มหาวิทยาลัยในฝัน : เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น


เขาเชิญธงชาติไทยขึ้นเคียงคู่กับธงชาติญี่ปุ่นเป็นการให้ความสำคัญแก่เรามาก

        วันอาทิตย์สบายๆ แบบนี้  ผมมีเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ครับ แต่ออกไปต่างประเทศกันสักนิด  แถวๆ ญี่ปุ่น  ครับ   เพราะผมเห็นว่า  ที่ญี่ปุ่นมีอะไรที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังมากนักและผมก็ยังประทับใจไม่รู้ลืมอยู่ถึงบัดนี้

        เรื่องแรกก็เป็น  มหาวิทยาลัยในฝัน  ของผมครับ คือ       มหาวิทยาลัยสึกูบะ  ของเมืองสึกูบะ   ที่ผมคิดว่า มหาวิทยาลัยในเมืองไทยน่าไปศึกษาดูงานมากนะครับ   

 

 มหาวิทยาลัยสึกูบะ มหาวิทยาลัยในฝัน        

         

                                มหาวิทยาลัยสึกูบะ  เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาสึกูบะ เมืองสึกูบะ  จังหวัดอิบารากิ เกาะฮอนชิว หรือเกาะตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น  มหาวิทยาลัยแห่งนี้เด่นในทางวิทยาศาสตร์  การศึกษา และการวิจัย โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นมหาวิทยาลัยทางด้านวิทยาศาสตร์ซึ่งสอดคล้องกับเมืองสึกูบะที่จะเขาเน้นให้เป็นเมืองทางวิทยาศาสตร์ด้วย  โดยส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยจะเน้นวิชาด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา  วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนเป็นวิทยาศาสตร์เชิงประยุกต์ทั้งสิ้น  แม้มหาวิทยาลัยสึกูบะจะเน้นวิทยาศาสตร์ แต่ก็เปิดสอนทางด้านการศึกษา ภาษา วิจัยอีกหลายสาขา หลายระดับด้วยกัน  ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท จนถึงปริญญาเอก  และมีนักศึกษาต่างชาติมาเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก

  

             คณะของเราได้รับการต้อนรับจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดีวันที่เราไปถึง เขาเชิญธงชาติไทยและธงชาติญี่ปุ่นขึ้นเคียงคู่กันบนยอดเสา ดูแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ที่เขาให้ความสำคัญแก่คณะของเราถึงเพียงนี้   คณะผู้บริหารเชิญพวกเราไปยังห้องประชุมอยู่ชั้นสูงของอาคารสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองสึกูบะชัดเจน  เหมือนกับหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับดอยสุเทพ   ทราบจากอาจารย์ของเขาว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับมหาวิทยาลัยสึกูบะก็มีความสัมพันธ์กันอยู่เหมือนกัน  เมื่อถึงเวลา รองอธิการบดีฝ่ายต่างประเทศ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กล่าวต้อนรับ กล่าวแนะนำผู้บริหารและบรรยายสรุป  จากนั้นมอบของที่ระลึกและถ่ายรูปร่วมกันก่อนจะนำเราไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆ  ภายในมหาวิทยาลัย</p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">               สถานที่แรกที่ไปดูคือ ห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัย เราดูเฉพาะตัวอาคารภายนอกเพราะเวลามีน้อย  อาคารห้องสมุดค่อนข้างสวยงาม  หนังสือมีจำนวนค่อนข้างมากและทันสมัย เพียงพอแก่ความต้องการของนักศึกษาทั้ง 3 ระดับ โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์ในสาขาวิชาที่เน้น   มีมากเป็นพิเศษ  ไถ่ถามจากนักศึกษาไทยที่มาเรียนระดับปริญญาตรีและปริญญาเอกซึ่งมาช่วยต้อนรับพวกเรา   ก็ทราบว่า เป็นห้องสมุดที่อยู่ในระดับที่ดีถึงดีมากถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยของไทย</p>

