ดงหลวงยังมีพื้นที่ที่น่าสนใจอีกมาก ทั้งที่ผู้บันทึกรู้จักและไม่รู้จักโดยเฉพาะพื้นที่ป่าเขาที่เราไม่ค่อยมีโอกาสขึ้นไปสำรวจ ที่บ้านพังแดงซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เราเดินทางไปที่บ่อยที่สุดเพราะเป็นที่ตั้งงานสูบน้ำเพื่อการชลประทาน และเราเช่าบ้านหนึ่งหลังที่นี่ แต่เราก็ยังไม่มีโอกาสขึ้นไปสำรวจป่าภูถ้ำนกซึ่งเป็นป่าที่มีลักษณะสูงชัน แค่ตั้งใจว่าจะต้องขึ้นไปให้ได้ก่อนปิดโครงการ
บริเวณป่าภูถ้ำนก นี้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ และเป็นของคู่กับชาวไทโซ่ซึ่งมีวิถีชีวิตที่อาศัยธรรมชาติ หาของป่า ล่าสัตว์ เอาของป่าไปแลกข้าว ผู้เฒ่าได้เล่าว่า ภูถ้ำนกเป็นป่าดงที่ใหญ่มาก มีความอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด
หมุดแดงด้านบนคือป่าภูถ้ำนก หมุดแดงด้านล่างคือที่ตั้งบ้านพังแดง
พื้นที่แถบนี้แต่ก่อนขึ้นต่ออำเภอนาแก จังหวัดนครพนม การปกครองยังไม่มีผู้ใหญ่บ้าน เพราะว่าห่างไกลจากตัวเมือง และถนนก็ยังไม่มี การเดินทางก็ต้องเดินด้วยเท้า ไม่มีรถ บริเวณภูถ้ำนกและเป็นรอยต่อของบ้านพังแดงและบ้านติ้วป่าภูถ้ำนกมีสิ่งที่น่าสนใจดังนี้
· มีผึ้งทำรังตลอดทุกปี จำนวนประมาณ 300 รัง
· มีน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 50 เมตร ส่วนมากจะตกในช่วงฤดูฝน
· ด่านคอยผาเล่า เป็นลานหินกว้างประมาณ 30 เมตร ชาวบ้านชอบมาดูคลื่นทะเลภูเขาข้างล่าง สามารถมองเห็นทัศนียภาพไกลออกไปถึงอำเภอคำชะอีและตัวจังหวัดมุกดาหาร
· ด่านก้อยเป็นที่ที่สวยที่สุด มีดอกไม้ประดับด้วยธรรมชาติสวยงามมาก มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ เป็นลานหินมีดอกไม้ป่าเหมือนปลูกไว้ เป็นของธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้ตกแต่ง
· ถ้ำผีกองกอง ที่ชาวบ้านเกรงกลัวแม้กระทั่งนายพรานก็จะไม่ใช้พักอาศัย ถ้ำใหญ่มีความสูง 50 เมตร กว้าง 100 เมตร มีน้ำที่ใช้อย่างสะดวกสบาย ในสมัยสงคราม มีสหายอาศัยอยู่ประมาณ 100 คน
· ถ้ำหมากก่อ เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุด มีความสวยงามมาก ห่างจากถ้ำผีกองกอยประมาณ 200 เมตร มีน้ำใช้สบายตลอดทั้งปี เป็นน้ำที่สะอาด ความสูงของถ้ำ 20 เมตร กว้าง 100 เมตร ในสมัยสงคราม มีสหายอาศัยอยู่ 100 คน และเป็นโรงพยาบาลของสหาย
