ถ้ามีกระบวนการจัดการความรู้ที่ดี และมีการดำเนินการจัดการความรู้ให้กับกลุ่มเหล่านี้ เราอาจพบทาง (ลัด) ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่แผนที่ภาคสวรรค์ตั้งไว้ก็ได้
ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ว่าวันนี้จะลงรายละเอียดในแต่ละเรื่องที่จะนำเข้าที่ประชุม
เครือข่ายฯ ในวันที่ 22 มกราคม 2549
แต่พอตื่นขึ้นมารู้สึกไม่ค่อยสบายเลย
หัวตื้อๆยังไงก็ไม่รู้ค่ะ
พยายามนั่งคิดอยู่ตั้งนานก็คิดไม่ค่อยจะออก
ก็เลยหันไปทำกิจกรรมอื่นก่อน แล้วค่อยมานั่งคิดใหม่
ทีนี้หนักกว่าเดิมค่ะ คิดวนไปวนมา สับสนยังไงก็ไม่รู้
ก็เลยเลิกคิด (อีกครั้ง)
ตั้งใจว่าถ้ารู้สึกดีขึ้นค่อยมานั่งคิดใหม่
แต่ก็ไม่เห็นจะดีขึ้นเลย ทีแรกตั้งใจว่าจะเลิกคิดแล้ว
พับเก็บไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่
แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะ
คิดว่าพรุ่งนี้คงไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแน่
เนื่องจากต้องไปดูนักศึกษาเตรียมตัวจัดงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์
ตั้งแต่เช้าจนเย็น ก็เลยเอากลับมานั่งคิดใหม่
แต่ก็ยังคิดไม่ออกอีก ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
ครั้นจะไม่คิดก็ไม่ได้เหมือนมีอะไรที่ติดอยู่ในใจ
ยังทำไม่เสร็จ ในที่สุดก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่ค่ะ
ไม่คิดเรื่องประชุมเครือข่ายฯแล้ว
แต่ลองเอาเป้าหมายของการจัดการความรู้ในระดับกลุ่มกับระดับสมาชิกมานั่งอ่านดู
เหมือนสวรรค์จะเห็นใจ
อยู่ดีๆก็เกิดความคิดว่าน่าจะลองออกแบบกิจกรรมเกี่ยวกับการทำธุรกิจชุมชน
ก็เลยนั่งลองคิดดูค่ะ (ตั้งเป็นตุ๊กตาไว้ก่อนค่ะ
เป็นการทำการบ้านไว้ก่อน
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำอย่างที่ผู้วิจัยออกแบบไว้)
การจัดการความรู้ระดับกลุ่มและระดับสมาชิกที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ใน 1
ปีนั้น เป้าหมายหนึ่งก็คือ
การนำเงินกองทุนธุรกิจชุมชนมาลงทุนทำธุรกิจชุมชน
ซึ่งถ้าพิจารณาตามแผนที่ภาคสวรรค์จะเห็นว่า
ในการที่จะทำธุรกิจชุมชนได้นั้น
กลุ่มจะต้องมีการทำแผนแม่บทชุมชน ต้องมีการทำประชาคมก่อน
ผลจากกระบวนการนี้จะนำมาสู่การทำธุรกิจชุมชน
หากพิจารณาตามข้อเท็จจริงในขณะนี้จะเห็นว่ากลุ่มต่างๆที่เป็นสมาชิกเครือข่ายฯนั้น
บางกลุ่มได้นำเงินในกองทุนนี้ไปดำเนินการทำธุรกิจชุมชนแล้ว
เช่น กลุ่มแม่ทะ-ป่าตัน กลุ่มบ้านเหล่า (เถิน)
กลุ่มแม่พริก เป็นต้น
แต่กลุ่มเหล่านี้ก็ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนที่ภาคสวรรค์แต่อย่างใด
การทำธุรกิจของกลุ่มเหล่านี้ต้องยอมรับว่า (เท่าที่เก็บข้อมูลได้)
เป็นการนำเงินมาใช้โดยผ่านการประชุม
เห็นชอบจากคณะกรรมการเป็นส่วนใหญ่
ในประเด็นนี้ หากถามความคิดเห็นผู้วิจัย
ผู้วิจัยเห็นว่าถ้าเรามีกระบวนการจัดการความรู้ที่ดี
และมีการดำเนินการจัดการความรู้ให้กับกลุ่มเหล่านี้ เราอาจพบทาง
(ลัด) ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่แผนที่ภาคสวรรค์ตั้งไว้ก็ได้
(ไม่ใช่ว่าแผนที่ภาคสวรรค์ไม่ดีนะคะ เป็นแผนที่ที่ดีมาก
แต่ผู้วิจัยเห็นว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ค่ะ)
ดังนั้น
ในวันนี้ผู้วิจัยจึงมานั่งคิดดูว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
ต้องมีกิจกรรมอะไรบ้างที่จะทำให้สมาชิกและกลุ่มมีส่วนร่วม
มีการเรียนรู้เพื่อทำให้เกิดธุรกิจชุมชนขึ้นมาในชุมชนของตนเอง
(ขอบอกอีกครั้งค่ะว่าเป็นเพียงตุ๊กตาที่ตั้งไว้)
แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าความคิดนี้วางอยู่บนพื้นฐานจากการที่ได้พูดคุยกับกรรมการของกลุ่มต่างๆ
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