              เราเดินไปตามทางที่เชื่อมอาคารต่างๆ  ทำให้มองเห็นสภาพการจัดผังอาคารของมหาวิทยาลัยไว้เป็นโซน เป็นสัดส่วนดีมาก  อาคารแต่ละหลังอยู่ในสภาพที่ใหม่ สะอาดดูสภาพแวดล้อมแล้วเงียบสงบ สวยงามน่าเรียน น่าศึกษามาก บรรยากาศอย่างนี้คือบรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่แท้จริง โดยเฉพาะภายในมหาวิทยาลัย ไม่มียวดยานใดๆ ให้เกิดเสียงดังรบกวน วุ่นวายอย่างในมหาวิทยาลัยของเรา  หลายคนถึงกับฝันว่าถ้ามหาวิทยาลัยของเราไม่อนุญาตให้นำรถทุกชนิดวิ่งภายในมหาวิทยาลัยก็น่าจะดีไม่น้อย แต่ต้องจัดการหาที่จอดรถใกล้มหาวิทยาลัยก็จะช่วยทำให้สามารถพัฒนาภูมิทัศน์ภายในมหาวิทยาลัยของเราให้ดูดี สงบ ร่มรื่นและสวยงามได้ไม่แพ้เขาเหมือนกัน  ไม่ทราบว่าอธิการบดีจะทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้ภายใน 2-3 ปีนี้หรือไม่ 

</span><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">           เราเดินมาถึงอาคารที่เรียกว่าศูนย์นักศึกษานานาชาติ  (Iternation Student Center)   ซึ่งเป็นศูนย์สำหรับสอนภาษานานาชาติ แต่เน้นสอนภาษาญี่ปุ่นแก่นักศึกษาต่างชาติเป็นหลัก ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติมาเรียนภาษาญี่ปุ่น ประมาณ 400 คน มีนักศึกษาไทยมาเรียนมากเหมือนกัน ทังเรียนภาษาและสาขาวิชาอื่น รวมทั้งหมด 49 คน ส่วนใหญ่เป็นักศึกษาทุนแลกเปลี่ยน เช่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น  โดยทุนปีละ 8 หมื่นเยน และไม่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>

            เมื่อมาถึงผู้อำนวยการศูนย์นักศึกษานานาชาติ กล่าวต้อนรับ และบรรยายสรุปเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาแก่นักศึกษานานาชาติ  สรุปได้ว่า

 

 

               ศูนย์ ISC  นี้   มีชื่อเสียงในการสอนภาษาญี่ปุ่นแก่นักศึกษาต่างชาติติดอันดับ Top Ten  ของญี่ปุ่น ค่าเล่าเรียนประมาณ  3 แสนเยนต่อปี และต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า  หลักสูตรการสอนมีทั้ง หลักสูตรระยะสั้น 1 เดือน  3 เดือน 6 เดือน แต่ไม่ถึง 1ปี  และหลักสูตรระดับปริญญา  เนื้อหาสาระในหลักสูตรแบ่งเป็น 3 ส่วน  คือส่วนที่เป็นด้านพื้นฐานทางภาษาส่วนด้านทักษะฝึกฝนการใช้ภาษา  และส่วนด้านการเขียนทางวิชาการ  นอกจากนั้นยังสอนการเขียนอักษรคันจิด้วย  ในเรื่องสื่อการเรียนการสอน มีการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งเครื่องเล่น ดีวีดี คอมพิวเตอร์ ซึ่งสมารถรองรับความต้องการของนักศึกษาได้อย่างเพียงพอ

           ในความเห็นของผู้เขียนคิดว่า มหาวิทยาลัยสึกูบะซึ่งตั้งจุดมุ่งหมายให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งเมืองวิทยาศาสตร์ในลักษณะวิทยาศาสตร์เชิงประยุกต์  ตามลักษณะเด่นของมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่น่าศึกษามาก โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์การแพทย์  การพยาบาล  วิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา วิชาเอกต่างๆ ที่เปิดสอนส่วนใหญ่เป็นแนววิทยาศาสตร์ประยุกต์ทั้งสิ้น เช่น วิชาเอกชีวเคมี  ฟิสิกส์ประยุกต์ เป็นต้น

  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">              ถ้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่จะส่งคนไปศึกษาดูงานด้านนี้ก็น่าจะไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยสึกูบะทางผู้บริหารของเขาก็รู้สึกยินดีที่จะต้อนรับ และแสดงท่าทีที่จะสานความสัมพันธ์ และร่วมมือทางวิชาการกับเราเหมือนกัน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">  </p>               <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">                 หลังจากบรรยายสรุปจบแล้ว ก็มีการซักถามกันเล็กน้อย ก่อนที่เราจะร่ำลากลับเพราะเลยเวลารับประทานอาหารกลางวันมานานพอสมควรแล้วและยังจะต้องรีบเดินทางต่อไปยังที่พักที่ทะเลสาบ Kawagushiko ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ภูเขาไฟ Fujiyama</p>  <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">(บันทึกรายงานครั้งแรก 18 ,มี.ค. 48)</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p></font></span>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>          <p>  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p>

