VD
ราชาวดี vd ปิงฟ้าวิลันดา

ทำสบู่กันเถอะ


สบู่ทำเอง

จะเรียกสบู่ทำมือ หรือ ก็ดูไม่ตรงไม่ต้องนัก เรียกสบู่ทำเอง หรือสบู่ทำตามบ้านจะดีกว่า(มั้ง)

 วันนี้บรรยากาศเบาสบายๆ ได้รับอีเมล์ฉบับหนึ่งว่าสนใจการทำสบู่ เลยมาเขียนบล็อกชวนทำสบู่กันซะเลยจะดีกว่า เผื่อใครอื่นสนใจจะลองทำเล่นดูในวันว่างๆ

 สบู่ก้อนที่เราใช้กันทุกบ้านทุกเรือนนั้น มีส่วนประกอบง่ายๆ แค่น้ำ โซดาไฟ และไขมัน สามอย่างเท่านั้น ฟังดูน่าแปลกใช่ไหม ว่าทำไมต้องใช้ไขมัน หรือทำไมต้องมีโซดาไฟด้วย แล้วไม่อันตรายหรือไง

อันตรายค่ะ :D อิอิ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไปไหน ที่ว่าอันตรายนั้นก็คือ เมื่อนำสามอย่างมารวมกันแล้ว โซดาไฟมันจะยังมีฤทธิ์อยู่เพียง สามสัปดาห์เท่านั้น เราต้องปล่อยสบู่ของเราผึ่งลมผึ่งแล้งไว้สามสัปดาห์ แล้วจึงนำมาใช้ค๊า

และหากกลัวอันตราย เกรงว่าสบู่ที่ได้จะมีความเป็นด่างมากเกินไป ก็หากระดาษวัดค่า pH มาใช้สักกล่อง ค่าสบู่ทีไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังของคนเราคือ ค่าที่ได้ต้องไม่เกิน 10 แต่ส่วนใหญ่สบู่ทำเอง หรือเรียกให้เก๋สมสมัย คือสบู่โฮมเมด นั้น ค่าที่ได้จะอยู่ที่ 8-9 ก็ปลอดภัยแล้วค่ะ ใครทำได้ 7 ถือว่าเจ๋ง :D ส่วนค่า pH ของสบู่หรือเจลล้างหน้าที่เขาว่าเท่าน้ำนั้น เวลาใช้แล้วจะรู้สึกยังเหนอะๆ อยู่ เพราะค่าเท่าน้ำ น่าจะแปลว่า ใช้น้ำก็ได้ ไม่ต้องใช้สบู่ อิอิ เพราะทำสบู่แล้วมีค่าเท่าน้ำ งงไหมเนี่ยะ

การทำสบู่นั้น ว่าไปต้องเขียนอะไรมากมาย มีการคำนวนการใช้โซดาไฟ และใช้น้ำด้วย แต่คิดว่า ในครั้งแรกนี้ ลองหัดทำดูก่อน ถ้าทำได้ในครั้งแรกแล้วติดใจ ค่อยว่ากันต่อ

สุตรสำเร็จที่จะแนะนำให้ลองในครั้งแรกนี้ เป็นสูตรสบู่ก้อนแข็ง ฟองไม่มากนัก (แต่เรามีวิธีทำให้มีฟองมากในภายหลัง) แต่นำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น ซักผ้าได้สะอาด ล้างจานได้เอี่ยมอ่อง ล้างมือพอได้ หากใช้อาบน้ำไม่แนะนำ เพราะผิวอาจแห้งไปสักหน่อย

สบู่ที่อยากให้ลองทำในครั้งแรกนี้คือสบู่จากน้ำมันปาล์มค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้ว ในสบู่ทั่วไปที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด ก็มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์มเป็นหลักเช่นกัน เพราะน้ำมันปาล์มนั้นหาง่าย ราคาถูก มีคุณสมบัติในการทำระล้างได้สะอาด

