ศิษย์น้องๆและแควนๆทั้งหลาย
ผมจะเดินทางไปเมืองจีน เพื่อเพิ่มวรยุทธ เอ้ย! ไม่ใช่ เพื่อไปเจรจาและลงนามทำสัญญาร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย Honghe อ่านว่า หวงเหอ แปลว่าแม่น้ำเหลือง
เผลอๆจะออกเสียงเป็นสำเนียงไทยว่า “ห่วงเธอ” ก็มิขัด กำหนดเดินทาง วันที่ 4-6 กันยายนนี้ สามวันคงเหนื่อยน่าดูเหมือนกัน แต่คงได้เรื่องดีดีมาฝากตามเคยครับ แต่ผมมีคิวที่อยากเล่าเยอะมาก แต่มีเวลาน้อย คิดว่าจะเขียนอยู่หลายเรื่องแต่เขียนอยู่ในหัวทั้งน้าน J
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">เรื่องไปญี่ปุ่นก็ยังไม่จบดีดังใจ ค้างอีกหลายตอน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">เบื้องหลังสัมมนาก็ยังค้างอยู่</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">เรื่องธรรมะ ปฏิบัติธรรม น้องอึ่งก็ขอให้เขียนวิธีเจริญสติ สมาธิ ฝึกจิตดูใจ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"></p><p> โอ้ย! มีหลายเรื่องที่เข้าคิวรอ เอาไว้ไปเขียนบนเครื่องบินดีกว่า ผมอยากจะเล่าถึงเบื้องหลังการจัดงานพิธีการเปิด-ปิดและงาน “Welcome Party อลังการล้านนา” เพื่อให้เป็นเกียรติแก่ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ก่อนที่จะลืมเลือนไป
เริ่มตั้งแต่ได้ตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า งานครั้งนี้จะเป็นงานสัมมนาที่มีชีวิต ไม่แข็งกระด้างด้วยบรรยากาศทางวิชาการที่มีแต่การฟังและการพูดของผู้ทรงคุณวุฒิเท่านั้น ขาดความจริงใจในการต้อนรับ ขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดกับผู้เข้าร่วมสัมมนา
พอจบงานสัมมนา ทุกอย่างก็จบลง ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน ทิ้งสิ่งที่ได้จากการสัมมนาไว้ที่งาน ผมเคยไปร่วมงานสัมมนาใหญ่ระดับชาติมาหลายงาน เรียกว่าส่วนใหญ่เป็นแบบโจทย์ที่เราตั้งว่าไม่อยากให้ออกมาแบบนั้น ทีมงานจึงมานั่งคิดกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง โดยผมตั้งโจทย์ไว้ละเอียดพอควร ดังที่เคยกล่าวไว้ในบันทึกที่ผ่านมา
สิ่งที่เราเห็นพ้องต้องกันคือการนำศิลปวัฒนธรรมล้านนาผสมผสานให้เข้ากับบรรยากาศทางวิชาการ นี่คือสิ่งที่เราต้องการขายเป็นจุดเด่นให้แก่ผู้ที่เข้ามาร่วมสัมมนาจากทั่วประเทศได้รับและเรียนรู้
