นมเปรี้ยว นายกฯ และความดันเลือด
รถจักรยานยนต์พ่วงถังแช่เย็นดัชมิลล์มักจะแวะเข้ามาขายในโรงพยาบาลที่ผู้เขียนทำงานในช่วงบ่าย
วันนี้พนักงานขายบอกว่า “นายกฯ บอกว่า ให้กินนม นมเลยวิ่ง(ขายดี)มากกว่าโยเกิร์ต”
นายกรัฐมนตรีเป็นอาชีพที่เหนื่อยมากในทัศนะของผู้เขียน ไหนจะต้องนุ่งผ้าขาวม้าไปพักตามบ้านคนโน้นคนนี้ ขี่รถจักรยานยนต์ตะลอนๆ ไปหลายที่ แถมยังมีเรื่องให้บ่นอะไรๆ หลายอย่าง เช่น ต้องแจกโคล้านตัว และบอกเด็กไทยให้กินนมโคอีกต่อหนึ่ง ฯลฯ
แต่ถ้าท่านนายกฯ ได้ยินว่า เด็กๆ กินนมตามคำแนะนำของท่านเพิ่มขึ้นแล้ว ท่านคงจะปลาบปลื้มใจมากทีเดียว
ผู้เขียนขออนุโมทนาที่ท่านแนะนำให้เด็กไทยกินนม และแนวทางของรัฐบาลที่จะคุมเข้มกับการโฆษณาและการขายเหล้า-บุหรี่
ฝาตู้ของคนขายมีข้อมูลบอกเสร็จสรรพว่า นมมีคุณค่าทางอาหารอย่าไรบ้าง มีแคลเซียมกี่เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการส่งเสริมการขายที่อิงหลักฐาน (evidence-based promotion) ที่น่าสนใจทีเดียว
อาจารย์ ดร.รีต้า เคอร์โพลาทำการวิจัยในเมืองเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ในคนไข้ความดันเลือดสูงอย่างอ่อน 94 คน แบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม
- กลุ่มหนึ่งกินนมเปรี้ยว(โยเกิร์ต)ที่ใช้เชื้อแลคโทบาซิลลัส
- อีกกลุ่มหนึ่งกินนมธรรมดา และบันทึกความดันเลือดตลอด 24 ชั่วโมงนาน 10 สัปดาห์
ผลการศึกษาพบว่า
- ความดันเลือดตัวบน (systolic blood pressure) หรือความดันเลือดในช่วงที่หัวใจบีบตัวลดลง 4 หน่วย
- ความดันเลือดตัวล่าง (diastolic blood pressure) หรือความดันเลือดในช่วงที่หัวใจคลายตัวลดลง 2 หน่วย
การลดความดันเลือดแม้เพียง 3 หน่วยมีส่วนช่วย...
- ลดความเสี่ยงจากโรคเส้นเลือดสมองแตกหรือตีบตันได้ 10-13 %
- ลดความเสี่ยงจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันได้ 7 %
อาจารย์ท่านอธิบายว่า เชื้อแลคโทบาซิลลัสในนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตย่อยโปรตีนในนมชื่อเคซีน เกิดเป็นโปรตีนโมเลกุลสั้น ซึ่งมีกรดอะมิโน 3 ตัว
โปรตีนโมเลกุลสั้นนี้มีฤทธิ์ยับยั้งสารที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวและเพิ่มความดันเลือด (acetylcholine esterase) ได้คล้ายยาลดความดันเลือดมาตรฐานกลุ่มหนึ่ง
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ ทำให้ต้องอาศัยการวิจัยอื่นๆ เพื่อสนับสนุน หรือเพื่อคัดค้านการศึกษานี้ เมื่อมีการศึกษาซ้ำๆ กันยืนยันจึงจะเชื่อถือได้แน่ว่า นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตลดความดันได้จริง
การกินผลิตภัณฑ์นมวันละ 1-2 ถ้วยช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลายอย่าง โดยเฉพาะแคลเซียมมีส่วนป้องกันโรคกระดูกผุในคนสูงอายุ
ควรเน้นชนิดที่มีไขมันต่ำ (low fat) หรือไม่มีไขมัน (nonfat)
โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวในประเทศไทยเติมน้ำตาลมาก น้ำตาลนม(แลคโทส)มีอยู่แล้วประมาณ 4.5 % ยังเติมน้ำตาลอ้อยเข้าไปอีก
เวลาซื้อควรเลือกชนิดน้ำตาลต่ำ (low sugar) หรือไม่เติมน้ำตาล (plain yoghurt) ระวังอย่ากินนมมากเกิน เพราะน้ำตาลในนมอาจทำให้ไขมันในเลือด(ไตรกลีเซอไรด์)สูง หรืออ้วนได้
อาหารอื่นๆ ที่มีแคลเซียมสูงมีอีกหลายอย่าง เช่น งาดำ(มีแคลเซียมสูงกว่างาขาว) ผักใบเขียว ฯลฯ
ถ้ากินแล้วนั่งๆ นอนๆ คอยจับผิดลูกน้องแบบผู้บริหารบางท่าน แคลเซียมจะไปจับกระดูกได้ไม่ดี แถมยังมีคราบไข(มัน)ไปจับตามเส้นเลือดทำให้เส้นเลือดอุดตัน และมีไข(มัน)ไปจับรอบๆ พุง ทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น
ผู้บริหารที่ต้องการมีสุขภาพดีจึงควรเดินๆๆ ให้มากหน่อย เพื่อสุขภาพของท่าน และชมๆๆ ลูกน้องให้มากหน่อย เพื่อสุขภาพของทุกคน
ถ้าต้องการให้แคลเซียมจับกระดูกได้ดี ต้องออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก เช่น วิ่ง เดิน ยกน้ำหนัก ฯลฯ
ถ้าออกกำลังกายแบบไม่ลงน้ำหนัก เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ฯลฯ ควรเดินเพิ่มอีกหน่อย ให้กระดูกสั่นสะเทือนพอประมาณ แคลเซียมจึงจะจับกระดูกได้ดี
ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพดี มีความดันเลือดพอประมาณ(ไม่สูง) และมีแคลเซียมจับกระดูกเพียงพอ ต่อไปจะได้ไม่เป็นโรคกระดูกผุในวัยสูงอายุครับ...