เตรียมน้ำมันปาล์ม 500 กรัม

โซดาไฟ 65.3 กรัม (ใช้โซดาไฟ 13.06%ของน้ำหนักน้ำมันปาล์ม)(น้ำมันแต่ละชนิดใช้โซดาไฟมากน้อยต่างกันนะคะ)

น้ำ 160 กรัม (ใช้น้ำ 32 % ของน้ำหนักน้ำมัน อาจเพิ่มหรือลดได้ ตั้งแต่ 30-38 % ตามความเหมาะสม ในที่นี้ลองใช้ 32 ดูก่อนนะคะ ถ้าดีแล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยน)

หากต้องการกลิ่นหอม สามารถใส่น้ำมันหอมระเหย หรือน้ำมันหอมปรุงแต่งได้ 2 % (ใส่มากกว่านี้อาจแพ้ได้นั่นเอง) แต่หากใครอยากหอมอย่างธรรมชาติแท้จริง เตรียมน้ำมันล่วงหน้าสัก 7 วันนะคะ หาดอกกระดังงา(เด็ดตอนเย็น) มาแช่ไว้ แล้วนำไปตากแดด เขย่าทุกวันๆ ละ 1 ครั้ง พอจะใช้ก็กรองเอาแต่น้ำมันมาใช้ จะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แต่หอมนานๆ หอมเรื่อยๆ ไม่ฉูดฉาดว่างั้น

ได้ทุกอย่างวางไว้ตรงหน้า ชั่งเรียบร้อยตามสูตรแล้ว อ้อ ภาชนะที่จะใช้ในการทำสบู่นี้ ขอเป็นสแตนเลส หรือพลาสติกชนิดที่เข้าไมโครเวฟได้นะคะ ไม่เอาอลูมิเนียมเด็ดขาดทีเดียว เพราะโซดาไฟไม่ถูกกับอลูมิเนียมค่ะ

ใช้กาละมังเก่าๆ ใส่น้ำ ตั้งไฟร้อนปานกลาง แล้วยกหม้อน้ำมัน 500 กรัมที่ชั่งไว้แล้วของเรา ขึ้นวางกลางกาละมัง เราจะไม่ให้หม้อน้ำมันตั้งบนเตาตรงๆ เพราะอาจทำให้น้ำมันของเราไหม้นั่นเองค่ะ

จากนั้นมาจัดการกับโซดาไฟและน้ำ ใช้ช้อนตักโซดาไฟใส่ลงไปในน้ำทีละช้อน ห้ามเทพรวดเดียว เพราะอาจทำให้เกิดการกระเด็น และห้ามเทน้ำใส่โซดาไฟเด็ดขาด เพราะเมื่อโซดาไฟโดนน้ำแล้ว จะเกิดควันและความร้อน

เวลาทำการผสมน้ำกับโซดาไฟนี้ เป็นขั้นตอนที่อันตราย หากเป็นไปได้ ควรสวมแว่นตา คาดจมูก และสวมถุงมือยางด้วยก็ดี

คนไปจนโซดาไฟละลายหมด สารละลายที่ได้จะร้อนมาก (แตะด้านนอกของภาชนะ)

หันไปดูน้ำมันบนเตาบ้าง ลองใช้ช้อนหยดน้ำมันลงบนนิ้วสักเล็กน้อย เปรียบเทียบอุณหภูมืระหว่างน้ำมันกับสารละลายโซดาไฟ ให้มีอุณภูมืใกล้เคียงกัน (ประมาณ 60 องศา)หากมีเทอร์โมมิเตอร์วัดก็จะดี แต่อิฉันไม่ค่อยได้ใช้ เนื่องจากคิดว่าตัวเองชำนาญ :D

เมื่ออุณภูมืกำลังดี เท่าๆ หรือใกล้เคียงกันแล้ว ปิดไฟที่เตา แล้วเทสารละลายโซดาไฟลงในหม้อน้ำมันอย่างช้าๆ ใช้พายยางคนเบาๆ

