เจ็บตับ ไฟตับมาก จะรักษาง่ายๆอย่างไร จตุผลาธิกะไงละ

 

ในรอบเดือนมานี้  มีคนไข้เจ็บชายโครงที่ลึกๆ เหมือนเจ็บตับ  มาตรวจรักษากับผมหลายคน 

บางคนผมได้เปรียบ คือ รักษากันแพทย์ท่านอื่นมาก่อนแล้ว ไม่ค่อยทุเลา   ผมก็รักษาต่อ 

บางคนมารักษา  โดยบังเอิญได้พบผม

ผมประเมินแล้ว ช่วยกินของ ทอด มัน เนื้อสัตว์มาก ไม่ค่อยกินผัก  เจ็บชายโครงเหมือนกัน ร่างค่อนไปทางท้วม  ผิวพรรณ สีหน้าดูทรมาน ไม่สบายตัว

กิน จตุผลากะ  แล้ว ทุเลา    บางรายกินรายการเดียวทุเลา   บางรายกินยาอื่นๆด้วย ก็ไปทุเลาได้

นั่งทบทวนในรอบ 20 ปี ของการจบหมอ   คนไข้มามีอาการอย่างนี้ พบได้เรื่อยๆ   ผมก็ไปโทษ ว่าเป็นอาการโรคอื่นๆ

แต่พอใช้ ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ประเมิน สาเหตุ และกลุ่มอาการเสียสมดุล 

พบว่า  ใช้หลักการได้ง่าย ได้ดี   ผู้ป่วยก็ทึ่งว่า ทำไมอธิบายง่าย แล้วเขาก็มักบ่นว่า ไม่เห็นมีใครเตือนเขา เรื่องอาหารการกิน

กลุ่มอาการตับร้อนอย่างนี้ แพทย์ทั่วไป ก็มักวินิจฉัยว่า เป็นโรคไขมันเกาะพอกตับ fatty liver

 

[โอ๋-อโณ]

เรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ที่คนคิดไม่ถึงนะคะ ปัญหาทั้งหลายที่เกี่ยวกับสุขภาพนี้ เริ่มจากการกินเกิน กินผิดธรรมชาติทั้งนั้นเลย เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการกินเท่านั้น ก็ทำให้อะไรๆดีขึ้นได้ ขอบคุณคุณหมอที่นำเรื่องแบบนี้มาบอกเล่าเตือนกันนะคะ

[หมอโชค]

 

เรื่องละเอียดอ่อน ของธาตุสี่  หรือ จะเรียกฮอร์โมน โปรตีนต่างๆ  cytokine ต่างๆ  แปรปรวน    ไม่ใช่ว่า คนจะเข้าใจ และเชื่อกันง่ายๆ

นอกจากเรื่องกิน    เรื่อง การพักหลับ  การอยู่กับธรรมชาติ เพื่อปรับธาตุ ( ปรับลด oxidative stress )   การรู้จักบริหารร่างกาย  ให้ธาตุปกติ  ทำได้อย่างไรนั้น 

คนทั่วไป และ นักวิชาการ ยังสนใจ น้อยอยู่    

  ทุกวันนี้ เรารับชุดความรู้ ตะวันตก รุ่นเก่า     แต่ความรู้ตะวันตกรุ่นใหม่ซึ่งเข้ามาใกล้เคียงกับภูมิปัญญาตะวันออกมากขึ้นทุกที  คนที่รู้ก็ไม่อยากบอก เพราะขี้เกียจทะเลาะขัดแย้งกับ พวกชุดความเชื่อตะวันตกล้าหลัง

การออกกำลังกาย แรงๆ การเล่นกีฬา  การวิ่ง มาราธอน ที่องค์กรมีเงินทั้งหลาย องค์กรราชการ ทั้งหลาย ชอบส่งเสริม ประชาชน นั้น   ล้วนแต่เพิ่มไฟธาตุ เผากายา ให้เสื่อมเร็ว  ให้ธาตุแปรปรวนมากขึ้น  และต้องไปกินผักผลไม้มากขึ้นโดยไม่จำเป็น เพื่อปรับธาตุ

การแก้อ้วน ควรแก้ที่ฉลาดกิน มีสติในการกิน มีนโยบายด้านอาหารที่เหมาะสม ไม่ใช่ไปเน้นการลดพุงด้วยการออกแรงหนักๆ

ต้องสร้างค่านิยม กินมากเกิน เป็นเรื่องของการด้อยปัญญา ทำลายตัวเองและประเทศชาติ

สร้างค่านิยม ปลูกต้นไม้ ปลูกผักกระถางกินเองได้ 

ตราบใด องค์กรชั้นนำ ยังหลงทาง ก็ต้องทำใจไปก่อน ว่า   ปัญญา ละเอียดอ่อน  ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจกันง่ายๆ   ต่อให้เรียนจบปริญญาเอก  ต่อให้ตำแหน่งสูงใหญ่โตแค่ไหน   หากชีวิตเขายังไม่ได้สัมผัสกับ ธรรมชาติ  ธรรมดาวิสัย ที่แท้จริง

จะเข้าใจได้  เราก็ต้องมีทัศนะว่า ชุดความรู้ของชาติดั้งเดิมของบรรพบุรุษ  ต้องมีหลายสิ่งที่ดีงามและใช้ได้    ที่ท่านอายุยืน ท่านอยู่ได้ถูกต้องอย่างไร