วิสาหกิจเพื่อพัฒนาบัณฑิต (6)


“เหมือนกับเปิดประตู-หน้าต่าง เห็นก้อนเมฆ เห็นท้องฟ้า เห็นดวงดาว ก็ไปคว้าจับมากำหนดเป็น SWOT” คือมันค่อนข้างเลื่อนลอย ต้องอาศัยวิจารณญาณของกลุ่มในการสร้างความชัดเจนให้กับแต่ละประเด็น

การสอนครั้งที่ 6 ตรงกับวันพุธที่ 13 ก.ค. 48 ในช่วงเริ่มต้นผมให้นศ.กลุ่มที่ตกค้างในการนำเสนอ Business Model เกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวสร้างประสบการณ์ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ออกมารายงานปรากฎว่า นศ.ได้นำเสนอธุรกิจของฟาร์มโชคชัยเป็นหลัก โดยเล่าให้ฟังว่า มีกิจกรรมอะไรบ้าง ประกอบกับรูปภาพสวย ๆ ดูเพลิดเพลินดี แต่สิ่งที่ขาดไปคือหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ในขั้นตอนนี้ คือ Business Model ผมจึง Comment ให้นศ.ปรับปรุงในจุดดังกล่าว เพื่อความสมบูรณ์ของการทำแผนธุรกิจ (Business Plan) ในลำดับต่อไป

ต่อจากนั้น นศ.ทั้ง 5 กลุ่ม ได้ทำการนำเสนอ SWOT-Analysis ภายใต้โจทย์ที่ผมกำหนดไว้ว่าให้เลือกธุรกิจเพียงกิจการเดียว ตั้งชื่อธุรกิจ คิด SWOT ออกมาภายใต้พื้นฐานของตัวเราที่เป็นนักศึกษากำลังจะเรียนจบออกไปสร้างกิจการของตนเอง มีการนำเสนอโดยใช้สื่อ PowerPoint 5 กิจการ ดังนี้

  • การทำฟาร์มเพาะเลี้ยงวัวสายพันธุ์ดี เพื่อจำหน่ายลูกวัวและน้ำเชื้อ
  • การทำฟาร์มสุกร
  • การทำฟาร์มแพะโดยเน้นหนักธุรกิจนมแพะ
  • โรงพยาบาลสัตว์ขนาดใหญ่ บริการครบวงจร
  • ธุรกิจ “ฟาร์มโชคชัย”

เมื่อเสร็จสิ้นการนำเสนอในแต่ละกลุ่ม ผมได้เชื้อเชิญให้นศ.ตั้งคำถามและร่วมกันอภิปราย โดยผมจะทบทวน SWOT ทุกประเด็น และออกความเห็นตัดสินกันตรงนั้นว่า ใช่หรือไม่, ควรจะไปปรับ Wording อย่างไร ฯลฯ ข้อจำกัดประการหนึ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงสำหรับการเรียนการสอนในลักษณะนี้ คือ นศ.ขาด Baseline Data เพื่อนำมาใช้ประกอบการกำหนด SWOT เนื่องจากเป็นการวางแผนธุรกิจในกระดาษ อีกทั้งข้อมูลที่แท้จริงซึ่งเป็นกรณีศึกษา Business Plan ของธุรกิจทางด้านสัตวศาสตร์ ยังหาไม่ได้ สภาพตอนนี้ผมจึงเปรียบเทียบว่า เหมือนกับเปิดประตู-หน้าต่าง เห็นก้อนเมฆ เห็นท้องฟ้า เห็นดวงดาว ก็ไปคว้าจับมากำหนดเป็น SWOTคือมันค่อนข้างเลื่อนลอย ต้องอาศัยวิจารณญาณของกลุ่มในการสร้างความชัดเจนให้กับแต่ละประเด็น แต่ก็มีข้อดี คือ นศ.ในฐานะผู้ประกอบการหน้าใหม่จะได้ตระหนักถึงแนวทางในการสร้างและบริหารธุรกิจโดยเห็นความสำคัญของการสร้างระบบการเก็บรวบรวมข้อมูลผ่านตัวชี้วัดที่สำคัญ (KPI : Key Performance Indicator)   ควบคู่กันไป เพราะสมัยนี้เราเชื่อมั่นกับสิ่งที่เรียกว่า No Measurement No Management