· ถ้ำใหญ่ตีเหล็ก เป็นถ้ำที่มีความสวยงาม มีขนาดใหญ่สูงมาก มีน้ำหยดตกลงมา กลายเป็นหินก้อนใหญ่เป็นสีขาว 2 ก้อน ในสมัยสงคราม สหายใช้เป็นที่ทำการและตีเหล็ก อยู่ประมาณ 100 คน ซึ่งมีทั้งหญิงและชาย ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ถ้ำสหายตีเหล็ก หรือ ถ้ำตีเหล็ก”
หมุดเขียวด้านล่างคือสถานที่จัดงานเฮฮาศาสตร์ 3 วงแดงๆด้านบนคือที่ตั้งป่าภูถ้ำนก
ป่าแห่งนี้ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว เพราะเป็นอุทยานแห่งชาติ และชาวบ้านพังแดงขอกรมป่าไม้จัดทำเป็นป่าชุมชนแล้ว จึงมีกฎระเบียบจัดการดูแลอยู่
เฮฮาศาสตร์ 3 เราแค่ผ่านหมู่บ้านนี้ครับ และไม่มีทางขึ้นโดยรถยนต์แต่อย่างใด ก็แค่อยากเล่าให้ฟังน่ะครับ
สวัสดีครับท่านบางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
ขอบคุณครับ
ออต อยากอยู่ต่อ อิอิ
สวัสดีครับอาจารย์ นาย วรชัย หลักคำ
หวัดดีท่าน สะ-มะ-นึ-กะ
ไม่ขัดเลย ออต ออต
เราค่อยคุยกันนะ หมดโครงการแล้วก็นัดขึ้นดอยกันก็ได้ เพราเรามีสัมพันธภาพที่ดีกับชาวบ้าน เขาพร้อม เหลือแต่เราเท่านั้น
อีกทีนะออต กระซิบ..เราอาจจะปีนขึ้นไปก่อน เฮฮาศาสตร์ ไปเอาภาพ เอาเรื่อง มาเล่าให้เพื่อนๆที่ไม่มีโอกาสขึ้นไปก็ได้ เอาให้น้ำลายหก เจ็ด แปด เก้า เลย.. อิ อิ ค่อยคุยกัน ออต
สวัสดีครับท่านครูบาครับ ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
คุณพ่อมา ชาวบ้านพังแดงอายุ เข้า 70 แล้ว ยังขึ้นป่าภูถ้ำนกเฉยเลย ท่านขึ้นไปเอาสมุนไพรป่ามาต้มน้ำดื่มเป็นประจำครับ
ใครอยากได้สมุนไพรสูตรเด็ด ต้องมาเลย เฮฮาศาสตร์ 3 จุ๊ จุ๊.ความลับสุดยอด
ออตอยากอยู่ต่อ ได้เลย ครับ
หวัดดี อ.แป๋ว..
แฮ่ม...การขึ้นป่าแต่ละช่วงมีความหมายต่างกันเพราะป่าในแต่ละช่วง แต่ละฤดูจะมีความเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ เช่นจะขึ้นป่าดูดอกช้างน้าวต้องเดือน มกรา. กุมภา.. หากจะดูดอกลิ้นมังกร ต้องช่วงนี้ กรกฎา สิงหา กันยา..และ ฯลฯ
น้องเขาสนใจ ผมเองก็สนใจเลยเรียกว่า คอเดียวกัน เดี๋ยวจะคุยกัน เอาให้คนไม่ได้ไป อิจฉาตาร้อนไปก่อน เฮฮาศาสตร์ครับ
เคยขื้นไปเดินบนภูมาแล้วตอนปี39ครับ
สวัสดีครับ ท่านคนผ่านทาง เล่าให้ฟังบ้างซิครับ อยากฟังจังเลย ผมวางแผนว่าเดือนหน้าจะขึ้นไปกับทีมงานครับ
มีโอกาสไปนอนค้างคืนมาแล้วครับ สุดยอดเลย ผีหลอกทั้งคืน
คุณปอนด์ครับ เล่าให้ฟังบ้างซิครับ อยากฟังจังเลย..