หมายเลขบันทึก: 124486เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2007 21:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)

สวัสดีค่ะ

 ไปดูงานและประชุมที่ญี่ปุ่น มา 10 วัน เมื่อ 2 ปีก่อน ชอบความสะอาด การมีระเบียบวินัย และความกระตือรือร้น ของเขาค่ะ ญี่ปุ่นเจริญมากๆ   ขอบคุณค่ะ 

สวัสดีค่ะ

เคยไปญี่ปุ่นมา 1 เดือน ก็มีข้อดีและข้อด้อยค่ะ แต่เรื่องระเบียบวินัย เขาดีทีเดียวค่ะ

สวัสดีครับท่าน อ.กรเพชร

อาจารย์สบายดีไหมครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น (จากการ์ตูน) และการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ในเรื่องงาน และการใช้ชีวิต...

จะคอยติดตามอ่านบันทึกต่อๆไปของอาจารย์ครับ

 

คุณ ตันติราพันธ์ ครับ

               ญี่ปุ่นเป็นเมืองที่น่าทึ่งในเรื่องความเจริญ ไม่ใช่เฉพาะเจริญทางวัตถุเท่านั้น แต่ความเจริญเรื่องจิตใจของคนก็เจริญด้วย  โดยเฉพาะระเบียบวินัยและความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน   ไม่อยากเทียบกับคนไทยเลยครับ  เพราะอย่างไร  คนไทยก็น่ารักที่สุดในโลกครับ

คุณ sasinanda ครับ

          อย่างที่คุณกล่าวนั้นถูกต้องครับ  ข้อที่ผมเห็นมาอย่างหนึ่งคือ เด็กๆ หนุ่มสาวของเขาค่อนข้างเก็บกดครับ คงถูกผู้ใหญ่กดดันเรื่องระเบียบวินัยมาก เพราะฉะนั้นเวลาเขาปลดปล่อยออกมา เช่น แต่งตัว ก็จะหลุดโลกเลย ผมเห็นตามถนน หน้าห้างใหญ่ๆ จะออกมาเล่นดนตรีแต่งตัวสุดๆ ครับ

คุณข้ามสีทันดร ครับ

        ผม สบายดีครับ   ขอบคุณครับ   เรื่องประสบการณ์ที่ญี่ปุ่นยังพอมีมาเล่าให้ฟังครับ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นเอง และนักศึกษาและอาสาสมัครญี่ปุ่นที่มาเรียนภาษาไทยกับผมที่ราชภัฏเชียงใหม่ คงได้พอเห็นอะไรอยู่บ้างครับ

         ขอบคุณที่ติดตามครับ

สวัสดีครับอาจารย์

     ฟังแล้วน่าไปเที่ยวมากเลยครับ ถ้ามีโอกาสจะไปเที่ยวต้วยตัวเอง  อาจารย์พอจะช่วยผมได้ไหมครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

   อ่านที่อาจารย์เขียนแล้ว ทำให้อยากไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นบ้าง มีรูปถ่ายให้ดูเพิ่มไหมค่ะ

ทำยังไงจึงจะได้ไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์กรเพชรดิฉันได้อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วทำให้ อยากไปศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัยสึกูบะอยากให้มหาวิทยาลัยในเมืองไทยมีบรรยากาศที่ดีแบบนั้นจังค่ะ

เป็นมหาลัยที่น่าสนใจมากค่ะ

 

เป็นมหาวิทยาลัยที่น่าสนใจค่ะอยากไปเที่ยวจัง

แวะมาเยี่ยมคะ...มีตอนต่อไปหรือไม่คะ

  • อยากดูรูปบรรยากาศประกอบด้วยคะ
  • เคยไปฟูจิเหมือนกัน...ช่วงหน้าร้อน
  • ตอนนี้กำลังเรียบเรียงรูปแล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ

คุณ SU  ครับ

            ดีใจมากครับที่รู้สึกอย่างนั้น  พยายามจะไปอีกครับถ้ามีโอกาสคงได้เชิญไปเที่ยวด้วยกัน (หาปัจจัยก่อนนะครับ)

คุณวรรณี ครับ

          มีภาพให้ดูเพิ่มในตอนต่อไปครับ ผมมีปัญหากับคอมพิวเตอร์และเทคนิคนำภาพเข้าบันทึก กำลังแก้ไขครับ คิดว่าจะพยายามหาภาพมาให้ดูมากๆ ครับ