</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">โจทย์ที่ตั้งมาได้รับการตอบสนอง โดยการตกแต่งบริเวณงานทั้งหมดให้มีบรรยากาศศิลปะล้านนา บุคคลที่สมควรได้รับการปรบมือมี สามกลุ่ม คือ</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"></p><p> กลุ่มแรก อาจารย์รุทธ ประวัง อาจารย์เสน่ห์ วงศ์สุฤทธิ์ อาจารย์เอกพงศ์ สุริยงค์และทีมงานนักศึกษาจากสาขาวิชาศิลปกรรม ที่ออกแบบตกแต่งบรรยากาศภายในห้องสัมมนา
กลุ่มที่สอง เจ้าหน้าที่ศิลปกรรมของโรงแรม ที่ตกแต่งบริเวณล็อบบี้
และกลุ่มสุดท้าย ที่ผมต้องลุกขึ้นยืนปรบมือให้ คือน้องบอยศิษย์เก่าคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่รับหน้าที่ตกแต่งในขั้นสุดท้ายอย่างละเมียดละมัย ทั้งจัดวางเครื่องประดับตกแต่งและดอกไม้บริเวณพิธีเปิดและบริเวณนอกห้องสัมมนา
ส่วนผมกับน้องเอกจตุพร คิดเรื่องการต้อนรับ กะให้ซึ้งใจสุดๆตั้งแต่สนามบินมาถึงบริเวณงาน มีการขับกล่อมด้วยค่าว จ๊อยซอล้านนา มีสาวงามแต่งกายล้านนาสวมพวงมาลัยดอกมะลิให้ทุกท่าน ก่อนเข้าลงทะเบียนในงาน</p><p>
</p><p> ผมคิดอะไรออกมา น้องเอกก็ทำหน้าที่เป็นนักประชาสัมพันธ์ชั้นยอดรายงานข่าวออกไปเป็นระยะๆ ทำให้เกิดบรรยากาศฮือฮาขึ้นใน gotoknow
ก่อนหน้างานเพียงหนึ่งอาทิตย์ หลังจากไปดูสถานที่มา ผมก็นั่งคุยกับกับน้องบอย ถึงช่วงพิธีเปิดงานให้ประทับใจ น่าจะมีไฮไลท์สั้นๆระหว่างที่ท่านอธิการบดีทำพิธีเปิด ซึ่งได้เคยคุยมาก่อนแล้วรอบหนึ่งกับน้องเอก น้องนนท์และน้องโอ๋ แต่ยังไม่ลงตัวดีนัก
</p><p>
</p><p> จู่ๆน้องบอยก็พูดถึง “หม้อปูรณฆฏะ” ขึ้นมาว่า น่าจะให้ท่านอธิการบดีรินน้ำใส่หม้อ ผมก็ปิ๊งแว่บขึ้นมาเห็นภาพทุกอย่างชัดเจนลงตัว
จึงยกหน้าที่ให้น้องบอย ออกแบบหม้อปูรณฆฏะ ส่วนผมคิดธีมทำเส้นเสียงหาดนตรีและeffect มานั่งเขียนเป็น script ออกมาแล้วจึงไปหาดนตรีประกอบ
ได้ตัวมือทำเส้นเสียงมือฉมัง อาจารย์นิรุตต์ แก้วหล้า ในสาขาวิชาดนตรีที่เคยร่วมงานกันมาหลายงานแล้ว พอบอกให้ฟังคร่าวๆว่าจะเอาเสียงอะไรบ้าง เช่น เสียงน้ำ เสียงกลอง เสียงอัญเชิญเทวดาแบบล้านนา อ.นิรุตต์ก็ประสาน อ.บุญยิ่ง ที่ถนัดงานดนตรีพื้นเมืองมาช่วยด้วย เตรียมกันเพียงหนึ่งวันก็เรียบร้อย
พอนัดกันที่ห้องอัดเสียง ผมก็ให้อ.บุญยิ่ง เป็นคนพากย์ แต่ฟังดูแล้วเส้นเสียงแบนไปไม่ค่อยขลังสมใจ พอดีผศ.รณชิต แม้นมาลัย มายืนอมยิ้มให้กำลังใจอยู่ ผมจึงขอมาทดสอบเสียงดู ปรากฏว่าแจ๋ว จึงขอให้อัดเสียงเลย
