขั้นตามทฤษฎีของ
มาสโลว์ (Abraham H. Maslow)
การที่เป้าหมายการบริหารงานขององค์การใดๆจะพัฒนาไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้น
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทรัพยากรบุคลที่มีความรู้ ความสามารถ
และมีค่านิยมและเจตคติที่เป็นไปในทิศทางบวกต่อองค์การ
ตลอดจนมีขวัญและกำลังใจที่ดีในการทำงานในองค์การนั้นๆ ดังนั้น
ในปัจจุบันแทบทุกองค์การจึงเล็งเห็นความสำคัญของบุคลากรและให้ความสำคัญกับบุคลากรมากขึ้น
เพราะเชื่อว่าองค์การจะบรรลุจุดมุ่งหมายได้นั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรภายในองค์การของตนเป็นสำคัญ
การที่องค์การจะมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีขวัญกำลังใจดี
ตลอดจนมีเจตคติและพฤติกรรมที่เป็นประโยชน์ต่องานและองค์การนั้นๆ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการเสริมสร้างและปลูกฝังอย่างต่อเนื่องวิธีการที่นิยมนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการบริหารงานบุคลในปัจจุบันก็
คือ การฝึกอบรมบุคลากรเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ
ทักษะความชำนาญในวิชาชีพเฉพาะ ตลอดจนเสริมสร้างวิสัยทัศน์
และเจตคติที่ดีต่องานและองค์การนั้นๆนั่นเอง
การฝึกอบรมเป็นกระบวนการพัฒนาบุคคล ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง
ๆที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน กิจกรรมจะต้องดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนและต่อเนื่อง
ความจำเป็นในการฝึกอบรม
เกิดขึ้นจากการมีปัญหาข้อขัดข้องและอุปสรรคที่ไม่พึงปรารถนาในหน่วยงานหรือองค์กร
การฝึกอบรมไม่สามารถแก้ไขปัญหาในหน่วยงานหรือองค์กรได้ทั้งหมด
การฝึกอบรมที่วางแผนอย่างดีก็น่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
การฝึกอบรมไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากตัวบุคคล
และการฝึกอบรมสามารถแก้ไขได้บ้างหากเกิดปัญหาจากอุปกรณ์วัสดุต่าง
ๆ วิจิตร อาวะกุล (2537: 63-64) ได้กล่าวว่า
ความจำเป็นในการฝึกอบรม หมายถึง ปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้องใด ๆ
เรื่องใดเรื่องหนึ่งในการทำงาน เช่น ความรู้ไม่พอ ความเข้าใจ ทัศนคติ
ความชำนาญและสามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยการฝึกอบรม
โดยทั่วไปผู้ปฏิบัติงานไม่ดี เพราะขาดในสิ่งเหล่านี้ คือ
K = knowledge (ความรู้)
ขาดความรู้หรือความรู้ไม่พอสำหรับการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย
A = attitude (ทัศนคติ) ขาดท่าทีความรู้สึกที่ดีต่องานที่ทำ ความรัก
การทุ่มเทและไม่มีอุดมการณ์
P = practice (การฝึกปฏิบัติ)
การปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องและหลักวิธีการทำงานที่ถูกต้อง
S = skill (ทักษะ) ทักษะไม่พอเนื่องจากฝึกฝนมาน้อย
ต้องฝึกอบรมเพิ่มเติม
I = interest (ความสนใจ) เนื่องจากขาดการจูงใจที่ดีและเหมาะสม
U = understanding (ความเข้าใจ) ความเข้าใจในวิธีการทำงานต่าง ๆ
ทำให้ได้งานไม่สมบูรณ์
การฝึกอบรมจึงต้องทำการเปลี่ยนแปลง
เพิ่มพูนสิ่งดังกล่าวข้างต้นในตัวบุคคล
อาจแยกอบรมเฉพาะด้านทัศนคติ (Attitude) หรือ ด้านทักษะ (Skill)
หรือด้านความเข้าใจ (Understanding) ตามความจำเป็น
การฝึกอบรมเป็นแนวทางที่สำคัญที่จะทำให้พนักงานมีคุณภาพ
ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพราะการฝึกอบรมช่วยให้
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ใหม่ๆ มีทักษะเพิ่มขึ้น
และมีทัศนคติที่ดีซึ่งการฝึกอบรมเป็นการผสมผสานระหว่างข้อมูลข่าวสารใหม่ๆและประสบการณ์