คุณ สะการวาตี ครับ

                 เงิน ครับ  หาเงินก่อนครับ  ผมก็อยากไปอีกครับ   คิดว่าไม่นานคงได้ไปอีกครับ  อีกอย่างหนึ่งก็ต้องมีโครงการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เขาชอบเรียนภาษาไทยมาก ถ้าติดต่อเรื่องไปสอนภาษาไทยให้เขา น่าจะมีโอกาสมากครับ

คุณ ภาวิณี ครับ

               มหาวิทยาลัยไทยที่มีบรรยากาศดีๆ แบบสึกูบะก็พอจะมีนะครับ เช่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ครับ  ถ้าอากาศหนาวแบบญี่ปุ่น จะสวยมากครับ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยในสวน  ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่กำลังขยายไปที่ตำบลสะลวง-ขี้เหล็ก และถ้าเสร็จสมบูรณ์ก็จะเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของไทยครับ

คุณขวัญศิริ คุณรุสนา  ครับ

          ขออนุญาตตอบไว้ที่เดียวกันครับ

           มหาวิทยาลัยสึกกูบะ น่าสนใจมากครับ โดยเฉพาะเขาไม่ลืมสอนศิลปะประจำชาติ คือ ยูโด ซึ่งนักศึกษาทุกคนตั้งใจเรียน ฝึกซ้อมจริงจังมาก  มหาวิทยาลัยไทยน่าจะสอนมวยไทยบ้างนะครับ

คุณ naree suwan ครับ

          ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมครับ

           ผมจะพยายายามใส่รูปเพิ่มเติมมากๆ ครับ

           แวะเวียนมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ เพราะคนที่ไปญี่ปุ่นจะมีมุมมองและรูปถ่ายสวยๆ แตกต่างกัน ผมก็อยากดูรูปของคุณ naree ด้วยครับ

konnishiwa ค่ะพี่กรเพชร

แอมแปร์จะตามไปทีละบันทึกเลยนะคะ   ถ้าเน็ตไม่ดาวน์เสียก่อน  เข้ามาสองสามหนแล้วแต่บันทึกความเห็นไม่ได้อะค่ะ  พี่กรเพชรยังเหมือนเดิมเลยค่ะ  เห็นปุ๊บจำได้เลย 

ดีจังเลยที่พี่ได้แวะมหาวิทยาลัยด้วย   นักศึกษาเขาแต่งชุดนักศึกษาแบบของเราไหมคะ ของแอมแปร์คราวก่อนไม่ได้แวะ  เสียดายเหลือเกิน ไม่ทราบทัวร์เดียวกันรึปล่าวนะคะ ของแอมแปร์ไปเมืองละแป๊บอะค่ะ  : )

สวัสดีคะอาจารย์กรเพชร

จากที่หนูได้อ่านเรื่องมหาวิทยาลัยในฝันมหาวิทยาลัยสึกูบะหนูอยากไปมากไม่ทราบว่าหนูจะมีโอกาสไปได้หรือเปล่าค่ะ อยากให้อาจารย์ลงรูปถ่ายเกี่ยวกับลักษณะเด่นของอาคารเรียนมากกว่านี้ อยากให้อาจารย์เขียนแพลนการเดินทางให้ดูด้วยค่ะ

                                               ขอขอบคุณค่ะอาจารย์

                                                      วรวรรณ  ดาโอะ

คุณ วรวรรณ ดาโอะ ครับ

                 เรื่องรูปค่อนข้างจำกัดเพราะได้ดูเพียง 2-3อาคาร ก็ไม่ได้แตกต่างจากบ้านเราเท่าไหร่นักครับ

                 ส่วนแผนการเดินทางคงต้องเป็นไปตามที่เราต้องการว่าจะไปเที่ยวหรือศึกษาดูงาน ถ้าไปเที่ยวก็ควรไปกับบริษัททัวร์ซึ่งเขามีแผนให้เลือกหลายเส้นทาง และราคาก็ไม่เท่ากัน ส่วนการศึกษาดูงานต้องอยู่ทีว่าเราอยากศึกษาดูงานที่ไหนแล้วเอาไปให้บริษัททัวร์เขาจัดให้ครับ