เริ่มต้นด้วยเสียงกลองปูจาที่อัดมาจากงานประกวดแข่งขันการตีกลองปูจาเมื่อปีที่แล้ว ตามด้วยเสียงน้ำไหลรินเอื่อยๆแล้ว ขึ้นเสียงอัญเชิญเทวดาแบบล้านนา ให้แต่ละเส้นเสียงซ้อนทับกัน
ขนาดผมฟังในห้องส่ง ยังขนลุกเกรียว รู้สึกได้ว่ามีทิพย์เทพยดาท่านเสด็จลงมาชุมนุมกันจริงๆ
พอถึงคิวที่มีบทบรรยาย เรื่องที่มาของหม้อปูรณฆฏะที่ผมเอามาผูกเรื่องให้รับกันกับการมาชุมนุมสัมมนาการจัดการความรู้ในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาปัญญาให้งอกงามดุจหม้อปูรณฆฏะ ซึ่งผศ.รณชิต แม้นมาลัย ก็อ่านได้ความรู้สึกดี
ยกเว้นตอนขึ้นต้นว่า “หม้อ ปูรณฆฏะ หม้อแห่งปัญญา” อาจารย์เล่นเน้นเสียงคำว่า”หม้อ” ลอยมาออกชัดเจน เว้นช่วงวรรคแล้วจึงกล่าวคำว่า ปูรณฆฏะตามมา เล่นเอาผมฟังแล้วหัวเราะก๊ากความขลังหมดสิ้นไปพริบตา
เลยต้องขอแก้ script เป็น “ปูรณฆฏะ หม้อแห่งปัญญา” ค่อยฟังดูดีขึ้นมาตามธีม เกือบไปแล้วมั้ยละ ดีว่างานนี้ผมไม่ปล่อยให้ทีมงานทำกันเอง ไม่งั้นได้หัวเราะกันก้องห้องแต่ที่จะน้ำตาซึมขนลุกเกรียวอย่างที่เป็น
พอได้เส้นเสียงเสร็จแล้ว ผมจึงไปหาภาพมาทำสไลด์โชว์ประกอบ แล้วขออาจารย์เอกพงศ์ สุริยงค์ มือกราฟิกคู่ใจมาตกแต่งภาพ เสร็จแล้วเอามาตัดต่อเรียงภาพทำ effect ให้เข้ากับอารมณ์ของเส้นเสียงต่อไป
ผมต้องนั่งทำในวันที่ ๑๒ ในขณะที่ไปคุมงานการตกแต่งห้องในช่วงบ่าย ทำๆหยุดๆเพราะต้องประสานงานหลายเรื่อง รวมทั้งไปรับวิทยากรที่มากันในวันนั้นด้วย จึงมาแอบทำในตอนห้าทุ่มเสร็จเอาในตอนตีสองของวันที่ ๑๓ สิงหาคม
มาใจหายใจคว่ำหน่อย เมื่อน้องบอยมาบอกว่า หม้อปูรณฆกะเสร็จแล้ว แต่ไม่ได้น้ำแข็งแห้งมาในวันที่๑๒ เพราะหมด ต้องไปเอาตอนเจ็ดโมงเช้าของวันที่ ๑๓ โดยนั่งรถของโรงแรมไปแวะเอาตอนไปรับวิทยากรที่มาจากสนามบิน
ซึ่งทำให้ผมต้องหลับตาภาวนา ว่าขอให้ทันๆ อย่ามีอุปสรรคขัดข้อง</p><p>
</p><p> ซึ่งงานในพิธีเปิด ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี คิวทุกอย่างรื่นไหล ทั้งประธานในพิธี ทั้งภาพทั้งแสงสีเสียง effect ต่างๆกลมกลืนลงตัว สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่รับชมทุกคน
ทุกคน ต่างได้รับรู้เรื่องราวที่มาของหม้อปูรณฆฏะและรู้ซึ้งถึงบรรยากาศความจริงจังและงดงามของพิธีการ สร้างให้งานสัมมนาครั้งนี้ดูขลังมลังมเลือง งามด้วยปัญญาและศรัทธา ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นศุภฤกษ์ชัยมงคล
ดังคำกล่าวว่า เริ่มต้นด้วยดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ฉะนี้</p>
ขอบคุณในความเหน็ดเหนื่อย ลำบากในการเตรียมและทำงาน ซึ่งทำให้งานสัมมนา KM ที่เชียงใหม่ที่ผ่านมาประทับใจผู้เข้าร่วมสัมมนากันทุกคน
การจะได้มาซึ่งงานแต่ละอย่าง เราผู้อยู่เบื้องหน้าได้เห็นเฉพาะสิ่งที่สวยงามเท่านั้น หากไม่เคยมีประสบการมาก่อนก็คงไม่ทราบว่าการเตรียมงานเหนื่อยกว่าวันจริงมากนัก
แต่ยิ่งเมื่อได้ฟังที่มา และเบื้องหลัง เบื้อหน้าของการเตรียมและจัดงานทั้งหมดแล้ว ยิ่งต้องขอขอบคุณในความเหนื่อยยากของอาจารย์และทีมงานอีกหลายเท่าค่ะ
ประทับใจกับงาน ทีมงาน และโดยเฉพาะท่าน อ.พิชัย แม่งานเป็นอย่างยิ่งค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์
เข้าใจเลยค่ะว่าเตรียมงานหนักมาก ขอชื่มชมและปรบมือดังๆ ให้กับเจ้าภาพและทีมงานทุกท่านที่ได้เตรียมงานต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี
เมื่อครู่อ่านที่อาจารย์บรรยายการพากย์เสียงประกอบ“หม้อ ปูรณฆฏะ หม้อแห่งปัญญา” พอเน้นเสียงตามแล้วขำกลิ้งจริงๆ 5555
ขอบคุณอาจารย์มากๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ
ขอชื่นชมอาจารย์มากๆเลยค่ะ
เป็นตัวอย่างของการจัดงานครั้งต่อไปค่ะ
อาจารย์คะ
ตามมาซึมซับบรรยากาศเบื้องหลัง
คิดถึงทีไรสุขใจทุกที
ขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังการทำงานทุกท่านนะคะ งานยิ่งใหญ่แบบนี้ บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังเป็นแรงสนับสนุน เสริมสร้าง สร้างสรรค์ ให้เกิดสิ่งที่ดีงามค่ะ
ปรบมือดัง ๆ ให้ด้วยค่ะ
(พ่อครู..ชมงาน KM ที่เชียงใหม่เสมอ ๆ เมื่อมีโอกาสและจังหวะ ...และบอกว่าจะมีที่ไหนจัดได้อย่างเชียงใหม่หรือเปล่านะ....ทุกอย่างมันด้วยหัวใจจริง ๆ )
สวัสดีครับอาจารย์
งานของผมเสร็จไปทั้งในระดับภาคและระดับประเทศแล้วเมื่อวันนี้เอง งานที่ต้อง action ก็คงน้อยลง (หรือ ไม่แน่ใจ) ก็มีงานวิทยากรอยู่เยอะครับ
ผมกล่าวเอางานวิจัยส่วนตัวขึ้นมาแบบนี้ เพราะต้องขอบคุณงานสัมมนา KM ที่เชียงใหม่ครับ กระบวนการหลายอย่างที่ได้ร่วมเรียนรู้พร้อมกับการถอดบทเรียนตรงนั้นทำให้ผมได้เอาผลึกผลมาใช้ในงานต่อๆไปได้เป็นอย่างดี
