สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสายตาของคนที่ไม่อยู่ในพื้นที่และไม่เข้าใจวิถีคิด ชีวิตและศาสนา ดูเป็นเรื่องที่เลื่อนลอยและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง น่าหวาดกลัว และคำถามที่เพื่อนมนุษย์นอกพื้นที่หลายๆคนคงอยากถามด้วยความสงสัย เป็นห่วง คือ คนที่อยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง
ความเข้าใจเพียงเบาบางที่เกิดจากการรับข้อมูลผิวเผิน ได้ย้อมสีของความสงสัยและห่วงใยให้กลายเป็นความกังขา ประหลาดใจ และหลายๆ ครั้งได้แปรรูปเป็นความเบื่อหน่ายที่จะรับทราบการตายด้วยน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเอง
เมื่อได้รับหนังสือ ชื่อ ที่เกิดเหตุ ของ วรพจน์ พันธุ์พงศ์
จากเพื่อนคนหนึ่งที่ส่งมาให้อ่าน ก็ได้พบกับข้อมูลและรูปภาพกว่าร้อยรูปที่ทำให้ภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ชัดเจนขึ้น
หนังสือไม่ได้สร้างความสบายใจต่อสถานการณ์ ไม่ได้ทำให้ปัญหาที่ดำเนินอยู่เบาบาง และไม่ได้จบลงแบบนวนิยาย แต่บันทึกที่ถ่ายทอดผ่านปากกาและเลนส์ขาวดำของคนที่ลงไปอยู่ในพื้นที่ 1 ปี ได้สร้างแรงจูงใจที่จะมองปัญหาอย่างเข้าใจมากขึ้น และนั่นคือเสน่ห์ในงานเขียนที่ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ทำได้อย่างเย้ายวนในหนังสือเล่มนี้
อันที่จริง สำหรับนักอ่านที่สนใจหนังสือที่มีประเด็นชัดเจน มีข้อมูลจากประสบการณ์ตรง และไม่ละเลยบริบทเชิงสังคม คงคุ้นเคยกับงานเขียนของ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ กันดีอยู่แล้ว เช่นหนังสือชื่อ เสียงในความทรงจำ ที่คุณ Kati เขียนแนะนำไว้อย่างละเอียดก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจน
และสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องราวของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ที่เกิดเหตุ เป็นหนังสือที่น่านำมาใช้ประกอบการศึกษาอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ได้เห็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านสายตาของคนนอกที่ลงไปคลุกในพื้นที่ ยังมีรูปภาพชีวิตที่ไม่เคยเห็นบ่อยนักของชาวบ้านร้านถิ่นรวมทั้งภาพปัญหาผ่านสายตาของทหารที่ต้องหมุมเวียนไปปฏิบัติงานในพื้นที่ประกอบทั้งเล่ม
...ปิดท้ายด้วย..ส่วนหนึ่งจากหนังสือค่ะ.....
....ทั้งที่เสียงสวดจากสองศาสนายังสอดประสาน...ทั้งที่เสื้อผ้า ชุดคลุมกายบุรุษสตรีงดงาม สงบ
มาลัยดอกมะลิในมือผู้เฒ่ามุสลิมหอมจรรโลงใจ..โรตีและข้าวยำยังน่ากิน ใบหน้าเด็กหญิงชายคงความน่ารัก
ทว่าโรงเรียนนับร้อยแห่งประกาศปิดการเรียนการสอนกลางเทอม...ปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า.....
