"กอดเป็นสัมผัสเฉพาะ เมื่อถูกสวมกอด คำพูดใดๆ ก็ไม่จำเป็นทั้งสิ้น เพราะโลกทั้งโลกเงียบงัน อบอุ่น ตื้นตันได้เพราะกอด"
”กอด" ของชาว gotoknow เริ่มมาจากไหน...เริ่มต้นที่นี่ พฤศจิกายน 2549 บันทึกนี้ครูอ้อยเจอคุณสมพร-ที่สวนรถไฟ
มหกรรมการจัดการความรู้ครั้งที่ 3 ที่ไบเทคมีห้องจัดให้ Blogger เจอกัน พบเห็นอาการ blogger โผกอดกันกลางงานหลายคู่...ในงานดิฉั้นเจอ ดร.กะปุ๋ม เป็นครั้งแรกก็กระโดดกอดกัน เราพบเจอกันทางหน้าจอบ่อยๆ เป็นแฟน blog กันอ่านเรื่องราวของกันทุกวัน แว๊บแรกที่เจอกันนึกถึงกอด…ทำไม่ไม่ทำอย่างอื่น…สวัสดีค่ะ…จับมือ..ยินดีที่ได้พบ…มันเกิดจากข้างใน สวมกอดกันแทนคำพูดเป็นพันคำ….อ่านกันอ่านงานอ่านไปถึงใจเราต่างมีใจช่วยกัน เติมกำลังใจในการเขียน..เริ่มต้นจากการให้กำลังกันถ่ายเทพลังเพิ่มแรงฮึดให้กัน(พอติดลมแล้วก็เว้นภารกิจนั้นไป..หันไปให้ความเห็นในเนื้อหาที่เขียนแทน…หรือไม่ก็ตามอ่านตามเก็บตามชื่นชม เงียบๆ นานๆ จึงแสดงตน..อ่านอยู่นะไม่ได้ไปไหนไกลจากเธอเลย) <p> แต่ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะถึงอารมณ์ นั้นได้…เจอกันเพียงยิ้มๆ..ทักทาย….มาจากข้างใน...มันมาจากการสัมผัสกันได้จากงานเขียนที่เป็นตัวตน....ส่งสัญญาณกันได้กับตัวตนของเรา...ไม่เท่ากัน</p><p> กุมภาพันธ์ 50 เสวนาสมาชิกเครือข่าย UKM ที่ขอนแก่น คุณสมพร-พี่อึ่งอ๊อบซึ่งดิฉั้นยกตำแหน่ง..ให้เป็นเจ้าแห่งตำนานกอดเธอแวะมาพบที่ จัดเสวนาสมาชิกเครือข่าย…เจอกันตอนเช้าที่หน้าลิฟท์..เธอทักทายดิฉั้นโดยการสวมกอด..วันนั้นหัวใจดิฉั้นหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม..พูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปครึ่งวัน
(อารมณ์นี้…หากไม่เชื่อไปถามคุณแผ่นดินดูได้..เธอมาแอบกล่าวกับดิฉั้นหลังจากคุ้นกันแล้วว่า..กอดทำให้ผมเขิน ผมไม่ชินเลยแม้แต่นิดเดียว..กอดที่ทำให้ผมอุ่นที่สุดคือคุณสมพรก่อนขึ้นรถกลับจากมหาชีวาลัยวันนั้น)</p><p> เฮฮาศาสตร์ ครั้งที่ 1 ที่มหาชีวาลัย..เจอ blogger พร้อมกันหลายคน..ไม่นึกอยากกอดใคร วันนั้นชุลมุน เจอหน้ากันหลายๆ คนเป็นครั้งแรก ทุกคนทักทายกันอลหม่าน ครั้นบรรยากาศการพบกันสงบลงดิฉั้นจึงซาความตื่นเต้นลงได้เริ่มมองหา…คนไหนกันพ่อครูบา-สุทธินันท์ของคุณรัตติยาที่เธอคุยกันใน blog เช้าเย็นผูกสมัครเป็นลูกรักกันกลางอากาศจนมีวันนั้นวันที่ดิฉั้นได้ติดสอยห้อยตามไป….มหาชีวาลัย..