อันที่จริงจะว่าผีหลอกก็คงไม่ถูกซะทีเดียว บางคนว่าผีมีจริง บางคนว่าไม่มี แต่สำหรับผมแล้วที่ไปเจอมา ก็คงบอกไม่ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
ผมไปนอนตรงสันเขา ตอนแรกตั้งแคมป์ ก่อนจะมืดผมเดินสำรวจรอบๆที่พัก เจอกับโหล ข้างในบรรจุกระดูก ตอนแรกผมไม่รู้ว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้นในสมัยก่อน ก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วผมก็ไม่ได้บอกให้ใครรู้เรื่องกระดูก กลัวจะพากันกลัวก็เลยเก็บไว้คนเดียวไม่บอกใคร ไปกัน5คน มีผมกับพี่ที่ทำงานด้วยกัน นอนเต๊น ส่วนอีกสามคน นอนเปลสนามที่ผูกกับต้นไม่ เมื่อตกค่ำ เป็นบรรยากาศที่แปลกมากๆ คือปรกติป่าที่สมบูรณ์ขนาดนี้ อย่างน้อยก็จะมีพวกแมลงกลางคืนร้องกันระงม หรือว่าพวกสัตว์ป่าต่างๆ แต่คืนนั้นเงียบสงัดมาก ไม่มีแม้แต่เสียงจิ้งหรีดซักตัว ตอนนั้นผมก็เริ่มจะเอะใจแล้วว่า ไม่ธรรมดาแน่ๆป่านี้ พอเวลาซัก5ทุ่มก็พากันนอน แล้วก่อไฟไว้ตรงกลาง เวลาผ่านไปซักพัก ผมนอนอยู่ในเต้นกำลังจะหลับ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหมือนคนเดินผ่าน ทีแรกว่าตัวเองหูฝาด เลยกลั้นหายใจซักพัก แล้วก็ตั้งใจฟังเสียงเดินนั้น เสียงเหยียบใบไม้เดินผ่านชัดเจนมาก ผมก็เริ่มมั้นใจแล้วว่าต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร กลัวเพื่อนๆที่ไปด้วยจะขวัญกระเจิง เวลาผ่านไปอีกซักพักอีกสามคนที่นอนเปลสนามอยู่ๆก็พากันเก็บเปลสนาม แล้วก็พากันมานอนรวมที่เต้น ผมถามว่าเป็นอะไร แต่ละคนไม่มีใครตอบ ได้แต่ส่ายหน้า แล้วก็มุดเข้านอน ผมนอนไม่หลับจนถึงเช้า ทุกคนถึงได้คุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนเล่าเหมือนกันเลยว่า มีอะไรไม่รู้ เดินรอบๆแคมป์ทั้งคืนเลย ผมเลยชี้นิ้วไปทางต้นไม้ใหญ่ที่มีขวดโหลกระดูดอยู่ แต่ละคนส่ายหน้าแล้วพูดว่า ออ นี่เองหรอโห ไม่ได้นอนทั้งคืนเลย
หลังจากที่กลับมาผมจิงได้มาหาข้อมูลเกี่ยวกับภูถ้ำนกถึงได้รู้ว่า ที่นั่นแต่ก่อนมันคือสนามรบดีๆนี่เอง แต่เขาบอกว่าส่วนมากที่คนแต่ก่อนรบกัน จะยิงกันบริเวณตีนเขา แล้วจะเอาคนเจ็บไปรักษาข้างบน
โฮ ขอบคุณมากครับ ที่เล่าประสบการณ์ตรงให้ฟัง พี่น้องบ้านพังแดงและบ้านอื่นๆขึ้นไปอยู่บนนั้นกันหมด และใช่ครับ คนเจ็บป่วยก็เอามาตรงนั้น และจำนวนไม่น้อยก็มาเสียชีวิตที่นั่นครับ
คุณ ปอนด์เป็นชาวดงหลวงหรือเปล่าครับ และขึ้นไปเที่ยว หรือไปหาของป่าครับ ซึ่งปกติชาวบ้านก็ขึ้นไปหาของป่ากันอยู่แล้วครับ ผมคุยกับอดีตผู้ใหญ่บ้านที่เล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง มีเรื่องน่าสนใจอีกเยอะครับ
ขอบคุณมากครับที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