ทำให้เกิดแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์การ
และทำให้พนักงานมีโอกาสเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตนเอง
ใครบ้างที่จำเป็นต้องรับการฝึกอบรมพนักงานทั้งหมดขององค์กรจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรม
เพราะองค์กรเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางด้านเทคโนโลยี
ความรู้ใหม่ๆและผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป
ดังนั้นผู้บริหารจำเป็นต้องแสวงหาความรู้เพื่อก่อให้เกิดทัศนคติที่ดีให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
โดยต้องตระหนักว่าทุกคนในองค์กรต้องได้รับการฝึกอบรม
เพราะการฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ
เกิดประสบการณ์ ทำให้เกิดการทำงานในแขนงต่างๆให้ดีขึ้น
ดังนั้นการบริหารจึงต้องนึกถึงการฝึกอบรมเป็นสิ่งแรก
และคิดว่าใครบ้างต้องฝึกอบรมในเรื่องใด
หากการฝึกอบรมเปรียบเสมือนการทำการตลาดเพราะมีการทำเป็นขั้นตอน
มีการประสานความร่วมมือเพื่อขายสินค้าให้ได้มากที่สุด
การฝึกอบรมก็เช่นกันต้องทำอย่างเป็นระบบ
ตั้งแต่การหาข้อมูลใครต้องฝึกอบรมเรื่องใด มีความจำเป็นมากแค่ไหน
และมีการประสานความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆในองค์กร
ซึ่งต้องกระทำด้วยความระมัดระวังทุกขั้นตอน
ไปจนสู่การวางรูปแบบการเรียนรู้
การสร้างหลักสูตรเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆในการทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพสูงสุด
การฝึกอบรมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เพราะทำให้เกิดการเรียนรู้เป็นระบบและการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
การจัดอบรมจึงมีความสำคัญสรุปเป็นข้อได้ดังนี้
1.
เพื่อความอยู่รอดขององค์การ
2.
เพื่อสร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์การ
3. เพื่อให้ความรู้
ความเข้าใจและทักษะในการทำงานแก่พนักงานใหม่
4.
ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้
5.
เป็นการกระตุ้นให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น
6.
เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน หรือการทำงานในระดับที่สูงขึ้น
หรือมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ในการทำงาน
การจัดอบรมช่วยนำพาองค์การสู่เป้าหมายตามที่กำหนดไว้
ช่วยทำให้พนักงานมีทักษะและความสามารถในการทำงานอย่างมี
ถ้าประสิทธิภาพ ช่วยสร้างองค์การให้มีการฝึกฝนและกระตุ้น
จูงใจพนักงานอย่างดีพอ
ช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและความสำเร็จในชีวิตของพนักงาน
ช่วยพัฒนาและธำรงรักษาคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงานให้สอดคล้องต่อความต้องการขององค์การ
ช่วยสื่อวิสัยทัศน์ นโยบายและกลยุทธ์สู่พนักงานทุกคน
ช่วยธำรงรักษาพฤติกรรมพนักงานให้มีจริยธรรมและความรับผิดชอบทางสังคม
ช่วยก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการจัดการ
แหล่งค้นคว้าอ้างอิง :
www.pbat.ac.th
www.train355311.freehomepage.com
www.hrd.ru.ac.th
www.thaisouthtoday.com
สุภาพร พิศาลบุตรและยงยุทธ เกษสาคร. (2545)
การพัฒนาบุคลและการฝึกอบรม.พิมพ์ครั้งที่
2.สำนักพิมพ์ห้างหุ้นส่วนจำกัด วี.เจ.พริ้นติ้ง.กรุงเทพมหานคร.
หัวข้อนี้มีใจความสำคัญค่อนข้างสั้น แต่ด้วยกฏเหล็ก 2000 คำ จึงพยายามหาจนได้ หากมีข้อเสนอแนะใดๆเพิ่มเติมก็ ขอความกรุณาด้วยนะคะ.. (0_0)
ขอบคุณหนูนะที่ให้ความรู้แก่พี่ การอ่านคือความสุข แล้วหนูก็ให้ความรู้แก่พี่ได้มากคะ
เป็นบทความที่เป็นประโยชน์ ผู้เขียนเป็นเด็ก "ปัญญาชน" น่ารักมากที่สนใจทำเรื่องแบบนี้