ดิฉั้นเดินสวนทางกับพ่อครูกลางบ้าน..คนนี้แน่นอนพ่อครู..สวัสดีค่ะ..ทันใดนั้นใจดิฉั้นมันสั่งให้กอด...(สงสัยติดโรคมาจากคุณสมพร)...“พ่อคะขออนุญาต(มารยาทดีไม่เบา)กอดโดยไม่พูดจากันสักคำ..มันอยู่ข้างในจริงๆ..ตั้งแต่ครั้งนั้นมาดิฉั้นพบหน้าพ่อครูที่ไรก็ใช้การกอดทักทายและไม่ลืมกล่าว “พ่อคะขออนุญาต” ทุกครั้ง..แต่ทั้งนี้ก็ดูซ้ายดูขวาก่อนทุกทีเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่..ใครไม่รู้จริตจะมองไม่งาม
ที่มหาชีวาลัยครั้งนี้เองมีกอดแกล้ง…เช้าวันที่เราจะกลับขณะเดินเรียนถ่ายภาพดอกไม้กับ อ.แป๋ว ทันใดที่มีสายรายงานว่า..คุณแผ่นดินมา...”ได้การ"พวกเรา blogger รุ่นใหญ่ขี้แกล้ง เป็นเพราะเราสัมผัสได้ตรงกันในงานเขียนว่าคุณแผ่นดินขี้อายและมีอะไรที่ซ่อนลึกอยู่ข้างในมากๆ..”ชวนกัน..เดี๋ยวเราแกล้งคุณแผ่นดินกันดีกว่า"...เท่านั้นเองคุณแผ่นดินโดนแกล้งจนพูดไม่เป็น ไป 2 ชั่วโมง..
จากนั้นมา..ใครจะไปพบปะ Blogger ในคราไปราชการ หรือนัดเจอกัน..นัดแนะ..ก็จะมีการหยอกเอินกัน.."ฝากกอดด้วยนะ"..มีทั้งฝากกอดจริงและ ทั้งอยากกอดเองแต่เขินก็เลยสมอ้าง…“มีคนฝากกอดค่ะ.
และที่เฮฮาศาสตร์ ครั้งที่ 2 ที่มหาชีวาลัย จนกลายเป็นกอดกระจาย..BLOG จะแตกเมื่องาน KM เชียงใหม่ตามที่ได้ติดตามกันอย่างตื่นตาตื่นใจไปแล้ว.
เป็นจริงว่า..กอดบ่อยๆ จะชิน..เจอกันก็จะกอดจนเป็นปกติ….ทุกวันนี้...คราที่ดิฉั้นเจอ blogger ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ..ไม่รู้เป็นอะไรเห็นก็อยากจะกอด พี่โอ๋-anothai นี่สามารถกอดปกติทุกครั้งที่เจอ..กอดคุณนิดหน่อย(คนนี้ต้องดูอารมณ์ก่อน…อิ..อิ..)กอดพี่เม่ย(แกไม่ค่อยให้กอด..ขัดขืน) อยากกอดคุณหมอปารมี(ที่สุด) เจอหน้า blogger ต่างมหาลัยที่คุ้นๆ เช่นคุณตูน คุณโอ..อ.มาลินี..น้องเมย์(วลัยลักษณ์) ก็เกิดอาการโผกอดกันเป็นปกติ(ภาษาใต้เรียกว่า.."ได")
เป็นตำนานกอดที่..เรียบเรียงมาเล่าสู่กันฟังค่ะ "กอดทำได้ง่าย..เพียงแต่อยากจะกอด แต่อาจยากเย็นแสนเข็ญหากคนถูกกอดไม่เต็มใจ"
"กอดทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เพราะมีการถ่ายเทอุณหภูมิระหว่างคนกอดและถูกกอด ทำให้ข้างในอบอุ่น เอ่อท้นและเต็มตื่นไปด้วยความรู้สึก ที่ถูกถ่ายทอดจากคนกอดสู่คนถูกกอด"
"กอดเป็นยาต้านโรค...ไม่ว่าเราจะอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา...อ้อมกอดของป่ากว้าง..อ้อมกอดดวงดาว...อ้อมกอดแม่...ล้วนเป็นอ้อมกอดแห่งรัก....ทำให้เราชุ่มชื่นหัวใจ..."