เพียงแต่เป็นการพูดคุยที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วขอสารภาพอีกครั้งค่ะว่าผู้วิจัยไม่มีความรู้ในเรื่องแผนแม่บทชุมชนเลย
(เป็นการสำรวจตัวเอง
ซึ่งเมื่อพบแล้วทำให้ผู้วิจัยมีการบ้านขึ้นมาอีก 1 ข้อ
คือ ต้องหาความรู้ในเรื่องแผนแม่บทชุมชนค่ะ)
ดังนั้น แผนนี้จึง (อาจ)
ไม่ได้วางอยู่บนพื้นฐานของการทำแผนแม่บทชุมชนค่ะ
สำหรับรายละเอียดของโครงการมีดังนี้ค่ะ
โครงการพัฒนาธุรกิจชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิต
พิชิตความยากจน
และชุมชนมีสวัสดิการ
วัตถุประสงค์
เพื่อพัฒนาพื้นที่ต้นแบบในการสร้างและบริหารจัดการธุรกิจชุมชนของสถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนจังหวัดลำปาง
จำนวน 5 พื้นที่ ได้แก่
1.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนป่าตัน-นาครัว
เทศบาลตำบลป่าตัน-นาครัว อำเภอแม่ทะ
จังหวัดลำปาง
2.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนบ้านดอนไชย
เทศบาลตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง
3.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนเกาะคา
เทศบาลตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
4.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนป่าตัน-นาครัว
เทศบาลนครลำปางเขต 4 อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
5.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนแม่พริก
เทศบาลตำบลแม่พริก อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง
โดยใช้ระยะเวลาในการสร้างธุรกิจชุมชน
รวมทั้งการบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรม
และมีการติดตามประเมินผลภายใน 6 เดือน
กลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ดำเนินการ
พื้นที่ดำเนินการ
โครงการนี้คัดเลือกพื้นที่ต้นแบบขึ้นมาจำนวน 5 พื้นที่
(ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น) ซึ่งใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณา
คือ ความพร้อมของสมาชิกและคณะกรรมการบริหาร และ
ทุนในการดำเนินการ รวมทั้งความสมัครใจขององค์กร
(กลุ่ม)
กลุ่มเป้าหมาย
ในการคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายนั้น ตั้งอยู่บนหลักการที่ว่า
ธุรกิจชุมชนนั้นเป็นของชุมชน ดังนั้น
จึงควรให้สมาชิกของชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกกระบวนการมากที่สุด
ดังนั้น
กลุ่มเป้าหมายที่ตั้งขึ้นมานั้นจึงมาจากจำนวนสมาชิกของสถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนของทั้ง
5 องค์กร (กลุ่ม)
ประกอบด้วย
1.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนป่าตัน-นาครัว
เทศบาลตำบลป่าตัน-นาครัว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
จำนวน 400 คน
2.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนบ้านดอนไชย
เทศบาลตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง จำนวน
2,000 คน
3.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนเกาะคา
เทศบาลตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง จำนวน
300 คน
4.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนป่าตัน-นาครัว
เทศบาลนครลำปางเขต 4 อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จำนวน
600 คน
5.สถาบันพัฒนาระบบการออมเพื่อสุขภาวะและสวัสดิการชุมชนแม่พริก
เทศบาลตำบลแม่พริก อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง จำนวน
500 คน
6.ภาคีร่วมพัฒนา เช่น สถาบันการศึกษา
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ
คณะกรรมการของสถาบันฯ (ระดับจังหวัด) และ คณะกรรมการของสถาบัน
(ระดับองค์กร) ประมาณ 100 คน
หมายเหตุ :
จำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้เป็นจำนวนสมาชิกโดยประมาณของแต่ละกลุ่ม
ในการทำจริงอาจลดจำนวนลงก็ได้ค่ะ เช่น ชุมชนละ 100
คน เป็นต้น
วิธีดำเนินงานหรือกิจกรรม
การดำเนิน “โครงการพัฒนาธุรกิจชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิต
พิชิตความยากจน และชุมชนมีสวัสดิการ” นั้น
มีวิธีดำเนินงานและกิจกรรมดังนี้
|
การดำเนินงานและกิจกรรม
|
ก่อนเกิดธุรกิจชุมชน
ระหว่างกระบวนการทำธุรกิจชุมชน
หลังการเกิดธุรกิจชุมชน
|
- จัดเวทีประชุมเตรียมการ จำนวน 6 ครั้ง แบ่งเป็น
การประชุมเตรียมการ (ทำความเข้าใจ) ในระดับจังหวัด 1 ครั้ง
และระดับองค์กร (กลุ่ม) จำนวน 5 ครั้ง (องค์กรละ 1 ครั้ง)
- ประชุมทำความเข้าใจกับสมาชิกของ 5 องค์กร
องค์กรละ 1 ครั้ง
- สำรวจข้อมูลความต้องการธุรกิจชุมชนของสมาชิกทั้ง 5
องค์กร โดยใช้แบบสำรวจ
-จัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกและภาคีร่วมพัฒนา จำนวน
5 ครั้ง (องค์กรละ 1 ครั้ง)
- จัดทำธุรกิจชุมชนตามโครงการที่ได้รับการเสนอจากสมาชิก
- การประชาสัมพันธ์ธุรกิจชุมชนตามสื่อต่างๆ
- การประเมินผลการดำเนินการธุรกิจชุมชน
- จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางการปฏิบัติ
|
|
|
|
ระยะเวลาในการดำเนินงาน
ระยะเวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้น 6 เดือน
โดยจำแนกรายละเอียดได้ดังนี้
ขั้นตอนการดำเนินการ
|
|
|
เดือนที่
|
|
|
|
ผลลัพธ์
|
|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
|
1.จัดเวทีประชุมเตรียมการ
|
|
|
|
|
|
|
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเข้าใจและให้ความร่วมมือ
|
2.ประชุมทำความเข้าใจกับสมาชิก
|
|
|
|
|
|
|
สมาชิกเกิดความเข้าใจ
เห็นความสำคัญ และให้ความร่วมมือ
|
3.สำรวจข้อมูลความต้องการธุรกิจชุมชน
|
|
|
|
|
|
|
ได้ข้อมูลความต้องการธุรกิจชุมชน
|
4.จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น
|
|
|
|
|
|
|
ได้ข้อมูลความต้องการธุรกิจชุมชนและข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการ
|
5.จัดทำธุรกิจชุมชน
|
|
|
|
|
|
|
เกิดธุรกิจชุมชน
|
6.การประชาสัมพันธ์ธุรกิจชุมชน
|
|
|
|
|
|
|
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบและให้การสนับสนุนธุรกิจชุมชน
|
7.การประเมินผลการดำเนินการ
|
|
|
|
|
|
|
ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างและการบริหารจัดการธุรกิจชุมชน
|
8.จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย
|
|
|
|
|
|
|
ได้ข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางปฏิบัติสำหรับหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้อง
|
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.เป็นต้นแบบในการสร้างและการบริหารจัดการธุรกิจชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิต
พิชิตความยากจน และชุมชนมีสวัสดิการ
ให้กับองค์กรอื่นๆในสถาบันฯและองค์กรภายนอก
2.ช่วยเติมเต็มการบริหารจัดการในระดับจังหวัดและระดับกลุ่มให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็ง ความยั่งยืน
ของการจัดสวัสดิการชุมชน
3.ได้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับภาคีร่วมพัฒนา
ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานร่วมกัน และความยั่งยืนในที่สุด
วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะคะ คิดได้แค่นี้ค่ะ ยังไงก็ช่วย
Comment
ด้วยนะคะ จะดีมากค่ะถ้าช่วยแนะนำหนังสือหรือเอกสารเกี่ยวกับแผนแม่บทชุมชนให้กับผู้วิจัยสำหรับนำมาใช้ในการศึกษา
(พรุ่งนี้ถ้าสติกลับคืนมา
จะเอาแผนนี้มานั่งอ่านและคิดอีกครั้งค่ะ
บางทีอาจลบแผนนี้ออกไปจากความคิดก็ได้ค่ะ)