ผมมีนิสัยขี้ขลาด กลัวโน่นกลัวนี่เป็นนิสัย จึงคิดอยู่เสมอว่าอะไรบ้างที่อาจก่อความทุกข์ให้แก่ตนเอง ทั้งที่เป็นความทุกข์ระยะสั้น และความทุกข์ระยะยาว ก็จะหาทางหลีกเลี่ยง
ที่จริงนิสัยแบบนี้ มองเชิงบวก อาจเรียกว่า มีสติ ไม่ประมาท
ชีวิตของผมจึงมีหลักการที่กำหนดให้ตัวเองปฏิบัติมากมาย
แต่ในความเป็นจริง บ่อเกิดของทุกขภาวะเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เราควบคุมได้ด้วยตนเอง มีบ่อเกิดของทุกขภาวะมากมายที่เรา ควบคุมด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นเพราะระบบสังคม ระบบเศรษฐกิจ ระบบวัฒนธรรม ฯลฯ ที่มีการสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หรือข้อดีเรื่องหนึ่ง แต่มันอาจก่อทุกขภาวะแก่คนจำนวนมาก หรือต่อคนบางกลุ่ม และเราเป็นคนหนึ่งในกลุ่มนั้น
ผมจึงนับว่าเป็นคนที่โชคดี ได้เข้าไปอยู่ในองค์กรต่างๆ ที่เข้าไปมีส่วนจัดการ หรือพัฒนาระบบ เพื่อลดสาเหตุของทุกขภาวะของคนส่วนใหญ่ ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีก็เพราะ การเข้าไปทำหน้าที่ในองค์กรเหล่านี้ได้ช่วยให้ผมเรียนรู้เรื่องบ่อเกิดของทุกขภาวะเชิงระบบ ได้เรียนรู้ความซับซ้อนซ่อนเงื่อนของสังคมและของชีวิต ได้เห็นว่า “เหตุแห่งทุกข์” มันอยู่ลึก และซ่อนตัวอยู่ในตัวเราเอง และในสังคมของเราอย่างไร เห็นโอกาสทำงานเพื่อสังคมอย่างที่เรียกได้ว่า ไม่รู้จบ
บันทึกนี้เขียนระหว่างประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนหลักประจำปี 2551 – 2553 ของ สสส. ซึ่งก็คือแผนหลักของการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ ทำให้ผมนึกออกว่า การสร้างเสริมสุขภาวะนั้น โดยหลักการมี 4 ส่วน
1. ระดับจุลภาค คือบุคคล หรือครอบครัว ชุมชน ลดบ่อเกิดของทุกขภาวะ
2. ระดับจุลภาค จัดกระบวนการ/กิจกรรม เพื่อสร้างสุขภาวะในชีวิตประจำวัน
3. ระดับมหภาค คือประเทศ กระทรวง จังหวัด เทศบาล อบต. ลดบ่อเกิดของทุกขภาวะโดยระบบ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่น การประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (HIA – Health Impact Assessment) ในโครงการพัฒนาต่างๆ
4. ระดับมหภาค จัดส่งเสริมกระบวนการ/กิจกรรม ที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ เช่น มีสวนสาธารณะ/พื้นที่สีเขียว เป็นพื้นที่ทางสังคม และพื้นที่แวดล้อม เพื่อสุขภาวะ
ผมได้เรียนรู้ว่า แนวที่ 2 & 4 ใช้ทฤษฎี Empowerment Theory ซึ่งไม่เน้นศึกษาหรือเอาใจใส่ Risk Factors (แนวที่ 1 & 3) แต่เน้นเอา Success Factors มาแพร่ จริงๆ แล้วเราต้องใช้ทั้ง 2 แนว
วิจารณ์ พานิช
3 ก.ย. 50
อาจารย์มีมีความสนใจ การเสริมสร้างสุขภาวะระดับจุลภาคที่เกี่ยวกับบุคคล ครอบครัว ชุมชน เพื่อการสร้างสุขในชีวิตประจำวันมีข้อแนะนำไหมครับ.....ณ ตอนนี้เริ่มมีความรู้สึกว่าชีวิตถูกพันธนาการ..ด้วยกระแสแห่งวัตถุนิยมเยอะไม่อยากถลำเข้าไปมากกว่านี้..กำลังหาแก่นสารยึดเหนี่ยวครับ