การมาคราวนี้เพื่อมาดูกระบวนการย้อมครามของกลุ่มแม่บ้านที่บ้านวาใหญ่ ซึ่งอาจารย์อำนาจ สุนาพรม เพื่อนสมัยเรียนที่ม.ขอนแก่นเชิญชวนมาเพราะเห็นว่าผมสนใจ ซึ่งอาจารย์อำนาจพานักศึกษามาเรียนรู้และศึกษาการออกแบบลวดลายด้วย
บ้านวาใหญ่เป็นถิ่นที่ลงหลักปักฐานของกลุ่มชนที่เรียกตนเองว่า โย้ย ซึ่งมีวัฒนธรรมร่วมกับไทย้อและผู้ไทส่วนรายละเอียดปีกย่อยนั้นแตกต่างกันไป ที่นี่ยังมีการย้อมผ้าด้วยครามและทอผ้ากันมาก และบ้านที่นักศึกษามาลงพื้นที่คราวนี้คือบ้านวาใหญ่ ตำบลวาใหญ่ อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ผมเดินทางตะเวนรอบหมู่บ้านเพื่อหาที่ทำการกลุ่มทอผ้ามาถึงช่วงแรกผมคิดว่าเป็นวัดแต่ความจริงบริเวณที่ผมเห็นนั้นไม่ใช่วัดแต่คือที่ทำการกลุ่มทอผ้า ช่วงที่ไปถึงตอนแรกอาจารย์อำนาจและนักศึกษาไม่อยู่หลังไปสวัสดีช่างทอเสร็จผมก็เดินรอบสถานที่ทันทีเพราะมีลางสังหรณ์ผิดปกติและกลุ่มพื้นที่ที่ผมสนใจคือกองอิฐเก่า ๆ ใกล้โคนต้นไม้
เมื่อถ่ายรูปและสังเกตพบว่านี่คือฐานของสิมโบราณที่มีอายุมากกว่า100ปีเพราะเป็นอิฐเก่าแบบปั้นเองเผาเองแบบพื้นบ้านเป็นฐานโบกคว่ำโบกหงายก่ออิฐเท่าที่พบสูงราวหนึ่งเมตร สภาพทรุดโทรมมากดีที่ชาวบ้านสร้างอาคารครอบเอาไว้
ผมสนใจชื่อบ้านนามเมืองเสียดายตื่นเต้นกับการย้อมครามจนลืมถาม แต่ที่ทราบจากอาจารย์อำนาจชื่อวาใหญ่มาจากแถบนี้มีกวางใหญ่ขนาดรอยเท้าห่างกันเป็นวาซึ่งใหญ่มากจึงเรียกวาใหญ่
บันทึกต่อไปขอนำเสนอเรื่องสวนครามครับ ตามอ่านนะครับ
สวัสดีค่ะคุณออต อ่านแล้วเหมือนได้ไปด้วยเลยค่ะ การได้สัมผัสชีวิตจริงในพื้นที่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดพลังที่จะเรียนรู้ได้ดีนะคะ
ได้เรียนรู้เรื่องชุมชนกลุ่มต่างๆด้วย ขอบคุณค่ะ
ติดตามอ่านอยู่เสมอนะคะ
อาจารย์
ตามมาอ่านครับ มีภาพประกอบด้วย
อาจารย์ธวัชชัยครับ
จากที่อ่านข้อความของคุณ ออต ก็ถูกนะครับ สำหรับความเป็นมาของบ้านวาใหญ่
แต่ผมมีเรื่องอยากจะมาเล่าต่อให้ฟัง อืม อีกอย่างแม่ผม ก็ยังทอผ้าฝ้ายมัดหมี่อยู่เหมือนกันครับ ปัจจุบันก็ยังทออยู่
แต่ราคาถูกมาก โดน กดราคาครับ รูปที่พี่ถ่ายที่เห็น เป็นสิมนะ ข้างบนพี่ได้ขึ้นไปดูเปล่าครับ ข้างบนจะมีพระพุทธรูปโบราณ
ซึ่งเป็นไม้อายุอาจจะราวๆ ร้อยปีได้ ก็เท่าๆกับวัดแหละครับ เพราะตรงนั้น อดีตเคยเป็นวัดเก่าแต่โบราณ แต่ปัจจุบันพระพุทธรูปถูก
ขโมยไปครับ พูดแล้วก็เสียดายนะครับมรดกตั้งแต่ ปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบว่าตามกลับมาได้หรือยัง
ที่ผมรู้ดี เพราะผมเป็นคนบ้านวาใหญ่ ครับผม ปัจจุบันศึกษาอยู่ มข. วิทยาเขตหนองคายครับ
ใช่แล้วครับ พระพุทธรูปถูกขโมยไปกลางดึกตื่นขึ้นมาชาวบ้านก็ไม่เห็นแร้ว
ไม่ทราบว่าตำรวจทำงานเป็นเต่ากันรึงัยครับปล่อยให้หายไร้วี่แววกันซะ
ของตกทอดมาแต่สมัยหลวงปู่สีลา อิสฺสโร แล้ว เป็นพระกรรมฐาน
สายพระอาจารย์มั่น สลักด้วยแก่นไม้แต่ก่อนไม่มีหลังคามุงมีพระพุทธรูป
ปางมารวิชัย สมัยอยุธยาอายุประมาณร้อยกว่าปีได้รวามแล้วสี่องค์
กระผมเองตอนเด็กๆไปวิ่งเล่นที่นั่นประจำ ผมเองก็เป็นคนบ้านวาใหญ่
ตอนนี้ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แต่ก่อนเรียนอยู่
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนครเคยศึกษาเรื่องคราม
เกี่ยวกับต้นทุนของผ้าครามว่าต้นทุนของหนึ่งผืนคือกี่บาท ทำคล้ายๆปริญญานิพนธ์อ่ะครับ
คนนในศูนย์รู้จักผมดีเพราะเป็นคนสนิทของหลานเจ้าของศูนย์ครับ
มีข้อมูลอะไรสอบถามตามเมล์ได้นะครับ [email protected]