พอเทหมดแล้ว เอาภาชนะที่ใส่สารละลายโซดาไฟ ใส่ในอ่างล้างจาน แล้วเปิดน้ำไหลเบาๆ สักพัก แล้วค่อยล้างให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำต่อไป (คือการทำให้สารละลายที่ติดอยู่นั้นเจือจางให้มากที่สุดก่อน ค่อยทำการล้างตามปรกติ)

จากนั้น ถึงเวลาคนสบู่กันแล้ว แรกๆ จะยังเป็นน้ำเหลวๆ เราสามารถยกหม้อสบู่ของเราลงจากเตา เอาไปคนใต้ต้นไม้ได้ คือทำในที่ๆ โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพราะกลิ่นสบู่ที่ผสมใหม่ๆ นั้น ไม่ค่อยโสภาเท่าใดนักนั่นเอง

ทำสบู่น้อยๆ ประมาณ 500-600 กรัม สามารถใช้กล่องพลาสติกเป็นแม่พิมพ์ได้ หรือจะใช้ถ้วยวุ้น แม่พิมพ์ขนม(ที่ทำจากพลาสติก) เป็นแม่พิมพ์ได้

คนพอสบู่หนืดข้น เหมือนนมข้น และอุณภูมิลดลงบ้างแล้ว ค่อยใส่น้ำมันหอมลงไปผสม เพราะหากใส่ตอนร้อนมาก น้ำมันหอมระเหยก็ระเหขไปหมดอดหอมกัน อิอิ

หากใครอยากใส่ขมิ้นผง สมุนไพรต่างๆ (สมุนไพรแห้งบดละเอียด) หรืองาดำบดละเอียด ก็สามารถใส่ได้ตอนนี้ โดยใส่ได้ไม่เกิน 2%

คนให้เข้ากันดี แล้วเทลงแม่พิมพ์

สำหรับเศษสบู่ที่เหลือติดหม้อผสมนั้น อิฉันกำจัดด้วยวิธีเปิดน้ำเข้าเครื่องซักผ้า(ฝาบน) ล้างลงเครื่องซักผ้าไปโลดค่ะ จากนั้นก็หาผ้ามาใส่ ซักซะเลย อิอิ คือทำยังไงก็ได้ที่ไม่ให้ทิ้งเปล่า และไม่ต้องไปสัมผัสกับมันตรงๆ นั่นเองค่ะ

ทิ้งสบู่ไว้ในแม่พิมพ์สักวัน หรือสองวัน สบู่ก็จะแข็ง ใช้มีดกรีดเซาะรอบๆ แม่พิมพ์ แล้วคว่ำแม่พิมพ์ลงบนโต๊ะที่สะอาด อาจต้องเคาะเบาๆ ช่วย แต่ถ้าใครเอาออกมาแล้วเละแตก ก็ไม่ต้องตกใจไป เละแล้วก็ปล่อยไว้งั้นก่อน เอาออกจากพิมพ์แล้วผึ่งไว้สักวัน เอามือสวมกับถุงพลาสติกใส ที่ใหญ่กว่ามือ แล้วรวบสบู่ที่ไม่ได้รูปได้ร่างของเราให้เป็นก้อน จะปั้นเป็ฯก้อนกลมแล้วกดให้แบนก็ได้ ที่ทำให้แบนก็เพื่อว่าสบู่ของเราจะได้แห้งง่าย เราจะผึ่งสบู่ของเราไว้ในที่โปร่งๆ จนแห้งดี (ใช้พิจารณาญาณ) แล้วห่อด้วยกระดาษไขเก็บไว้ รอให้ครบเวลา สามสัปดาห์นับแต่วันที่ทำ แล้วเอาออกมาทดสอบด้วยกระดาษวัดค่า pH โดยการนำมาฟอกมือตามปรกติ และเอากระดาษแตะน้ำสบู่ที่ฟอกอยู่ที่มือ กระดาษจะเปลี่ยนสี นำไปเปรียบเทียบกับค่าสีที่ข้างกล่อง ก็จะทราบค่าว่า สบู่ของเรามีค่าเป็นเท่าไหร่ ซึ่งตามสูตรที่ให้ไปข้างบนนี้ ค่าที่ได้ควรจะอยู่ที่ 8-10