น้องแอมแปร์ ครับ

          ขอโทษที่กระโดดข้ามไป เรื่องบันทึกจากญี่ปุ่นยังมีมุมมองจากคนญี่ปุ่นเองด้วย น่าสนใจมากนะครับ เขากลับมองว่า เมืองไทยเป็นเมืองในความฝันของเขา เขาอยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองไทย เขาบอกว่า สังคมไทยหล่อหลอมคนได้อย่างมีชีวิตชีวา และเอื้ออาทรต่อชาวโลก  มีความประณีต แต่ก็เข้มแข็ง มีความเป็นระเบียบแต่ก็ไม่เคร่ง มียืดหยุ่นตามลักษณะชีวิตที่ไม่ตายตัว หรือแบบหุ่นยนต์ ฟังแล้วเป็นปลื้มจริงๆ นะ ไม่รู้ว่ายอหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ชาวญี่ปุ่นมาพักผ่อน long times มากขึ้นทุกปีครับ

 

ในประเทศไทยของเราควรจะมีมหาวิทยาลัยที่ดีแบบนี้บ้าง ประเทศจะได้ก้าวหน้าในการศึกษาต่อไป ทางที่ดิฉันคิดว่าควรจะปรับระบบการศึกษาให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
ถ้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทยเราสามารถปรับสภาพแวดล้อมสภาพแวดล้อมเหมือนมหาวิทยาลัยสึกูบะ ก็คงดี นะค่ะ
ถ้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทยเราสามารถปรับสภาพแวดล้อมสภาพแวดล้อมเหมือนมหาวิทยาลัยสึกูบะ ก็คงดี นะค่ะ

คุณพัชรีครับ

         ความจริงมหาวิทยาลัยไทยไม่ได้ด้อยกว่าใครเลย แต่ที่เวลาจัดอันดับทีไรทำไมรั้งท้ายทุกที คงจะต้องโทษ รัฐบาล โดยนโยบายการศึกษาของเรายังล้าหลัง  วิสัยทัศน์ผู้บริหารที่ยังเป็นปัญหา เพราะมีการเมืองแทรกมากไป การบริหารจึงสาละวันเตี้ยลงแบบนี้

คุณวันนูเรียครับ

             เรื่องปรับสภาพแวดล้อมนี้ไม่ยาก และมหาวิทยาลัยไทยก็เก่งเรื่องนี้  มีหลายแห่งที่สวยงามและได้รับคำชมเชยมาก ที่เขียงราย ก็มีครับ  ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของนักบริหารที่จะผลักดัน ลงทุน ครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์กรเพชร 

  หนูกรุณานะคะ ไม่ทราบว่าอาจารย์จะนึกออกไม๊? ดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้ลิ้งค์มาแล้วมาเจอหัวข้อมหาวิทยาลัยในฝัน เห็นว่าน่าสนใจเลยเข้ามาอ่าน ถึงได้ทราบว่าเป็นบล็อคของอาจารย์ หนูเลยถือโอกาสกราบสวัสดีเลยค่ะ อ เป็นอย่างไรบ้างคะ?สุขภาพพลานามัยแข็งแรงดีใช่ไหมคะ? งานสอนและงานโปรแกรมคงยุ่งๆน่าดูสินะคะ หนูเองตอนนี้ก็ยุ่งกับวิทยานิพนธ์ค่ะ หนูมีกำหนดจบเดือนมีนาปีหน้าค่ะ ตอนนี้ก็เร่งอ่านหนังสือและเขียนวิทยานิพนธ์ ประกอบกับเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาบ่อยๆค่ะ เรียนยากน่าดูนะคะ แต่ก็จะพยายามให้สุดความสามารถค่ะ ตอนนี้อากาศที่ญี่ปุ่นร้อนมากๆ ร้อนอบอ้าว เหนอะหนะไปหมดเลยค่ะ กลางวันไม่เปิดพัดลมหรือแอร์ก็แทบจะอยู่ไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ ไม่ทราบว่า อ ได้เคยมาเยี่ยมที่มหาวิทยาลัยชิกะรึเปล่าคะ? ลูกศิษย์ญี่ปุ่นที่เรียนภาษาไทยกับอาจารย์ก็อยู่ที่นี่หลายคนเชียวค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แวะเวียนไปมาหาสุ่ที่กันบ่อยๆก็เห็นจะเป็น มิยะโกะ หรือชื่อไทยว่า มาริสา ค่ะ ตอนนี้มาริสาพูดภาษาไทยเก่งมากเลยค่ะ สมแล้วที่เป็นลูกศิษย์อาจารย์กรเพชรนะคะ หนูเขียนเยอะมาแล้ว เอาไว้หนูขออนุญาตเข้ามาอ่านในบล็อคอีกนะคะ                                   

ด้วยความเคารพอย่างสูง

กรุณา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท