(มะหยี นั่งนิ่งเหมือนหุ่น)
ถ้าเป็นสมัยยกทัพจับศึก หัวเมืองฝ่ายเหนือตอนล่าง ที่มีเจ้าพระยาพิษณุโลกครองเมือง ในฐานะเมืองหน้าด่านคอยปะทะทัพพม่ารอท่าให้เมืองกรุงมีเวลาเตรียมตัว ช้างม้าวัวควายไพร่พลก็คงจ้าละหวั่นทั้งในและนอกกำแพงเมือง การเตรียมซ่อมแซมค่ายคูประตูหอรบคงคึกคักทั้งวันทั้งคืน ฝ่ายเสนาอำมาตย์ถูกเรียกประชุมวางแผนศึก แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว สงครามแบบเก่าไม่มีแล้ว มีแต่สงครามต่อสู้กับความไม่รู้ ที่เจ้าภาพกำลังประชุมเตรียมงานกันอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้ เป็นเวทีจัดงานที่คุณภาพครบครันสมกับเป็นงานKM.แห่งภูมิภาคครั้งที่1 เจ้าภาพเต็มที่ยกกำลัง2 ไปแล้ว ใครไม่ไป..ไล่กวดKM.ไม่ทันไม่รู้ด้วยนะรูปหล่อ
เมื่อตะกี้มีเสียงหวานๆข้ามโค้งฟ้ามาจากเมืองสองแคว จากลูกสาวใบหน้ากลมดั่งลูกท้อเมืองซิ้นเจิ้น บอกว่าอยากจะชวนให้ไปเดินเตร็ดเตร่ในงาน เล่นบทพระลอตามไก่ บทนี้ถูกใจจะได้แวะห้องโน้นห้องนี้
มหาวิทยาลัยนเรศวรเอาจริงเรื่องKM.มาก มีตัวตนคนขับเคลื่อนงานอย่างเป็นหลักเป็นฐาน รับผิดชอบพัฒนางานส่วนนี้จนมายืนอยู่ในแนวหน้า อ่านดูรายการแล้วมีชื่อพระอาจารย์วรภัทร ภู่เจริญ ไปเขย่าเวทีด้วย โอ้โฮ! งานนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว เชิญผู้สันทัดกรณีไปคุยเรื่องไม่ธรรมดา จำนรรจาแบบเปิ๊ดสะก๊าด คงทำให้งานมีชีวิตชีวากระหึ่มในหัวใจ ใครมีเทปไปอัดเสียงหัวเราะอาจารย์มาฝากคนทางบ้านด้วยนะครับ หายากจริงๆเสียหัวเราะกะเทาะปฐพีแบบนี้ อย่าลืมนะจ๊ะเดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน
ถ้าผมได้ไป ผมจะเจอครูSuไหมนะ ครูที่มีเพลงเต็มหัวใจ เธอเป็นพันธมิตรบุญธรรมที่แอบปิดทองอยู่เบื้องหลังเทคนิคในKM.มหาชีวาลัยอีสาน เคยคุยกันบ้างแต่ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ถ้าได้เจอหน้าก็ไม่รู้จะขัดเขินเหมือนคุยกับหนูตูนรึเปล่า คนเมืองนี้แปลกแท้ๆ ถ้าเราชมตามจริงว่าสวยจะม้วนต้วน..ม้วนต้วน..ยกเว้นคนเดียวไม่ต้องชม เธอจะยิ้มหวานอารมณ์ดีทั้งวัน จะใครเสียอีกละ ลูกพี่เจ้ามะหยียังไงละครับท่าน..
สรุป
1. จะไปชื่นชมความสำเร็จของงาน
2. จะไปเก็บเกี่ยวความรู้จากงาน
3. จะไปฟังจอมยุทธหัวเราะในงาน
4. จะไปเยี่ยมมะยี ถ้าลูกพี่มะหยีนัดให้หรือพาไปพบ
5. จะไปคุยกับครูSU เรื่องปรับปรุงเทคนิคในBlog
6. จะไปให้กำลังใจทีมงานอาจารย์วิบูลย์และหนูตูน
7. จะไปคารวะท่านครูบาอาจารย์ที่รู้จักในงาน
8. จะไปคุยกับเครือญาติชาวBlogger
9. จะไปลูบฆ้องใหญ่ในวัดพระพุทธชินราช
10. จะไปถามหาอาจารย์ราณี อยู่ไหน? ทำไมไม่เขียนBlog
11.จะไปชิมน้ำพริกอ่องกับน้าอึ่งและเพื่อนๆชาวเหนือ
ดีใจที่จะได้จะพบมานพน้อยหนุ่มไฟแรง
ตามที่พ่อครูบากล่าวไว้ด้านบนว่า "วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว สงครามแบบเก่าไม่มีแล้ว มีแต่สงครามต่อสู้กับความไม่รู้" (ความไม่รู้ => อวิชชา)
ตรงกับปรัชญาส่วนหนึ่งของ ม.นเรศวร เลยค่ะ
"มหาวิทยาลัยนเรศวรมีอุดมการณ์มุ่งมั่นที่จะดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้พระราชทานความเป็นไท ความสงบ ความผาสุกแก่ปวงชนชาวไทยมาแล้วในอดีต ดังนั้นมหาวิทยาลัยนเรศวรจึงมุ่งเน้นที่จะสืบสานให้สังคมไทยเป็นไทจากอวิชชา ..... "
ปล. พ่อครูบาคะ "เจ้ามะหยี" ก็เป็นเด็กพิด'โลก เหมือนตูนกับพี่ลูกหว้าหรอคะ
น้องไผ่มาไหมงานนี้
หลาย ๆ ข้อที่ท่านครูบากล่าวมาก็ตรงใจ แต่ตอนนนี้กลายเป็นว่าแรงจูงใจอย่างหนึ่งคือมะหยี่ นี่แหล่ะค่ะ ปิ๊กอยากจับตัวเป็นๆ ดูสิ จะเป็นยังงัย อิอิ ^^
แสดงว่าอาจจะได้เจอปิ๊กที่เมืองสองแควใช่ไหม
เออ เราสนใจเหมือนกัน อยากไปดูตัวเป็นๆเจ้ามะหยี ไปด้วยกันไหม ไม่รู้ลูกพี่เขาจะว่ายังไง อิอิ
เรียนพ่อครูค่ะ
แอบโดนเผาแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยค่ะ ราณีไปกับลูกหว้า เขานึกว่าเป็นทางม้าลายค่ะ อิ อิ
ดำแต่กาย ใจผ่องแผ้ว นพคุณ อิอิ
ไม่ได้เจอคุณหมอนานหลายปี ตั้งแต่สมัยไปประชุมที่พัทยา หลังจากนั้นก็ได้แต่อ่านข่าว ติดตามความก้าวหน้า ก็แอบชื่นชมงานของคุณหมอ ดีใจที่มีวาสนาจะได้พบ คนเก่งคนดีเมืองสองแคว อิอิ