เชิญสมาชิกร่วมเพิ่มเติมนะคะหากตกหล่นไป..
มีภาพประกอบค่ะ..รอนิดนะคะ</p>
สวัสดีครับพี่เมตตา
ตำนาน "กอด" Gotoknow มีที่มาอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณครับที่นำมาเล่าแบ่งปัน ผมมีเพลงกอดมาฝากครับ
เอ่อ คุณเมตตาค่ะ
ว่าแต่ เราสองคน เคยกอดกันรึเปล่าค่ะ ถ้ายัง เจอกันคราวหน้า ขออนุญาตกอด นะคะ
กอดทำให้อบอุ่น กอดทำให้เกิดการสนิทชิดเชื้อ กอดทำให้กำแพงกั้นระหว่างเราสลาย กอดทำให้รู้สึกดีๆให้กันและกัน ... แต่ทั้งนี้การกอดต้องมาจากความบริสุทธิ์ใจในความเป็นเพื่อน...ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่จะกอด หาไม่แล้วอาจเกิดเป็นกรณีได้จริงมั้ยค่ะ...
กอดนี้ กอดนั้น กอดโน้น กอดไหนจะดีเท่ากอด Blogger ...อิอิอิ
สวัสดีครับพี่
สวัสดีค่ะ คุณเมตตา
สวัสดีครับ...
วันนี้พาเจ้าตัวเล็กตะลุยหมู่บ้าน สนุกและได้รสชาติชีวิตมาก ... ดีกว่าไปโดนทิ้งเขาไว้ที่บ้านกับคนเป็นแม่ ..
...
ถึงตอนนี้ก็ยังยืนยันว่า ยังเขินทั้งการกอดและถูกกอดอยู่วันยังค่ำ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ากอดนั้นคือมิตรภาพอันบริสุทธิ์ ....
แต่ก็มีความสุขที่ถูกกอดและได้เป็นฝ่ายสวมกอดตอบอย่างเบา ๆ ..... (แต่หัวใจฉีกยิ้มกว้างเท่าจักรวาล)
ก๊ากส์
มัวแต่โหลดรูป แพ้กันเห็น ๆ อีกแล้ว คุณเมตตา ขา หายไปไหนเอ่ย มีคนยึดบ้านแล้ว
ว่าแต่ ของใครเจ๋งกว่ากันค่ะ อิอิ
มาเพิ่มเติม ภาพกอด ๆ ค่ะ
เริ่มจาก กอดรุ่นเยาว์
ตามด้วยกอดรุ่นเดอะ
โดยเฉพาะท่านสุดท้าย เหตุไรถึงกอดเสา งานนี้ ต้องไปถามคนกอดเอาเองนะคะ
สวัสดีค่ะหนูตูน
จำได้ค่ะว่าเคยกอดสาวน้อยคนขยันคนนี้ ในงาน UKM 10 แต่จำไม่ได้ว่า วันนั้น รูปอยู่ในกล้องใคร ตะกี้ก้อค้นหารูปกันให้ควั่กแล้วค่ะ แต่ไม่เจอ เสียดายจัง
ไม่เป็นไรค่ะ ไว้ งาน Km4 รับรองว่า จะกอดให้หนำใจเลย
อิอิ
ประกาศ
ตามหาเจ้าของบันทึก "ตำนานกอด G2K"
ใครเจอช่วยแจ้งได้ที่ 191 ด้วยค่ะ
มาแล้วค่ะ เจ้าของบ้าน....ขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่นำ ภาพกอดประทับใจมาเติมเต็มให้ทึกนี้สมบูรณ์ค่ะ....
สวัสดีค่ะคุณจิ๊บ...เมตตา
มีความสุขมากค่ะ....ขอบคุณค่ะ
แวะมาบอกว่า ... ไปพิษณุโลกคราวนี้ ผมก็โดนพี่อึ่งอ๊อบกอดเป็นคนแรก ... กอดโดยที่พี่แกยังไม่รู้ว่าผมยังไม่อาบน้ำ ...
การเดินทางสาหัสสากันมาก... แต่ก็เป็นรสชาติที่เต็มไปด้วยพลัง เพราะจุดหมายปลายทางนั้น มีความหมายต่อผมมาก