ในความทรงจำของผมต่อ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ผมจะจำภาพหนึ่งจากหน้าหนังสือพิมพ์ ที่ท่านยกเท้าให้กับนักข่าว ตอนนั้นยังเด็กอยู่เลยครับ ยังคิดว่าคนคนนี้ทำไมถึงได้มันขนาดนี้ยิ่งโตขึ้น ก็เริ่มรู้ว่าท่านเป็นนักคิด เคยได้ยินคำว่า คึกฤทธิ์ คิดลึก หรือ นโยบายขุดถนน ถมคลอง เพื่อสร้างงาน นี่ก็แซวยุคท่าน แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกครับจนมาอ่านเรื่อง มอม ที่บรรจุให้เราเรียน ก็เลยได้อ่านเรื่องสั้นดีๆ เคยได้รู้ว่าเรื่องนี้บรรจุในเล่มนี้ เพื่อนนอน ว่ากันว่า บินหลา สันการาคีรี อ่านเรื่องมอมแล้ววิ่งไปถามครูว่าเรื่องนี้ยังไม่จบนี่ ครูเลยบอกงั้นเธอก็ไปเขียนต่อให้จบสิ นิทานเรื่องนี้ยกย่องครูที่เป็นดาวยั่วชั้นดี เลยมีบินหลาในวันนี้ แต่อีกส่วนคือเรื่องสั้นเรื่องนี้ไม่ธรรมดาในเล่มมีแต่เรื่องสั้นชั้นครูจริงๆ ครับ ทุกเรื่องพรรณนาได้เห็นภาพ เช่น ความงามความไม่งามของบุคคลในเรื่อง ท่านบรรยายแบบให้ภาพลอยมาเลยครับ ท้ายๆ เล่มจะเริ่มหนัก แซวเรื่องการเมือง และนักการเมืองได้หนักหน่วงเลย อย่างเรื่อง บ้านแขนขาด นั่นปะไร มาอ่านบทนำอีกที เรื่องนี้มีรางวัลรับประกันด้วยนะหรือจะเรื่องข้าราชการติดเกาะ ในเรื่อง นี่ไงขุนนาง นั่นก็แสบทีเดียว หลายเรื่องเลยครับที่น่าอ่าน ช่วงแรกๆ ในการอ่าน จดไว้ได้แบบนี้กบกายสิทธิ์ เรื่องเล่าสุดแสบของสาวน้อยฆาตรกรรมจากก้นครัว ทำให้สำนึกเรื่องการกินแผ่นดินมหัศจรรย์ เรื่องปัจจุบันในโลกที่ดูแล้ว ไม่น่าเชื่อนิทานแสนกวน-เกาะร้างทางรัก ว่าด้วยการปกครองแผ่นดินโดยปราศจากการนองเลือด เพราะสถานการณ์บังคับศิลปินเอก กับความอินของนักแสดงนรกที่สวรรค์ลืม การมองเห็นเป็นอุปสรรคของการสัมผัสใจบ้านนอกเข้ากรุง เสียดสีนักการเมืองผ่านสายตาคนบ้านนอกที่ติดตามเข้ามาในเมืองกรุงในเรื่อง มอม มีคำเด็ดมอมไม่ได้รักนายเท่าชีวิต แต่นายเป็นชีวิตของมอมนี่แหละครับ หัวใจหมาเล่มนี้ผู้เขียนเขียนไว้ว่า จะมาเป็นเพื่อนนอนของผู้อ่าน ใครชอบไม่ชอบผู้เขียนอย่างไรให้ลืมเสีย แค่จะมีคนมาเล่าเรื่องให้ฟังก่อนนอน เรื่องจึงสบายๆ แต่กัดเจ็บน่าดูเลยอ่านแล้วถึงรู้ครับว่าทำไมท่านถึงเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ คนแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านมีคือชอบคิด กล้าคิด ถ้าสมัยนี้ต้องเรียกคิดนอกกรอบครับลองหาอ่านดูนะครับ ผมเชื่อว่าหลายคนคงชอบ มอม
สนุกดีนะ