แหล่งข้อมูล:
- ขอขอบคุณ > Anne Harding. Fermented milk drink reduces high blood pressure. > http://go.reuters.com/newsArticle.jhtml?type=healthNews&storyID=10938422&src=eDialog/GetContent > January 24, 2006. // source: AJ Hypertension, December 2005.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ศูนย์มะเร็งลำปาง จัดทำ > ๒๔ มกราคม ๒๕๔๙ > แก้ไข 18 พฤษภาคม 2550.
ความเห็น (4)
ติดตามบทความของคุณหมอบ่อยๆ ค่ะ ขอบคุณที่กรุณาให้ความรู้
คำถามนี้จะเกี่ยวกับเรื่องนมๆ ที่สงสัยอยู่ ดังนี้ค่ะ
1. ตามความคิดเห็นของคุณหมอ เรื่องการทำการล้างลำไส้ที่มีไขมัน(จากการกินอาหารประเภทผัดๆ ทอดๆ มากไป)มาจับเกาะกังที่ลำไส้ โดยการใช้นมสด+โยเกิร์ต+น้ำผึ้ง+น้ำมะนาว แล้วทานช่วงเช้า เป็นไปได้แค่ไหนคะ ถ้าเป็นจริง ส่วนผสมคงเป็น 1:1:1:1หรือไม่ และต้องล้างนานเท่าไร ในเมื่อเราอายุปาเข้ามายี่สิบรอบสองแล้วเนี่ย
2. นมสดsterilize กระป๋อง(เช่นตราหมี) คนอายุเลขสี่up ควรทาน หรือใช้ผสมตามสูตรข้อ 1 ไหมคะ
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
- คนที่อายุเกิน 2 ปี(2 ขวบ) แนะนำให้กินนมและผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ (low fat) หรือไม่มีไขมัน (nonfat) เนื่องจากนมมีไขมันอิ่มตัวสูง และมีโคเลสเตอรอล ทำให้เสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดตีบตันในระยะยาว การกินนมเต็มส่วน (whole milk) เช่น นมจืด ฯลฯ ทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัวค่อนข้างมาก (ประมาณ 25 % ของขีดจำกัดใน 1 วัน)
- การกินน้ำให้มากหน่อยตอนเช้ามีประโยชน์มาก เนื่องจากช่วงเช้าเป็นช่วงที่ร่างกายขาดน้ำมาตลอดทั้งคืน นอกจากนั้นยังช่วยให้ถ่ายอุจจาระง่ายขึ้นด้วย
- การชำระล้างลำไส้ใหญ่ที่ดีคือ การกินข้าวกล้อง ถั่ว งา ปลา ผัก ผลไม้ ตลอดจนน้ำ(น้ำเปล่า)พอประมาณ เพื่อให้ได้เส้นใย(ไฟเบอร์) การออกกำลังกาย และการใช้แรงในชีวิตประจำวัน มาตรการเหล่านี้จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้อย่างแข็งแรง เส้นใยและน้ำ(น้ำเปล่า)ทำหน้าที่คล้ายไม้กวาดและไม้ถูพื้น ช่วยล้างลำไส้ให้สะอาดได้ทุกวัน
- ขอให้ท่านผู้อ่านมีความสุขความเจริญ และมีสุขภาพดีครับ
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
- ขออธิบายเพิ่มเติม...
- นมจืดเต็มส่วน (whole milk) ที่ว่า มีไขมันอิ่มตัวค่อนข้างมาก ประมาณ 25 % ของขีดจำกัดใน 1 วันหมายถึง 1 แก้วเล็ก (200 มิลลิลิตร)
- นมไขมันต่ำ (low fat) 1 แก้วเล็ก (200 มล.)มีไขมันอิ่มตัวประมาณ 2-3 % ของขีดจำกัดใน 1 วัน
- นมไม่มีไขมัน (no fat) 1 แก้วเล็ก (200 มล.) มีไขมันอิ่มตัวประมาณ 0 % ของขีดจำกัดใน 1 วัน
- ไขมันที่กินเข้าไปจะไม่จับเกรอะกรังที่ผนังลำไส้ใหญ่ครับ ไขมันมากกว่า 90 % จะถูกย่อย และดูดซึมเข้าไปในร่างกาย ส่วนที่เหลือจะถูกแบคทีเรีย ยีสต์ และราหลายชนิดในลำไส้ย่อยสลาย
- วิธีที่ดีคือ กินไขมันใหม่ให้น้อยหน่อย กินเส้นใย(ไฟเบอร์)และน้ำให้มากพอ ออกกำลังและใช้แรงในชีวิตประจำวัน เพียงเท่านี้สุขภาพก็จะดีขึ้นได้มากมายครับ...
- ขอขอบคุณ และขอให้มีสุขภาพดีไปนานๆ...