ในการเตรียมการทำสบู่ครั้งต่อไป เราสามารถใช้นมสด น้ำสมุนไพร น้ำผลไม้ แทนน้ำเปล่าได้

การใช้สบู่ทำเอง เมื่อครบเวลา และวัดค่า pH แล้ว จะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อผิวพรรณ ไม่มีสารกันบูด ไม่มีสารฟอกขาว และใช้น้ำหอมที่ไม่เกินเปอร์เซนต์

หากคนหันมาใช้สบู่ที่ทำเองที่บ้านแล้ว จะเป็นการช่วยลดการใช้สารเคมีลงได้มากมาย ลองทำดู.. คุณหรือใคร ก็ทำได้ ไม่ยากไม่เย็นค่ะ :D

หมายเลขบันทึก: 127366เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2007 14:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2014 23:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

วิธีทำให้สบู่น้ำมันปาล์มีฟองมากคือการใช้สบู่ร่วมกับใยขัดค่ะ อาจใช้ใยบวบ หรือใยสังเคราะห์ที่เป็นสีๆ ที่มีขายทั่วไปก็ได้ จะช่วยทำให้เกิดฟองมากมายค่ะ

แต่หากเราใช้น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอกทำสบู่ สบู่ที่ได้ก็จะมีฟองมากมาย (น้ำมันแต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกันค่ะ น้ำมันปาล์มให้ฟองน้อย แต่เราสามารถทำให้เกิดฟองได้ด้วยวิธีการที่บอกไว้ด้านบน)

  • แวะมาเรียนรู้คะ..เป็นคนชอบซื้อสบู่เป็นของฝาก
  • ชอบไปดม..ดม...แล้วก็ดม
  • อิอิ..ก็มันมีหลายกลิ่นหอมยวนใจ
  • มีกลิ่นข้าว....ด้วยคะ
  • เวลาไปจตุจักรทีไร..ต้องแวะไปดม...
  • แวะไปซื้อคะ...เดี๋ยวนี้มีรูปแบบแปลกๆสวยมากคะ
  • แต่ข้อเสียคือราคาสูงตาม..เลยได้แต่ดมแล้ววาง...จนแม่ค้ามองค้อนคะ

สวัสดีค่ะคุณ VD

  • ดิฉันเคยเห็น สบู่ผสมดอกคำฝอย ก็แปลกดีค่ะ เคยเห็นแต่ดอกคำฝอยไว้ชงดื่ม หรือเอาไว้เข้าเครื่องยาน่ะค่ะ
  • ขอบคุณนะคะที่เผยวิธีทำสบู่ไว้ใช้เอง แบบไม่หวงวิชา บอกกลเม็ดเคล็ดไม่ลับเสร็จสรรพ

สวัสดีเจ้า..

ข้าเจ้าชอบซื้อสบู่ที่กลิ่นหอมๆแพคกิ้งสวยๆ บ่าเดี่ยวหันเปิ้นทำเป๋นสบู่สปามีกลิ่นหอมๆนักขนาด ของปี้สาวแป๋งเป๋นอย่างใดเจ้า.??

สบู่ที่ทำเป็นสบู่ที่อาจหอมสู้สบู่อื่นไม่ได้ เพราะ ถ้าจำเป็นต้องใช้น้ำหอม ก็ใช้นิ๊ดเดียว แต่ใช้แล้วสะอาดเท่ากัน และผิวไม่แห้งค่ะ สรรพคุณก็มีเท่านี้ ที่พอดิบพอดีกับคนทำแล้วค่ะ

PH 5.5 ค่ามันเป็นกรดอ่อนๆ น่ะครับ ไม่ใช่ ค่าเท่ากับน้ำ เพราะค่า PH น้ำมันคือ 7 คับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท