Holistic & Comprehensive care


คุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินแห่งความรัก : จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ของอาจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์

           ในการสอนนิสิตแพทย์ปี 4 ในสาขาวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวนั้น นอกจากหลักการแนวคิดทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวที่สอนกันโดยตรงแล้ว ผมจะพยายามหาบทความเตือนใจให้นิสิตอ่านและวิเคราะห์ร่วมไปด้วยในแต่ละชั่วโมงการเรียนเพื่อจะได้กระตุ้นให้มีการคิด เข้าลักษณะอยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด

            ในเรื่องของ Holistic & Comprehensive care ผมก็ได้นำเอาบทความของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในเรื่องคุณภาพแห่งชีวิต ปฏิทินความรัก : จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน ซึ่งผมได้ติดไว้ที่ห้องทำงานของผมตั้งแต่มาอยุ่ที่บ้านตาก และเป็นความุ่งมั่นในใจที่จะพยายามนำแนวทางจากบทความนี้มาปฏิบัติให้ได้ ผมขอถือโอกาสนี้คัดลอกบทความของท่านมาให้ชาวบล๊อกได้อ่านกันด้วยครับ ดังนี้ครับ

                               เมื่อผมอยู่ในครรภ์ของแม่ ผมต้องการให้แม่ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์ และได้รับความเอาใจใส่และบริการอันดีในเรื่องสวัสดิภาพขอแม่และเด็ก

                                ผมไม่ต้องการมีพี่น้องมากอย่างมีพ่อแม่ผมมีอยู่ และแม่จะต้องไม่มีลูกถี่นัก
                                พ่อแม่กับแม่จะแต่งงานกันถูกกฎหมายหรือธรรมเนียมประเพณีหรือไม่สำคัญ แต่สำคัญที่พ่อกับแม่ต้องอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ทำความอบอุ่นให้ผลและพี่น้อง
                                ในระหว่าง 2-3 ขวบแรกของผม  ซึ่งร่างกายและสมองของผมกำลังเติบโตในระยะที่สำคัญ ผมต้องการให้แม่ผมกับตัวผมได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์
                                ผมต้องการไปโรงเรียน พี่สาวผมหรือน้องสาวผมก็ต้องการไปโรงเรียนจะได้มีความรู้หากินได้ และจะได้รู้คุณธรรมแห่งชีวิต ถ้าผมมีสติปัญญาเรียนชั้นสูง ๆ ขึ้นไป ก็ให้มีโอกาสเรียนได้  ไม่ว่าพ่อแม่ผมจะรวยหรือจน จะอยู่ในเมืองหรือชนบทแร้นแค้น
                                เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว ผมต้องการงานอาชีพที่มีความหมาย ทำให้ได้รับความพอใจว่าตนได้ทำงานเป็นประโยชน์แก่สังคม
                                บ้านเมืองที่ผมอาศัยอยู่ จะต้องมีชื่อมีแป ไม่มีการข่มขู่ กดขี่หรือประทุษร้ายกัน
                                ประเทศของผมควรจะมีความสัมพันธ์อันชอบธรรมและเป็นประโยชน์กับโลกภายนอก ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงความคิดและวิชาของมนุษย์ทั้งโลก และประเทศของผมจะได้มีโอกาสรับเงินทุนจากต่างประเทศมาใช้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม

                                ผมต้องการให้ชาติของผม ได้ขายผลิตผลแก่ต่างประเทศด้วยราคาอันเป็นธรรม
                                ในฐานะที่ผมเป็นชาวนาชาวไร่  ผมก็อยากมีที่ดินของผมพอสมควรสำหรับทำมาหากิน มีช่องทางได้กู้ยืมเงินมาขยายงาน มีโอกาสรู้วิธีทำกินแบบใหม่ ๆ  มีตลาดดีและขายสินค้าได้ราคายุติธรรม
                                ในฐานะที่ผมเป็นกรรมกร ผมก็ควรจะมีหุ้นส่วน มีส่วนในโรงงาน บริษัทห้างร้านที่ผมทำอยู่
                                ในฐานะที่ผมเป็นมนุษย์ ผมก็ต้องการอ่านหนังสือพิมพ์และหนังสืออื่น ๆ  ที่ไม่แพงนัก  จะฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ก็ได้  โดยไม่ต้องทนรบกวนจากการโฆษณามากนัก
                                ผมต้องการสุขภาพอนามัยอันดี และรัฐบาลจะต้องให้บริการป้องกันโรคแก่ผมอย่างฟรี กับบริการการแพทย์ รักษาพยาบาลอย่างถูกอย่างดี เจ็บป่วยเมื่อใดหาหมอหาพยาบาลได้สะดวก
                                ผมจำเป็นต้องมีเวลาว่างสำหรับเพลิดเพลินกับครอบครัว มีสวนสาธารณะที่เขียวชอุ่ม สามารถมีบทบาทและชมศิลปะ วรรณคดี นาฏศิลป์ ดนตรี วัฒนธรรมต่าง ๆ  เที่ยวงานวัด งานลอยกระทง งานนักขัตฤกษ์ งานกุศลอะไรได้พอสมควร
                                ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ น้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่ม
                                เรื่องอะไรที่ผมทำเองไม่ได้ หรือได้แต่ไม่ดี ผมก็จะขอร่วมมือกับเพื่อนฝูงในรูปสหกรณ์หรือสโมสร หรือสหภาพ จะได้ช่วยซึ่งกันและกัน
                                เรื่องที่ผมเรียกร้องข้องต้นนี้ ผมไม่เรียกร้องเปล่า ผมยินดีเสียภาษีอากรให้ส่วนราชการตามอัตภาพ
                                ผมต้องการโอกาสที่มีส่วนในสังคมรอบตัวผม ต้องการมีส่วนในการวินิจฉัยโชคชะตาทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของชาติ
                                เมียผมก็ต้องการโอกาสต่าง ๆ  เช่นเดียวกับผม และเราสองคนควรจะได้รับความรู้และวิธีการวางแผนครอบครัว
                                เมื่อแก่ ผมและเมียก็ควรได้ประโยชน์ตอบแทนจากการประกันสังคม ซึ่งผมได้จ่ายบำรุงตลอดมา
                                เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายอย่างโง่ ๆ  อย่างบ้า ๆ  คือ  ตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น ตายในสงครามกลางเมือง ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำหรือออากาศเป็นพิษ หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ
                                เมื่อตายแล้วยังมีทรัพย์สมบัติเหลืออยู่ เก็บไว้ให้เมียผมพอใช้ในชีวิตของเธอ ถ้าลุกยังเล็กอยู่ก็เก็บไว้เลี้ยงให้โต แต่ลูกที่โตแล้วไม่ให้  นอกนั้นรัฐบาลควรเก็บไปหมด จะได้ใช้ประโยชน์ในการบำรุงชีวิตของคนอื่น ๆ บ้าง
                                ตายแล้ว เผาผมเถิด อย่าฝัง คนอื่นจะได้มีที่ดินอาศัยและทำกิน และอย่าทำพิธีรีตองในงานศพให้วุ่นวายไป
                                สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณท่านทั้งหลายที่อุตส่าห์อ่านมาจนจบ ขอความสุขสวัสดีและสันติสุขจงเป็นของท่านทั้งหลาย และพระท่านกล่าวไว้ดังนี้เกี่ยวกับความสวัสดี
                                เราตถาคตไม่เห็นความสวัสดีอื่นใดของสัตว์ทั้งหลาย นอกจากปัญญาเครื่องตรัสรู้ ความเพียร ความสำรวมอินทรีย์และความเสียสละ

            บทความนี้ มีความสำคัญมากต่อการทำงานของข้าราชการทุกกระทรวง หากทำได้จริง ความสุขแบบพอเพียงของคนไทยน่าจะเกิดขึ้นได้ แม้จะหายจนหรือไม่ก็ตามครับ

หมายเลขบันทึก: 12998เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2006 14:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 19:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท