คนไทย เป็นชนชาติหนึ่งที่นิยมอาหารที่มีรสเค็ม กินข้าวทีก็ต้องมีน้ำปลาจนเป็นความเคยชิน เค็มหรือเปล่าไม่รู้ เหยาะน้ำปลาหน่อยจะได้มีรส แถมอาหารส่วนใหญ่ที่เรากินเป็นปกตินั้นล้วนมีเกลือเป็นส่วนผสมในปริมาณมาก เช่น อาหารกระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป เครื่องแกงสำเร็จรูป ไส้กรอก และขนมกรุบกรอบสารพัดยี่ห้อ ทำให้ในแต่ละวัน เรากินเกลือเกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับเสียแล้ว
จริงๆ แล้ว ตามปกติคนเราควรจะได้รับปริมาณเกลือเพียงแค่ 230 มิลลิกรัม หรือแค่ประมาณ 1/10 ช้อนชาเท่านั้น แต่ปริมาณเกลือที่เรากินกันเข้าไปส่วนใหญ่นั้น สูงกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็นกว่า 6-10 เท่าเลยทีเดียว
การกินอาหารที่มีรสเค็มมากไปนั้น มีแต่ผลเสีย ลองสังเกตเวลาที่เรากินอะไรที่เค็ม ๆ ดู อย่างแรกจะรู้สึกหิวน้ำบ่อย เนื่องจากหากร่างกายมีปริมาณโซเดียมสูงเหมือนน้ำทะเลที่เค็มจัด ร่างกายจึงต้องการน้ำในจำนวนมาก เพื่อทำให้ความเค็มเจือจางอยู่ในระดับที่สมดุล
นอกจากนี้ การกินอาหารที่มีรสเค็มติดต่อกันเป็นเวลานาน จะเป็นสาเหตุของบรรดาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อย่างโรคความโลหิตสูง โรคอัมพฤกษ์ โรคไต ทำให้เป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดศีรษะ (ไมเกรน) หรือเกิดผื่นแดงตามตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ และปริมาณเกลือในร่างกายที่มากเกินไป จะทำให้น้ำของเนื้อเยื่อภายในและภายนอกเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอาการบวม และเกิดอาการเส้นเลือดคั่ง และหัวใจวายได้
รู้อย่างนี้แล้วก็ลดอาหารเค็มกันเถอะ จะได้มีสุขภาพที่ดีไปนาน ๆ
ไม่มีความเห็น