...มันชอบให้สาวๆกรี๊ดๆๆๆๆ...ใช่ไหม....ด้าย...จัดให้....
(ต่อจาก ตอนที่๓... มีผีที่หอ...จริงเหรอ)
....เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้....โปรดให้คำแนะนำกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีค่ะ.....
ชีวิตของนักศึกษาปีหนึ่งเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ค่ะ... พยาบาลจุฬาฯ เค้าต้องเป๊ะ... ดังนั้น ตอนมาสอบต้องวัดส่วนสูง และชั่งน้ำหนัก ฉันผอม คุณอาให้ดื่มน้ำเยอะก่อนขึ้นชั่งน้ำหนัก กว่าจะได้ชั่งก็ปวดฉิ้งฉ่องต้องเข้าห้องน้ำ ออกมาก็ดื่มน้ำอีก จนพุงกาง... น้ำหนักฉันคาบเส้นพอดี
ตอนสอบสัมภาษณ์โดยจิตแพทย์ ฉันกลัวเขาว่าเราโง่ เป็นเด็กบ้านนอก หมอถาม 1 เราตอบ 5-10 มั้ง คุณอาที่เป็นพยาบาลมาบอกทีหลังว่า หมอเขียนว่า...over talkative... ตอนนั้นฉันนึกในใจว่า... เออ... เรานี่ก็หลอกหมอได้นิ แต่ตอนนี้ฉันว่า...หมอจิตเวชพูดถูกแฮะ......
หอพักตึกกาชาดที่พวกเราพยาบาลจุฬาฯปี 1 อยู่กันเป็นหอพักเฉพาะของน้องพยาบาลปีหนึ่งเท่านั้นอาจจะด้วยเพราะพวกเรามาจากต่างที่กัน อาจารย์เลยให้พวกเรามาฝึกใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จะได้รู้จักกัน รักกัน ซึ่งก็ได้ผลค่ะ สามัคคีกันมาก เวลาว่างเราก็เมาท์รุ่นพี่ที่โหดๆบ้าง... อาจารย์ที่โหดๆบ้าง...
อาจารย์สอนให้พวกเราเป็นหญิงที่มีระเบียบเรียบร้อย เป็นกุลสตรี หลายๆ อย่างที่ฉันได้จากวิทยาลัยฯแห่งนี้... แล้วติดตัวมา (บ้างบางส่วน) จนทุกวันนี้...
ฉันหัดว่ายน้ำที่สระ YWCA จนเป็นหลายท่า ยกเว้นท่าผีเสื้อ... เพราะฉันผอมบางเหมือนเงือกละมากกว่า... ใส่ชุดว่ายน้ำของ speedo ซะด้วย... สมัยก่อนแพงมากๆ ชุดนี้คุณภาพดีมาก ใส่แล้วแนบตัว ไม่มี cuff นัยว่า...เบา สบาย เวลาว่ายน้ำจะได้คล่องตัว
ก่อนลงสระอาจารย์ให้ใส่ชุดแล้วมายืนรอบสระ รุ่นฉันมี 100 กว่าคน ยืนเรียงโชว์กันราวจะประกวดนางงาม... ก่อนลงสระ
ตอนเรียนวิชาการ จบบรรยาย เลิกเรียนก็เดินไม่กี่ก้าวจากห้องเรียนก็ถึงหอพัก....
หอพักปีหนึ่งมีทางขึ้นลงทางเดียว ครูไข่มุก ครูแม่บ้านจะนอนเฝ้าห้องติดบันไดขึ้นลงแหละค่ะ ใครวิ่งขึ้นลงเสียงดังก็อาจจะโดนเรียกมานั่งทำสมาธิ.... แต่ฉันไม่เคยโดน
และทางขึ้นลงนี้แหละค่ะ ที่มีเรื่องเล่าค่ะ...
รุ่นพี่ส่งเวรไว้ว่าบนถนนอังรีดูนังส์ บริเวณฟุตบาทตรงบันไดขึ้นหอนี้ให้ระวังชายหนุ่มที่มักจะมาเลาะรั้วดูพวกเรา...
นี่แหละ...ตำแหน่งทางพักบันไดทางขึ้นหอ ฝั่งติดถนนอังรีดูนังส์...
มักจะมีชายหนุ่มเป็นประเภทโรคจิตมายืนริมรั้วแถวนี้ แล้วชอบทำอะไรพิเรนๆให้เด็กผู้หญิงดู โดยเฉพาะน้องๆปีหนึ่งที่อ่อนหัด... เห็นแล้วก็กรี๊ดๆๆ...ด้วยความตกใจ ....มันก็ช๊อบชอบ....พวกพี่ๆตั้งสมญานามมันว่า “ไอ้ติ้ว”...
พี่ๆบอกว่า มันอยู่คู่พยาบาลปีหนึ่งมานาน
และพอพวกเราเข้ามาอยู่กันไม่นานนัก ก็เริ่มได้ข่าวว่า...มันมาแล้ว....
...และเริ่มมาถี่ขึ้นๆ...
“เฮ้ย!...ไอ้ติ้วมา”
“มันมาสั่นติ้วอีกแล้ว...หนอยเดี๋ยวนี้มาทุกวัน”
พวกเราเลยวางแผนแกล้งมัน
...มันชอบให้สาวๆกรี๊ดๆๆๆๆ...ใช่ไหม....ด้าย...จัดให้....
แล้วมันก็มาจริงๆ
“เฮ้ย...ไอ้ติ้วมาๆ.....” แล้วมันก็เริ่มปฏิบัติการณ์
เราทำตามแผน พวกเรานัดกันมาหลายๆคน หนอย....บังอาจ...รู้จักพยาบาลน้องใหม่น้อยไปซะแล้ว
"ไอ้ติ้วมาเหรอ..."
"เออ..."
... แล้วบอกต่อกันเป็นทอดๆไป....
คราวนี้เราก็กวักมือเรียกพรรคพวกออกมาดู แห่กันมาหลายๆคนแล้ว ก็เฮๆกันอย่างสนุกสนาน ไม่อายมัน
ไม่นานนัก มันอาย... หัวหดไปเลย
โส...น้า...หน้า....แล้วพวกเราก็ไม่ได้ข่าว "ไอ้ติ้ว" อีกเลย.....
ฮ่าๆๆ....
เหตุนี้หรือเปล่าไม่ทราบที่ทำให้ครูไข่มุกเลิกเป็นครูแม่บ้าน... แล้วให้ครูแสงโสมมาทำหน้าที่แทน...น่าสงสัยค่ะ
....
ฉันเองนั้นให้สำนึกในบุญคุณของคณาจารย์ที่สั่งสอนมา ความรู้สึกดีๆที่ศิษย์ยังติดตัวอยู่ก็คือ เรื่องของความรัก ความสงสารที่มักมีให้ผู้ป่วย แล้วติดมาถึงใครต่อใครที่อยู่ใกล้ตัวได้อย่างไม่มีหมดเสมอ
ฉันมีความสุขมากๆ กับการที่ได้กลับมาบ้านเก่าหลังนี้ค่ะ..."วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย"
คุณความดีทั้งหลายที่ฉันทำมาจนทุกวันนี้นั้นเป็นเพราะได้รับการสั่งสอนมาดีจากสถาบัน และฉันได้เพื่อนพยาบาลจุฬาฯรุ่น 64 ที่ดีด้วย
แต่หากมีส่วนที่นอกลู่นอกทางบ้าง นั่นเพราะฉันเป็นตัวของฉันเองค่ะ...อิ อิ