นศ.กลุ่มที่ 4 ซึ่งนำเสนอเรื่อง “โรงพยาบาลสัตว์ขนาดใหญ่ บริการครบวงจร เป็นกลุ่มที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมมากที่สุด นั่นเพราะว่า ในครั้งที่ผ่านมาเมื่อตอนเสนอ Business Model ผมให้คะแนนกลุ่มนี้มากที่สุด 8.5 เต็ม 10 มาวันนี้ นศ.นำเสนอนอกเหนือไปจากที่ผมได้ตั้งโจทย์เอาไว้ คือมีทั้ง วิสัยทัศน์, ภารกิจ, เป้าหมายธุรกิจ, การกำหนดกลยุทธ์, ปัจจัยแห่งความสำเร็จ แล้วจึงตามมาด้วย SWOT-Analysis

ผมนั่งฟัง ไตร่ตรองและยับยั้งชั่งใจ เมื่อ นศ.นำเสนอเสร็จแล้ว ผมจึง Comment ออกไปตรง ๆ ในสิ่งที่ผมคิดว่า นศ.คงจะไปค้นคว้าเจอ Business Plan ของธุรกิจดังกล่าวและคัดลอกมา การนำเสนอในประเด็นเบื้องต้นจึงดูดี หรูหรา อลังการ แต่พอถึงตอนออกมาเป็น SWOT ผมใช้คำว่า ค่อนข้าง “หน่อมแน้ม ไปหน่อย เพราะสิ่งที่ไปคัดลอกมามันไม่มี สรุปว่า ผมรับไม่ได้ เมื่อแสดงท่าทีออกไปแบบนี้ สังเกตดูว่า เกิดความเครียดเล็ก ๆ ขึ้นมาในกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้น เราจึง Clear ทำความเข้าใจกัน

นศ.บอกผมว่า พวกเขาเริ่มต้นทำงานโดยแกะรอยจาก PowerPoint ที่ผมเคยนำเสนอแผนธุรกิจของดาราสาวคนหนึ่งในการสอนครั้งที่ 2 โดยรูปแบบของแผนธุรกิจ มีการเขียนรายงานเพื่อนำเสนอแบงค์ หรือนักลงทุนไปตามลำดับหัวข้อ คือ วิสัยทัศน์, ภารกิจ, เป้าหมายธุรกิจ, การกำหนดกลยุทธ์, ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ฯลฯ ผมเริ่มถึงบางอ้อ เพราะ นศ.ใช้วิธีการ Copy & Development จากภาพใหญ่ไปหาภาพเล็ก ซึ่งผิดกับขั้นตอนที่เป็นธรรมชาติของการแสวงหาทิศทางในการสร้างธุรกิจ

ผมจึงยกตัวอย่าง การเจริญเติบโตของต้นไม้ใหญ่ซึ่งในที่นี้ก็หมายถึงธุรกิจของตนเอง โดยอธิบายว่า เราคงจะตั้งหลักที่ต้นไม้ใหญ่แล้วย้อนกลับไปดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ต้นนั้น ทีละขั้น ๆ จนย้อนกลับไปถึงการงอกออกจากเมล็ดคงจะไม่ได้ เพราะปัจจุบัน ต้นไม้ใหญ่ยังไม่มีอยู่จริง ที่สำคัญก็คือ ในทุกขั้นตอนของการเจริญเติบโต เราต้องอยู่กับปัจจุบัน ศึกษาอนาคตธุรกิจที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีแบบแผน แต่เข้าขั้น แปรปรวน

กลยุทธ์ที่เราเลือกใช้ในทางธุรกิจ จำเป็นที่จะต้องตัดสินใจรวดเร็ว และปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างสอดคล้อง เปรียบเสมือนการเลือกแผนการเล่นในเกมส์อเมริกันบอล ก่อนจะขว้างลูกเพื่อเปิดเกมส์บุกทุกครั้งจะต้องมา สุมหัว กันเพื่อเลือกแผนงานที่ได้ประสานงานติดต่อกับโค๊ชข้างสนาม และอยู่บนพื้นฐานการตัดสินใจของควอเตอร์แบค

นศ.ในกลุ่มดังกล่าวอาจจะยังงง ๆ อยู่ แต่ถ้าได้มีการทบทวนอย่างจริงจัง ผ่านทาง Blog เป็นการติดต่อแบบ Blog-to-Blog : B2B หรือซักถามพูดคุยเมื่อเจอหน้า (Face-to-Face : F2F) ก็คงจะเข้าใจกันได้ไม่ช้า และพัฒนาต่อไปได้เพราะผมเชื่อมั่นในความเข้มแข็งทางความคิด สติปัญญาของ นศ.

อีกกลุ่มหนึ่งที่ผม Comment ค่อนข้างหนัก คือ กลุ่มที่ทำการศึกษาธุรกิจ “ฟาร์มโชคชัย” ผมเห็นด้วยกับการกำหนดประเด็นที่จะสร้างธุรกิจการท่องเที่ยวสร้างประสบการณ์ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับยึดเอา “ฟาร์มโชคชัย มาเป็นประเด็นหลักเพียงประเด็นเดียว เพราะ นศ.จะได้ข้อมูลจากสื่อมวลชนทั้งในรูปแบบของสิ่งพิมพ์ และ Internet เป็นหลัก นศ.จะต้องเข้าใจว่า Content เหล่านี้ถูก Built ขึ้นมาโดยมี Hidden Agenda บางประการซ่อนอยู่ สิ่งที่เราอ่านจึงอาจจะ ทุกข์เกินไป, สุขเกินไป, ล้มเหลวเกินไป, เก่งเกินไป ฯลฯ เบื้องหลังที่แท้จริงเราแทบไม่มีโอกาสจะรู้ได้เลย

เริ่มต้นที่พื้นฐาน โดยวิเคราะห์ SWOT ของตัวเราเองน่าจะดีกว่า คือสิ่งที่ผมแนะนำ.

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 1272เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2005 11:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 00:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
  นั่งอ่านเหมือนได้เข้าเรียนด้วย  สนุกและได้ความรู้ดีมากครับ  ครั้งหน้าต่อๆ  ไปเป็นไปได้ไหมครับ  ผมขอเข้าฟังด้วย  ที่ต้องขออนุญาตเพราะบางที่เวลาอาจารย์ด้วยกันเองเข้าฟังอาจารย์ผู้สอนจะรู้สึกเกร็ง  ผมจะได้มีความรู้เรื่องต่างๆ เหล่านี้บ้างและจะได้สื่อสารกับนักศึกษาได้เข้าใจในกรณีที่เราคุยสารทุกข์สุขดิบกับนักศึกษานอกห้องเรียน    แค่อ่านก็ได้รับความรู้มากเลยครับ  ขอบคุณมากครับ 
 กลุ่มโรงพยาบาลสัตว์นั้น พวกเราคิดว่าเราหาคำที่มันสั้นๆๆเกินไป เอาไว้คร่าวหน้าพวกหนูจะปรับปรุงและพัฒนา มากขึ้นค่ะ
ถูกต้องแล้วครับ จะทำอะไรต้องเริ่มจากก้าวแรกและดำเนินขั้นตอนไปตาม ''STEP''ของมัน........กลุ่มเพาะเลี้ยงวัว

ยอมรับความคิดเห็นที่อาจารย์บอกมาในกลุ่มของโรงพยาบาลสัตว์ซึ่งก็เป็นมุมมองที่กลุ่มของเราอาจมองไม่ทั่วถึงขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าพวกหนูคิดกันอีกแบบหนึ่ง แต่ตอนนี้เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์แนะนำมาแล้วค่ะหลังจากที่คุยกันในห้องเรียน ขอบคุณอาจารย์มากนะคะที่แนะแนวทางการเรียนรู้ในเรื่องธุรกิจและเรื่องต่างๆที่ไม่มีในหนังสือเรียน ทำให้พวกหนูได้ความรู้ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากค่ะ.

สนใจอยู่เรื่องๆหนึ่งครับ คือที่อาจารย์บอกว่าธุรกิจใดๆก็ตามถ้าไม่ได้เข้าสู่อินเตอร์เน็ตแล้ว จะไปได้ยาก คือผมกลับมามองที่ตัวเองดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองยังขาดความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตนี้มากๆ ซึ่งถ้าจบไปแล้วต้องทำะธุรกิจในอนาคตคงลำบาก อยากให้อาจารย์ช่วยแนะนำ วิธีการที่จะเรียนรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตหน่อยครับ ต้องไปเรียนเพิ่มเติมหรือว่าจะต้องไปซื้อหนังสือมาอ่าน ช่วยชี้แนะด้วยครับ

    ไปคาบาน่าแล้วรู้สึกว่ามันน่าทึ่งมาก ทำให้คิดไปว่ามีอะไรๆิ อีกเพียบที่เรายังไม่รู้ น่าแปลกที่ไอ้สิ่งที่เรายังไม่รู้มักจะเป็นสิ่งที่ดีๆ เสมอๆ  สวนเพลินนี่แหละที่ผมคิดว่ามันเจ๋งมาก แล้วที่สำคัญอาหารอร่อยครับ    จริงๆ  

    ไอ้เรื่องสั้นครับผมอยากเขียนมาก แต่คิดไม่ออกว่านักธุรกิจที่ดีเป็นอย่างไรบ้าง  อาจารย์ช่วยแนะนำเป็นแนวทางหน่อยได้ไหมครับ คือผมเคยคิดโครงเรื่องหลายรอบแล้วแต่กลัวว่ามันจะไร้สาระมากกว่าที่จะสื่อตรงกับชื่อหัวข้อที่จะเขียน 

อาจารย์.....เดือนนี้หนูเริ่มทำบัญชี รายรับ-รายจ่าย แล้วค่ะ แต่ยังทำไม่ครบ 4 ช่อง ค่ะ ยังขาด สินทรัพย์ หนี้สินค่ะ เอาไว้จะเริ่มพัฒนาต่อไปค่ะ

   การเริ่มทำงานครั้งแรกของพวกหนู เราเริ่มกันที่การเขียน swot โดยใช้แนวทางว่า ใช้คำพูดง่ายๆ จะได้เข้าใจง่ายๆ ผลที่ออกมาคือไม่น่าฟังสักเท่าไหร่(หน่อมแน้ม) หลังจากนั้นอีกหลายวันจึงมาเขียน วิสัยทัศน์และอื่นๆ โดยเขียนจากภาพในจินตนาการผลคือเลิศเลอ(จินตนาการนี่คะ่) ซึ่งจริงๆแล้วมันมีหลักในการเขียน(ก็ไม่ทราบนี่คะว่ามีหลัก)แต่พวกเราทุกคนก็ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนอย่างตั้งใจ หลังจากที่อาจารย์ได้ comment ก็ทราบถึงข้อบกพร่องและจะได้นำไปแก้ไข

   แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่คือ อาจารย์ใช้คำว่า coppy กับงานที่ทุกคนช่วยกันทำ แค่รู้สึกแย่นิดหน่อย อาจารย์ไม่น่าตัดสินความเข้าใจผิดและความบังเอินที่งานบางส่วนออกมาดีเกินไปด้วยคำว่า coppy

  

สวัสดีค่ะ....สำหรับวิชานี้เป็นวิชาที่เรียนแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ  สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้เช่น การทำรายรับ-รายจ่ายในแต่ละวันซึ่งถ้าเราจบแล้วก็ยังสามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบธุรกิจส่วนตัวได้ด้วย 

วันนั้น เป็นวันที่สนุกดีมีการออกไปนำเสนองานหน้าชั้น  อาจารย์ได้วิจารณ์ทุกกลุ่มว่าควรปรับปรุงแก้ไขตรงไหน เป็นสิ่งที่ดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท