อาคารประชาสัมพันธ์ กองผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานผลิตสื่อสิ่งพิมพ์
แผนกสิ่งพิมพ์สำเร็จ
ช่วงเช้า
วันนี้มาถึงที่ทำงาน 8.00น. มาถึงก็รีบลงไปที่โรงพิมพ์เลย เหมือนกับว่าเรามาทำงานที่โรงงานเลยเพราะต้องทำงานกับเครื่องจักร ที่โรงพิมพ์ที่กฟผ.มีแต่เครื่องจักรทั้งนั้น เวลาทำงานก็ต้องทำให้ทันด้วย งานแรกที่ได้ทำในวันนี้ พี่นวยให้ลองไปทำจ๊อกกระดาษดูก่อนว่าทำได้หรือเปล่า งงละสิจ๊อกคืออะไร ก็คือการทำให้กระดาษแตกตัวออกจากกันไม่จับกันเป็นก้อน เพื่อเวลาใส่ลงในเครื่องจะได้ไม่ซ้อนกัน ถ้าซ้อนกันเครื่องก็จะทำงานไม่ได้ พี่นวยลองทำให้เราดูก่อน มองดูเหมือนเป็นงานง่ายๆหมูๆถ้าจะไม่ยาก แต่ที่ไหนได้ไม่ได้เรื่องเลยเพราะมือเราเกร็ง และแข็งด้วย เราจับกระดาษเหมือนไม่ถนัดอีกต่างหาก วิธีการจ๊อกมีดังนี้ ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างกดที่หน้ากระดาษ ขนาดกระดาษเป็นA4 แล้วใช้นิ้วที่เหลืองอกระดาษเข้าหากัน จากนั้นใช้มือทั้งสองดึงกระดาษออกจากตัวให้ตึง ก็จะเห็นว่ากระดาษแตกตัวเป็นแนวโค้ง วิธีนี้เราทำไม่ถนัดแต่พี่ตี่ แนะนำอีกวิธีคือ การใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับที่มุมทแยงแล้วงอสบัดไปมา กระดาษจะเป็นลูกคลื่น เมื่อเสร็จเราก็โยนกระดาษให้แตกเรียงกัน ด้วยการใช้มือประคองกระดาษให้ตั้ง แล้วโยนลงบนโต๊ะ แต่เรายังทำไม่ค่อยคล่องเลย พี่ตี่บอกว่ากว่าพี่จะทำได้ใช้เวลาเกือบเดือน มันต้องฝึกฝนและถ้าทำได้จะสนุกมากเพราะมันไม่น่าเบื่อ มองดูพี่ตี่ทำเพลินเลยค่ะ แต่เราก็ต้องพยายามทำให้ได้เหมือนกัน
ช่วงบ่าย
บ่ายนี้งานที่เราทำก็คือทำงานต่อจากเมื่อวานเพราะมีเอกสารที่จะบรรจุลงใส่กล่องอีก2กล่อง เป็นแผ่นพับที่ออกมาจากเครื่องพับ สุกัลยาเป็นผู้หยิบออกมาจากเครื่องและใช้ยางมัด ส่วนเรารับหน้าที่ต่อจากสุกัลยาโดยทำให้แผ่นพับที่รัดยางแล้วให้มุมทุกมุมเท่ากัน วิธีการทำให้เท่ากันคือ แผ่นพับที่เราทำมีจำนวน100 แผ่น มัดยางแล้ว เอามือเราจับข้างซ้ายและขวาของแผ่นพับแล้วเราก็กระแทกลงบนโต๊ะให้มุมมันเท่ากันก็เป็นอันว่าเสร็จ จากนั้นเราก็นำแผ่นพับที่กระแทกมุมเท่ากันแล้วนำใส่กล่อง วางสลับหัวท้ายเพื่อไม่ให้แผ่นพับยับและชนกัน ใน1กล่องจะมี2สี วันนี้มีสีแดงกับสีชมพู ทำใส่สองลังใหญ่และวันนี้ใส่ที่ครอบหูไม่ค่อยลำคาญเหมือนเมื่อวานสงสัยชินแล้ว แต่ก็มีเสียงเครื่องจักรที่ทำงานดังเป็นรอบๆน่ารำคาญเหมือนกัน
***การทำงานในวันนี้ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ เพราะบางอย่างในชีวิตประจำวันของเราอาจไม่ได้ทำ เช่นการจ๊อกกระดาษ ตอนแรกก็งงว่ามันคืออะไรแต่พอได้ลองทำเองก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องหมูๆอย่างที่คิดเลย มันต้องฝึกฝนถึงเราจะทำได้คล่องและเราก็จะสนุกกับงานที่เราทำด้วยค่ะ***