การออกกำลังกายอุ้งเชิงกรานเพื่อช่วยในการคลอดบุตร
มาทางไหนก็ออกทางนั้นค่ะ ดิฉันเห็นด้วยกับ อ.หมอธนพันธ์ :) และตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะคลอดเองตามธรรมชาติค่ะ ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งค่ะเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดบุตรเอง
จริงๆ แล้ว ดิฉันชอบว่ายน้ำและการว่ายน้ำก็ดูจะเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดของคนท้อง แต่คุณสามีดิฉันไม่ยอมค่ะ เพราะกลัวเรื่องความสะอาดของสระว่ายน้ำ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันออกกำลังกายบนบกก็ได้ค่ะ :) ฮา ฮา
ดิฉันออกกำลังกายทุกวันค่ะ เช้า 15 นาที ระหว่างวันก็จะออกบ้างค่ะครั้งละ 5 นาที อย่าหักโหมนะค่ะ และต้อง warm up ยืดเส้นก่อนด้วยค่ะ
และดิฉันจะเน้นท่าฝึกความแข็งแรงของอุ้งเชิงกรานเป็นพิเศษค่ะเพื่อช่วยในการคลอดบุตรเอง ก็จะมีอยู่ไม่กี่ท่าค่ะที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ ดังแสดงไว้ด้านล่างนะค่ะ
ส่วนท่าด้านล่างนี้จะช่วยฝึกความแข็งแรงของหลัง
ยังมีอีกหลายท่าค่ะ แต่หารูปมาใส่ไม่ได้ เรื่องการออกกำลังกายสำหรับคนท้องเป็นเรื่องจำเป็นแต่ต้องระวังมากเป็นพิเศษนะค่ะ ดิฉันแนะนำว่าให้หาซื้อหนังสือที่มีรูปประกอบมาศึกษาค่ะ
ขอให้คุณแม่ทุกคนมีความสุขกับการออกกำลังกายกับลูกในท้องค่ะ :)
ความเห็น (4)
สวัสดีค่ะอาจารย์..ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์
- ตอนที่ครูอ้อยตั้งท้องลูกสาว..ทุกคน ครูอ้อยจะออกกำลังด้วยการเดินค่ะ โบราณบอกว่า...ท้องคลอน หมายถึง ท้องจะไม่ตึงค่ะ
- ตอนที่เดิน..ลูกจะเกร็งตัว ครูอ้อยจะรู้สึกเลยค่ะ ว่าท้องแข็ง แต่พอครูอ้อยเลิกเดิน ตกกลางคืน เธอจะนอนหลับสบาย ไม่ค่อยดิ้นให้ครูอ้อยตกใจค่ะ...
- แล้วลูกของครูอ้อยทุกคน คลอดง่าย คลอดตามธรรมชาติคะ ดีใจที่คลอดง่าย เลี้ยงง่าย รู้อย่างนี้ มีอีก หลายๆคนค่ะ เธอน่ารัก...
รักษาสุขภาพนะคะ..หลานชายต้องสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
อาจารย์ค่ะ ถ้าโรงพยาบาลหรือถ้ามีสถานที่สำหรับคนท้องได้ออกกำลังกายโดยเฉพาะก็น่าจะดีนะค่ะ เพราะทำให้สุขภาวะของคนท้องดีขึ้นเยอะเลย ได้เจอคนท้องด้วยกัน และยังได้ผ่อนคลาย เป็นสังคมหนึ่งของผู้ที่กำลังเตรียมตัวเป็นคุณแม่ หรือหากมีใครเป็นคุณแม่มาก่อน ก็จะได้แนะนำกันได้ ไม่รู้ว่าหาดใหญ่จะมีรึเปล่า พักผ่อนเยอะๆ นะคะ
มีประสบการณ์เหมือนครูอ้อยค่ะว่าการเดินช่วยได้มาก แต่คงต้องแล้วแต่สภาวะของแต่ละบุคคล
พี่โอ๋มีปัญหาว่าลูกชายโตทั้ง 2 หนุ่มเขานอนขวางท้อง ตอนคลอดเลยค่อนข้างทุลักทุเล แต่ก็ผ่านมาได้แบบธรรมชาติค่ะ (ชักสงสัยเหมือนกันว่าถ้าได้เคยบริหารแบบในบันทึกนี้จะช่วยอะไรหรือเปล่า เอาไว้ให้อ.หมอแป๊ะมาช่วยเฉลย-สงสัยตอนนี้อยู่เมืองไทยเลยไม่ได้อ่านบล็อกแน่เลย) ส่วนน้องฟุง แม้ว่าตั้งใจจะคลอดเอง แต่พอถึงนาทีสุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนใจ (และดีใจที่เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง) เพราะน้องหนักตั้ง 4.2 กิโล ทะลุออกมาทางธรรมชาติคุณแม่คงแย่แน่ ส่วนพี่วั้น พี่เหน่นก็ตัวโตคือหนัก 3.1 และ 3.6 กิโลโดยที่คุณแม่น้ำหนักขึ้นไม่ถึง 11 กิโลค่ะ (ที่เล่าเพื่อจะบอกว่า เราจะเดาน้ำหนักลูกได้ยากมากค่ะ พี่โอ๋ท้องเล็กนิดเดียว ดูข้างหลังไม่รู้ว่าท้องเลยทั้ง 2 ท้องแรก คุณหมอที่ทำคลอดและดูแลมาตลอด 9 เดือนก็บอกว่าลูกหนักไม่เกิน 3 กิโล)
เพราะฉะนั้น ในที่สุดแล้วก็คือต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับทุกสถานการณ์อย่างมีสติค่ะ
ช่วงนี้จะออกกำลังกายด้วยการเดินช้าๆ ประมาณ 15-20 นาที แถวริมอ่างอาบน้ำ มอ. ค่ะ คุณหมอเน้นย้ำว่า อย่าให้เหนื่อยมากนัก ช่วงนี้ให้พักเยอะๆ ค่ะ