งาน KM เชียงใหม่ เป็นเรื่อง "พรหมลิขิต" ด้วยครับ เป็นเรื่องของการใช้ "ใจ" ด้วย ดังนั้นเมื่อพรหมลิขิต บวกใจที่ดีงามเลยเป็นพลังให้งานทุกอย่างสมบูรณ์และประทับใจ
ผมเห็นด้วยว่า การจัดการความรู้ที่จะทำให้เกิดการระดมพลังทางสังคม (Social mobilization) ต้องช๊อคและเรียกความสนใจ ด้วยการโปรโมท ด้วยการประชาสัมพันธ์ รวมถึงกระบวนการทำงานแบบปราณีต แล้วเราก็ได้งานแบบปราณีตเช่นกัน
เป็นเกียรติ และเป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมครั้งหนึ่งในชีวิตของผมเลยทีเดียว...แม้ว่าจะเหนื่อยมากในช่วงหลังเลิกงานแต่เหนื่อยนั้นมันเต็มตื้นไปด้วยความสุข อิ่มจนล้นเลยครับ
สิ่งที่อาจารย์ได้กล่าวว่า การรวมกันของพลังแห่งจิตที่เป็นกุศลหลายๆดวง เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เข้มแข็ง เป็นพลังบวกในการทำภารกิจต่างๆ งานใหญ่แค่ไหนก็สำเร็จลงได้ตามใจคิด
....พิสูจน์ได้ว่าจริง
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน ทุกคนคือเจ้าภาพ และทุกคนควรได้รับสิ่งยินดีเหล่านี้ร่วมกัน
ขอบคุณครูนงเมืองคอน
จะตามไปแลกเปลี่ยนนะครับ ขอบคุณที่มาแย่งพื้นที่ อ.ขจิตไปได้ :)
หนูแป๋ว
สิ่งที่เป็นความสุข คือการรำลึกถึงความหลังที่เต็มไปด้วยความรักความเข้าใจ น้ำใจ การให้
เป็นพลังแห่งความสุขใจ ที่เก็บไว้เป็นยาใจครับ
ขอบคุณหนูแป๋วที่มาเป็นส่วนหนึ่งและเติมความสุขให้เต็ม
ทำให้อยากมีช่วงเวลาดีดี อย่างนั้นอีกนะครับ
อีกอย่างต้องขอบคุณที่ชวนอาจารย์ไปดงหลวง อาจารย์กำลังลุ้นอยู่ครับ ว่างานช้างเผือกเกมส์จะตรงกันหรือปล่าว?
ได้ข่าวว่าจะเลื่อน พรุ่งนี้คงรู้ครับ
หนูตุ๋ย น้องรอง
ใจร้ายจัง มาเชียงใหม่ไม่ยอมโทรมาหา
พี่ใหญ่เพิ่งกลับมาจากเมืองจีนในวันที่ 6 กลางคืน ตกเช้ารีบไปทำงาน เพราะค้างมาสามวัน ตอนค่ำมาอ่านบันทึกจึงรู้ว่ามาเชียงใหม่
คงกลัวพี่ใหญ่เลี้ยงทับ :)
เรื่องscript พี่ใหญ่พลัดตกจากเก้าอี้มาแล้ว ฮ่าฮ่า! คนอ่านยังทำหน้าเหรออยู่เลย :)
หนูอึ่งกลับมาจากบ้านพ่อครูแล้ว :)
แอบไปกอดพ่อคนเดียวแก้หนาวฝนใช่ไหม?
คิดถึงเนาะ?
เอาไว้อาจารย์นัดประชุมเจี๊ยะอีกทีนะครับ
สวัสดีครับ คุณnaree
ขอบคุณที่ให้กำลังใจเสมอครับ
คงมีวาสนาพบกันครับ
แต่ เอ๊ะ! รู้ได้ไงว่าผมกำลังเขียนเรื่องไปจีนอยู่? :)
ศิษย์น้องเล็ก หนูแก้มยุ้ย
พี่ใหญ่ควรขอบคุณน้องๆ โดยเฉพาะน้องเล็กที่มีส่วนเติมเต็มในงานนี้
เรื่องบารมี เป็นเรื่องของความใกล้ชิดและผูกพันกันมานาน ตอนช่วยกันทำงานครับ
เวลาทำงานอาจารย์จะเล่าเรื่องให้เขาฟัง ให้เห็นฉากทุกฉาก และเข้าไปมีส่วนดูแลเขาตอนทำงานทุกตอน ตอนจบจะเลี้ยงใหญ่กินข้าวด้วยกัน
แต่งานนี้ ยังไม่ได้เลี้ยงเพราะงบติดลบบาน
บอกทีมงานแปะไว้ก่อน
เอาแมะ! มาเข้าหุ้นกัน หากไม่กลัวขาดทุน อาจารย์เป็นจำพวก เจีงไม่ว่า...:) ของานออกมาดีเสียด้วย
น้องเอก
นับเป็นทั้งวาสนาและกรรมลิขิตครับ
วาสนานั้นหมายถึง เรามีบุพรกรรมร่วมกันมา
ส่วนกรรมนั้น คือการกระทำร่วมกัน จึงลิขิตให้มาเจอกัน
พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่า ธาตุเหมือนกัน จะมาอยู่รวมกัน
อาจารย์รู้ว่า เวลาอาจารย์พูดอะไรออกไป น้องเอก"รับ" และ "รู้" ได้ไวเสมอ
จึงรู้ว่า กุศลจิตนั้น ย่อมสร้างกุศลจิต
ยิ่งกุศลจิตหลายดวง ย่อมมีพลังที่จะสร้างกุศลจิตให้เกิดสืบต่ออย่างอนันต์
น้องเอกเป็นคนที่มีบารมีธรรมครับ
คุณแม่น้องเอกและกศลจิตคิดดีของน้องเอกเป็นส่วนสำคัญที่บ่มเพาะครับ
น้องเล็ก
เจี่ย เจี่ย กำเสี่ย ขอบคุณ ยินดีจ๊าดนัก
อาจารย์จะสวดมนต์ให้ด้วยครับ:)
ใครว่าศาสนาต่างกัน เข้ากันไม่ได้
มาดูศิษย์พี่ศิษย์น้องคู่นี้ได้ครับ :)
พักบ้างนะน้อง...ศิษย์พี่ก็หมดทิชชูไปเป็นม้วนแล้ว จามได้จามดี ติดหวัดอากาศเย็นมาจากเมืองจีน
อ้าดเช้ย! หนีไปเดี๋ยวติดหวัด
อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ใหญ่
คิดถึงพี่ใหญ่เสมอค่ะ
หญิงใหญ่.
น้องเล็กแก้มยุ้ย
ขอบคุณน่ารักจัง
ให้อาจารย์ซดไวน์แก้หวัด
เป็นไวน์สตอเบอรี่เสียด้วย :)
ต้องทำเมาดิบเสียหน่อย
อ้าดเช๊ย!.... อึก.. อึก... อึก... อั๊ก...ฮ่าาาาา
ชักดีแฮะ....โล่งคอ อ๊าดเชัย ...อั๊ก.. ..อั๊ก.... อั๊ก
ครายอยู่ที่นั่น...อั๊ก ...อั๊ก.....คราย......ครอกฟี้???
เฮ้อ....เพิ่งบอกให้รักษาสุขภาพ ศิษย์พี่ใหญ่กับน้องเล็กมาดวดไวน์ เมาแอ๋...หลับอยู่ตรงนี้นี่เอง แล้วจะหายหวดได้ยังง้ายยยย.....
น้องหญิงใหญ่
เอ?...เรียกอย่างนี้ไปมาเหมือนบ้านทรายทองแฮะ
ชายว่าเข้าท่าดีเหมือนกัน :)
ชายใหญ่ขอบคุณหญิงใหญ่ที่เป็นห่วง(เดี๋ยวคาบไปบ์ก่อน)
ชายจะกินยาตามที่สั่งนะครับ
จะออกวิ่งมาราทอนทุกวันครับ ...
เอ้า อึบ วิ่ง วิ่ง วิ่ง ...วิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่งไปปปปปปปป!
ฮา.....ก๊ากๆๆๆๆ....กั๊กๆๆๆๆๆ......
ขออภัยค่ะศิษย์พี่ใหญ่ที่ไม่ได้โทรหาตอนอยู่ที่เชียงใหม่..เพราะหนูกะว่าอาจารย์จะต้องยุ่งสุดๆ..แล้วก็จริงๆ แถมได้หวัดเป็นของแถมมาจากเมืองจีนอีก..ของแถมแบบนี้้ต้องรีบกำจัดนะคะ ^ ^
ไม่ได้โทรเพราะคิดว่าไม่เป็นไร อิอิ แล้วก็เกรงใจด้วยค่ะ ยังไงๆ ศิษย์พี่ศิษย์น้องก็ส่งมิตรจิตดีๆ ถึงกันเป็นประจำอยู่แล้ว (ไม่ว่าจะนับถึือศาสนาใด อิ อิ ยืนยันตามพี่ๆ น้องๆ ด้วยคน ^ ^)
เข้ามาชื่นชม และรับพลังค่ะ
ขอให้อาจารย์มีสุขภาพกายและจิตที่แข็งแรง ทรงพลังยิ่งๆขึ้นไปนะคะ (จะได้แผ่ให้ศิษย์ได้รอบทิศ)
สวัสดีครับคุณพัชรา
หายไปนานจนคิดถึงนะครับ
แต่ยังแผ่เมตตาให้ทุกวันครับ:)
ศิษย์พี่ใหญ่ คะ
น้องเล็กนินจาน้อย (วันนี้แม่ค้าขายผลไม้ทักว่า ดำขึ้น...แอบเศร้า) มารายงานตัว ช่วงนี้มั่วแต่ยุ่งนู้นยุ่งนี้ เลยตามมาอ่านบันทึกของศิษย์พี่ใหญ่ช้าไปหน่อย ศิษย์พี่ท่านอื่นๆ แวะมาก่อนล่วงหน้าแล้ว
น้องเล็กนินจาน้อยมาตามเก็บบรรยากาศย้อนหลัง อ่านแล้วคึดถึงบรรยากาศดีๆ ที่งาน KM เชียงใหม่จังค่ะ :)
แวะมาทักทายค่ะ
โอ๋...โอ๋ นิจจาเอ๋ย
น้องเล็กนินจา ช่างน่าสงสาร
อย่าเศร้า อย่าเศร้า...น่าจะหัวเราะยิ้มได้
ที่ถูกทักว่าดำนั้น จงคิดในเชิงบวกว่า เขาบอกว่าเรางามแบบดำขำ
คือทั้งดำทั้งขำ :)
ดังนั้น เวลามาเยี่ยมพี่ใหญ่ ก่อนมาให้ฉีกยิ้มมาก่อนนะ พี่ใหญ่จะได้ไม่ตกใจ:)
ขอบคุณหญิงใหญ่
ชายใหญ่สบายดีแล้ว แม้นมีหวัดแทรกนิดหน่อยก็ไม่กระไรนัก
อาศัยแม่พจมานคอยพัดวีซับน้ำมูกให้ ก็พอทำเนา :)
เมื่อวาน น้องเล็กโทรมาคุยเรื่องเวป ก็จามใส่หูไปหลายครั้ง
หากอยู่ใกล้ๆสงสัยติดเชื้อไปแล้ว
พอหญิงใหญ่มาเตือน ต้องฟิตออกกำลังหน่อย
วิดพื้นโชว์สัก 50 ดีใหม? :)
น้องรอง
อย่าได้กังวล ดีเหมือนกัน
เพราะหากโทรมาจะได้หวัดแถมกลับไปด้วยแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้ง :)
ตอนนี้พิมพ์ไปซับน้ำมูกไป
จนเด็กๆที่ทำงานคิดว่า กำลังเขียนเรื่องเศร้า:)
อาจารย์เจ้า เกือบเดือนละเน้อเจ้า แต่ก่อยังนึกถึงความสุข..กับขนลุกซู่ตอนพิธีเปิดอยู่เลยเจ้า ดีใจ๋ที่ได้เห็นหน้าเห็นต๋าทีมงานของอาจารย์แถมกำ...เปิ้นเก่งและอดทนทุกคนเลยเจ้า
หนูสร้อยเอาบุญมาฝากเจ้า ..ได้ไปถือศีล 8 ช่วยงานบรรจุพระธาตุพระเขี้ยวแก้วที่ อ. สะเมิง เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา..ได้อธิษฐานแผ่กุศลผลบุญถึงญาติธรรมชาวgotoknowโตย..ต๋อนร่วมพิธีรู้สึกเหมือนต๋อนไปร่วมงานกับอาจารย์เลยเจ้า...เบาสบาย บ่ออิดบ่อหิว ม่วนดีเจ้า
เรียนศิษย์พี่ใหญ่กับพี่สร้อย
ที่เขียนเพราะอ่านถึงตอนที่พี่สร้อยบอกว่าเอาบุญมาฝาก.. เกิดอาการ"พลังลง" (หนูเรียกเอง) ทั้งตัวตั้งแต่หัวถึงลำตัว ชาไปแ๋ป๊บนึง ขนลุกซู่เลย เลยจะมาบอกว่าบุญที่ฝากมาได้รับแล้ว (โมเมรับเลย เพราะมาเองอ่ะ ^ ^) และคงเป็นบุญที่แรงจริงๆ มาถึงนี่ได้เลย...ขอบคุณค่ะ
ว่าถึงเรื่องขาดวิตามินนะน้องเล็ก ตอนนี้สงสัยจะเกิดอาการขาดวิตามินนอนอ่ะ.. ไม่รู้เอะอะอะไรก็ง่วงไปหมด อิ อิ แต่เรื่องขาดอาหารน่ะคิดว่าไม่ขาดนะ น้ำหนักขึ้นตรึมเลย 5555 แต่อาจขาดสารอาหารก็ได้นะ เพราะไม่ค่อยได้กินผักผลไม้เลยช่วงนี้
แต่ตอนอ่านข้อความตอนนั้น มันวาบ..มาทั้งตัวเลยนะ..รู้สึกแรงมากจริงๆ จริงๆ นะ จริงๆ อิ อิ
ศิษย์พี่ใหญ่คะ คำที่พี่ชี้แนะมานั้น ช่างเหมือนกับที่อาจารย์จันทวรรณบอกหนูเป๊ะเลยคะ ว่าดำแบบดำขำ ฮ่าๆ เลยขำออกมาให้เห็นซะเลย :)
หากศิษย์พี่ทุกท่านอยากจะเห็นร้อยยิ้มวันนี้น้องเล็กนินจาน้อยนั้น มีภาพให้ดูกัน แวะไปเยี่ยมกันได้ที่บันทึกของฝากสำหรับสมาชิก UsableLabs จาก คุณConductor ค่ะ
คิดถึงอย่างแรง ศิษย์พี่ทุกท่าน :)
ขอบคุณน้องสร้อย
อนุโมทนาบุญด้วยครับ พร้อมรับบุญไปด้วย
ซู่ซ่าเหมือนน้องรองเหมือนกัน :)
เรื่องรับบุญได้นี้ เรื่องจริง เพราะบุญคือกุศลจิต
ผู้ที่ได้ไปประกอบมาแล้ว มีพลังนั้นอยู่ในจิต
เมื่อประสงค์คิดจะให้ใคร ก็แผ่ไปถึงได้ด้วยจิต บุญเป็นของเบา จึงไปได้ไกล
ต่างกับบาป เป็นของหนัก บางคนคิดพิเรน บอกว่ามีคนแบ่งแต่บุญ เราไม่อยากเสียบุญ
อย่ากระนั้นเลยเลย แบ่งบาปดีกว่า ขอให้บาปกรรมชั่วใด ที่เราทำจงไปตกแก่คนที่เราเกลียดเทอญๆๆๆ
ปรากฏว่า บาปไม่ไปไหน หลุ่นปุอยู่ที่ใจคนนั้นเอง
สาธุ สาธุ สาธุ แปลว่าดีแล้ว ดีแล้ว ดีแล้ว น้อมจิตอนุโทนาบุญกับน้องสร้อย
เหมือนกับได้ไปทำเองเลย ขนาดได้เพียงสิบเปอร์เซนต์นะเนี่ย :)
แวะมา appreciation... สาธุ สาธุ สาธุ ครับ
แวะมาขอบคุณ คุณสร้อยเพื่อนรักค่ะ
สวัสดีค่ะ ครอบครัวตระกูลเรนทุกท่าน
พี่ใหญ่.....
ศิษย์น้องรอง ศิษย์น้องเล็กและศิษย์น้องจิ๋ว(แต่แจ๋ว)
....ฝากบอกมิ่งมิตรใน KM เชียงใหม่ทุกๆท่าน...ว่ายังคิดถึงเสมอ มิเสื่อมคลายค่ะ........