คุณๆ ละคะ....มองและเข้าใจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กันอย่างไรบ้าง..เชิญแลกเปลี่ยนกันค่ะ
ผมเห็นด้วยว่าเราเพียงแค่ "เข้าใจเพียงบางเบา"
แล้วเราก็ถกเถียงกันบนความไม่รู้ และเกลียดชัง ยิ่งเมื่อมีเหตุความรุนแรง เราก็ยิ่งมองเป็นความแปลกแยก
ทั้งที่จริง ผู้คนที่นั่นเขาพยายาม อยู่ สร้าง ร่วมมือ ช่วยเหลือ แก้ไข เพื่อให้ทุกสิ่งกลับมาได้
ผมไม่รู้รายละเอียดของชีวิตผู้คนที่นั่นนัก และไม่เคยมีวิธีการสร้างเสริมความเข้าใจระหว่าง ผู้คนอย่างชัดเจนนัก ทั้งในด้านนโยบายที่ผ่าน ๆ มาและ การปฏิบัติต่อกัน
แต่จากการได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ทางใต้ และกับเพื่อนจากที่อื่นที่ไปใช้ชีวิตที่นั่น พวกเราที่นั่นล้วนมีสิ่งที่ยึดโยงกันไว้ด้วยความรักและความเป็นชาติเดียวกัน
สิ่งหนึ่งที่ผมยังติดอยู่ในความรู้สึกที่ต่อว่าภาครัฐด้านการเสริมสร้างความเข้าใจคือ
แบบเรียนภาษาไทยที่ผมเคยเรียนไม่เคยมีเรื่องราวของเพื่อน ๆ ที่ภาคใต้นัก ( ดูเรื่องมานี มานะ ปิติ ชูใจ ใครหายไปไหน ) และนั่นคือสิ่งที่นำมาซึ่งความไม่รู้และไม่เข้าใจกันบ้าง
แต่เรามีเวลามีทาง มีโอกาส ที่จะทำความรู้จัก ความรักความเข้าใจที่มีต่อกันได้ ตั้งแต่วันนี้
ขอบคุณครับ ขอให้เพื่อนทางใต้มีความสุขและขอให้เหตุการณ์ร้ายผ่านไปโดยความดีและความเข้าใจ
ยอมรับจริง ๆ ว่า ไม่ค่อยรู้รายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากข่าวก็ทราบว่าสถานการณ์นี้มีมาร่วม 20 ปี แต่เพิ่งมาปะทุเดือดไม่กี่ปีนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมาก
รู้เท่านี้เองค่ะ TT_TT
แต่ก็นึกเป็นห่วงคนที่นั่นนะคะ
หนังสือเรียนในอดีต ในระดับไหนๆ ก็ตาม ไม่เคยสร้างความเคารพวัฒนธรรมของคนอื่นเลย.......จริงไหมคะ...เราสนับสนุนให้คนเก่งแบบศรีธนนชัย...และถูกหล่อหลอมวัฒนธรรมของการกลัวผู้มีเงิน และอำนาจที่มาจากตำแหน่งงานและการศึกษา...เราถูกใส่ความคิดว่า การศึกษาคือรายได้มากขึ้น หรืออีกนัยยะหนึ่งการศึกษาคือโอกาสเอาเปรียบคนอื่นมากขึ้น....
ส่วนหนึ่งของหนังสือ..บอกเล่าความคิดของคนๆ หนึ่งที่นั่นว่า...."คนเราไม่ต้องเรียนเยอะก็ได้ ขอให้เป็นคนดี ดีกว่า รู้กาลเทศะ จิตใจดี เอื้อเฟื้อเพื่อนพี่น้อง ผมว่าตรงนี้สำคัญกว่า".....
นักการศึกษาถ้าอ่านถึงตรงนี้..คงต้องทอดถอนใจหากยังไม่สามารถสร้างหลักสูตรที่จะดูแลลูกๆของเขาเหล่านั้นให้ไปสู่ความดีงามอย่างที่เขาต้องการ
ดิฉันตื่นเต้นที่พบว่า คุณmr. สุมิตรชัย คำเขาแดง มีโอกาสดีมากที่มีเพื่อนในพื้นที่จนสามารถบอกเล่าได้ว่า ทั้งที่จริง ผู้คนที่นั่นเขาพยายาม อยู่ สร้าง ร่วมมือ ช่วยเหลือ แก้ไข เพื่อให้ทุกสิ่งกลับมาได้
เขาเหล่านั้นทำอย่างไรกันบ้าง....ช่วยเล่าสุ่กันฟังด้วยเถอะค่ะ
มันคือความอึดอัดกับความไม่ชัดเจนในสิ่งที่เกิดขึ้น...อย่างนั้นด้วยใช่ไหมคะ....
ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูนะคะ...บางอย่างถึงจะยังไม่แน่ใจ ไม่เข้าใจทั้งหมด....แต่รูปภาพข้างในเล่ม..สื่อบางอย่างที่ทำให้สะท้อนใจ....
บันทึกหนึ่งเขียนว่า "ผมเป็นคนขี้หนาวที่ชอบหน้าฝน ยิ่งในเมืองที่ฝนตกแทบทั้งปีอย่างปัตตานีก็ยิ่งชอบ..ชอบและนึกไม่ถึงจริงๆว่าโลกนี้ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งงกอดลูกนอนผวา ทุกครั้งที่ฟ้าร้องไห้"....
เมื่อคืนฝนตก..พี่ซุกตัวลงในผ้าห่มเพื่อหนีไกลความหนาว....พร้อมๆกับคิดว่า...ที่เกิดเหตุที่ดูเหมือนห่างไกลและดูๆเลื่อยลอยนั้น..จริงๆแล้ว...อยู่บนแผ่นดินเดียวกับเรานี่เอง....หากพี่ตะแคงตัวแนบหูลงเพื่อฟังให้ชัดๆ พี่อาจจะได้ยินเสียงสะอื้นของคนแทรกทะลุผิวดินขึ้นมาก็ได้....
ค่ะ เพราะความไม่ชัดเจนของอะไรหลายอย่าง ก็เลยทำให้รู้สึกอึดอัด อยากรู้เหลือเกินว่าคนในพื้นที่เขาต้องการอะไรและรู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นนี้ แต่ก็หวังให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
และบันทึกที่อาจารย์ยกตัวอย่างมา .. อ่านแล้วเศร้าเหลือเกิน
ขอบคุณค่ะ
หวังให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ค่ะ เราต่างก็หวังเช่นนั้น...หวังเหมือนที่เราต่างหวังให้ทุกแห่งบนโลกใบนี้ สงบ สุข และสบาย
เราต่างพยายามข่มอาการกระวนกระวายใจต่อสิ่งที่มันเกิดขึ้น ...และหวังว่ามันจะผ่านไป
และเราก็ต่างหวังว่า "ผู้ที่เกี่ยวข้อง" มองเห็นปมของปัญหาและแก้ไขได้ตรงจุด
...
หนังสือเล่มนี้เท่าที่พี่อ่านและทำความเข้าใจ....กำลังพยายามจะบอกบางอย่างที่เป็นเงื่อนไข เป็นปม และเป็นสิ่งที่ ผู้คนทั่วไปควรจะ "พยายาม" อีกสักนิดในการเห็นและยอมรับว่า ทุกๆ คนล้วนเป็นเงื่อนไขของปัญหา
ที่จริงมีส่วนที่น่าทึ่งคือ ภาพถ่ายด้วยฟิลม์ขาวดำ ประกอบหนังสือ จากฝีมือของช่างภาพชื่อ ธวัชชัย พัฒนาภรณ์ ...เห็นมุมกล้องกับการถ่ายทอดชีวิตผ่านเลนส์แล้ว...รู้สึกว่า ได้ใจจริงๆค่ะ
...ไม่ได้มาโปรโมทหนังสือนะคะ.....เพราะไม่รู้จักทั้งนักเขียนและสำนักพิมพ์....แต่ว่ามีไม่กี่สำนักพิมพ์ที่รู้สึกว่า เห็นชื่อก็อยากอ่านหนังสือของเขา....openbooks คือสำนักพิมพ์หนึ่งที่พี่ยอมรับงานที่เขาเลือกขึ้นมาพิมพ์ค่ะ....
สวัสดีครับ
วันนี้ผมสามารถบังคับตนเองให้ว่างได้ ช่วงรอกลับบ้านเลยมีโอกาสได้อ่านบันทึกนี้เป็นบันทึกแรก -
ปัญหาชายแดนภาคใต้ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก พี่เขยของคนที่บ้านซึ่งเป็นทหารเลบ่าเหตุการณ์จริงของการไปปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างน่าฟัง
หลายเรื่องก็เป็นเรื่องธรรมดา คนที่นั่นได้ยินเรื่องราวพร้อม ๆ กับคนทั่วประเทศผ่านสื่อโทรทัศน์ ขณะที่บางเรื่องก็ราวกับมีความตายเดินเกาะติดอยู่ทุกจังหวะก้าว
...
ส่วนหนังสือเล่มนี้ผมดูแค่ปกก็ชอบแล้วครับ , รูปภาพและโทนสีนำเสนอได้อย่างมีนัยสำคัญ ...
ไม่กี่วันนักศึกษาปัญญาชนของชาติถูกยิงตาย และนี่คือสัญญาณอะไรบ้างหรือเปล่า ...
.....
ตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด และไม่ลืมสวดภาวนาให้พี่น้องไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ....
และความความสุขแห่งชีวิตมาเยือนคนไทยทั้งประเทศอย่างเป็นนิรันดร์
ขอบพระคุณครับ -
ผมขอภาวนาให้เหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จงสงยสุขโดยเร็ว
ตอนเห็นปกของหนังสือ ก็รีบพลิกไปดูชื่อคนออกแบบปกค่ะ คือคุณปราบดา หยุ่น
สีเขียวตัดกับสีแดง บาดลึกในอารมณ์
ส่วนหนึ่งของหนังสือที่ทำให้รู้สึกหนาวเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ คือคำสัมภาษณ์หนึ่ง
"มือถือกับปืน ขาดไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งเวลาขับรถนี่ต้องวางไว้ข้างตัวตลอด เกิดเรื่องอะไรขึ้นมายิงไว้ก่อน"
มันชวนหนาวไม่น้อย....
ขอบคุณค่ะ...ดิฉันก็ภาวนาเช่นกันค่ะ
ได้ข่าวว่า โครงการบ้านจัดสรรที่สงขลา ขายได้อย่างรวดเร็ว.....
ยะลาเคยเป็นความฝันว่าจะไปเยือนค่ะ...อืม..ยังฝันอยู่นะ....ตอนนี้ส่งใจไปก่อน...
สวัสดีค่ะ...ตามมาอ่านค่ะ...มีหนังสือเล่มนี้อยู่เหมือนกันค่ะ..แต่ยังมิได้อ่าน...มีทั้งพี่สาว พี่เขย หลานๆ อยู่ในพื้นที่...รับฟังเหตการณ์ ด้วยความเข้าใจ...ทำใจ...
หลานชายวัย ประถม 4 เคยมีความเครียด...เนื่องจากเธอกลัวออกจากบ้านแล้วไม่ได้กลับมาเจอแม่อีก...จนต้องปรึกษาจิตแพทย์ไป รอบหนึ่งแล้ว ได้รับคำแนะนำ..ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วพร้อมกับออกมานอกพื้นที่...มาเรียนโรงเรียนประจำที่หาดใหญ่แล้ว...
ดีนะครับที่มีผู้รู้ขยายข้อเท็จจริงให้สังคมกว้างรู้เท่าทันด้วย
แม้ว่าจะมีภรรยาเป็นคนใต้ มีญาติพี่น้องอยู่ในเขต 3 จังหวัดนั่น และมีครูบาอาจารย์ มอ.ที่สนิทสนมกัน แต่ก็มิกล้าที่จะแสดงความเห็น
เพียงไม่อยากให้ความรุนแรงมันเกิดขึ้น และมีส่วนช่วยอย่างใดก็อยากทำครับ
สวัสดีค่ะ คุณ. metta
สวัสดีค่ะ น้องขจิต ฝอยทอง
สวัสดีค่ะ พี่บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
เพื่อนจ๊ะ
คุณเพื่อนที่รัก
แวะไปตอบใน เกร็ดไอที..ในโรงเรียน แล้วนะจ๊ะ....
อยู่บนดอยอากาศดี..มีแฮง....ลงมาในเมืองอากาศหนักๆ...ง่วงตลอดเลย...อือ...
สวัสดีค่ะอาจารย์น้องขจิต
คุณเพื่อน dd_L
ชวนไปมุกดาหาร..จะไปไหนจ๊ะ
เพื่อนจ๊ะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ umi
ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไม่เว้นสักตารางนิ้วบนโลกนี้นะคะ
สวัสดีจ๊ะ คุณเพื่อนdd_L
ตามไปอ่านแล้ว...ตลกดี...ขอบคุณนะคะได้หัวเราะก่อนเที่ยง
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย...
บางครั้งอ่านข่าวแล้วต้องเตือนตัวเองไม่ให้รู้สึกชินชาจนเฉยเมยกับความเปราะบางเหล่านี้อยู่เหมือนกันค่ะ....ชีวิตคนนี่เปราะบางจริงๆนะคะ....ดูข่าวเครื่องบินตกที่ภูเก็ตยิ่งเห็นถึงความไม่เที่ยงแท้และทำนายไม่ได้เลยของการมีชีวิตอยู่...ได้แต่เร่งรีบว่าจะทำความดีอะไรได้บ้างในวันแต่ละวัน...