ผมเขียนบันทึกนี้ในวันที่ 16 มกราคม 2549 ซึ่งเป็นวันครู ก็อยากจะใช้โอกาสนี้ระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ที่ได้ให้ความรู้และสั่งสอนผมมา ตลอดจนครูบาอาจารย์ทุกท่าน ขอให้มีแต่ความสุข และกำลังใจที่จะทำหน้าที่ในฐานะครูที่ดีและเป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์ตลอดไปนะครับ
จริง ๆ แล้วผมตั้งใจจะเขียนบันทึกนี้ในวันที่ 14 มกราคม หลังจากที่ วลัยลักษณ์ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 49 เรียบร้อยแล้ว แต่มีเหตุขัดข้องทางเทคนิค จึงต้องมาเขียนในวันนี้ครับ สำหรับผมในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ซึ่งกำกับดูแลส่วนประชาสัมพันธ์ จึงต้องทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นผู้แทนของมหาวิทยาลัยในการร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จัดงานวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ซึ่งในภาพรวมของการจัดงานปีนี้นับว่าประสบความสำเร็จมากพอสมควร และทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายในการทำงานร่วมกับชุมชน ปีนี้มีเด็ก ๆ สนใจมาร่วมกิจกรรมวันเด็กที่วลัยลักษณ์กว่า 30,000 คน การจัดงานในปีนี้เราได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา หน่วยงานหลักที่ร่วมกับวลัยลักษณ์ในการจัดงาน ก็คือ สโมสรโรตารี่ท่าศาลา-นครศรีฯ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ 4 นครศรีฯ เทศบาลตำบลท่าศาลา นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานเอกชนในพื้นที่อีกมากมาย อาทิ ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาติ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารออมสิน และอื่นๆ อีกมากครับ ถ้าไม่ได้กล่าวถึงทั้งหมดต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่สำคัญในระหว่างการจัดงาน และหลังจากเสร็จสิ้นการจัดงาน ผมจะได้รับข้อมูลตลอดเวลา เกี่ยวกับปัญหา การแก้ไขปัญหา และวิธีคิดของพนักงานที่เตรียมงานและทำงานทุกคน โดยเฉพาะคุณจิตตนา หนูณะ หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ คุณเลอพงศ์ กาลัญญุตา หัวหน้าส่วนอาคารสถานที่ คุณนิรันดร์ จินดานาค หัวหน้าส่วนกิจการนักศึกษา สิ่งที่ผมได้เรียนรู้และเห็นการทำงานของพนักงานทุกคน โดยเฉพาะหัวหน้าส่วนที่ผมได้กล่าวถึงแล้ว ผมเห็นว่าทุกคนมีความตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ และพยายามที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาในการทำงาน และภูมิใจในงานที่กำลังทำ มันไม่ใช่การทำงานตามหน้าที่ แต่เป็นการทำงานตามจิตวิญญาณ ที่ต้องการให้ผู้ปกครองและเด็ก ๆ ที่มาเที่ยวงานประทับใจในความเป็นวลัยลักษณ์ ถ้าวิเคราะห์ในลึกแล้ว ผมเชื่อว่า KM ก็คงจะมีส่วนอยู่บ้างไม่มากก็น้อยในการช่วยสร้างวิธีคิคหรือค่านิยมที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ต่อการทำงานเพื่อวลัยลักษณ์ของเรา ถ้ายังไงลองถามทั้ง 3 ท่านดูนะครับ
ชาววลัยลักษณ์ อีกมากและเป็นส่วนใหญ่ครับ ที่ทำงานด้วยจิตวิญญาณของความรักที่มีต่องาน ต่อความเป็น ...วลัยลักษณ์..เพียงแต่ไม่มีเวทีของการพูดคุย..ถ่ายทอดความรับรู้ ความรู้สึกของคนทำงาน ทำให้อยู่กับวังวนของความรู้สึกแห่งตน หากรู้สึกหมดพลัง ท้อแท้ ก็ไม่สามารถแบ่งปันไปให้ผู้อื่นได้ เพื่อผู้อื่นจะได้แบ่งปันสิ่งที่เป็น พลัง กำลังใจ เข้าไปทดแทน เป็นการถ่ายทอด รับรู้ความรู้สึก(การแทนที่เหมือนการไหลของน้ำ) อันก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ ระหว่างบุคคล ที่ส่งผลต่อการทำงานในองค์กร เวทีนี้เป็นอีกเวทีครับที่สามารถทำได้เชิญเข้ามาพูดคุย ด้วยรัก...วลัยลักษณ์
เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณนิรันดร์ครับ และ Blog KM ที่ผมเขียนนี้ และ Web KM ของพวกเราชาววลัยลักษณ์ ก็พร้อมที่จะเป็นเวทีให้พวกเราชาววลัยลักษณ์ทุกคนได้ใช้เพื่อสร้างพลัง กำลังใจในการทำงานร่วมกัน เพื่อ...วลัยลักษณ์ ครับ
เป็นความรู้สึกที่ดีงาม ปิติ มีพลังและเป็นกำลังใจเสมอ เมื่อได้รับรู้ เเละเห็นถึงจิตใจที่เราชาววลัยลักษณ์พูดถึงกันในแง่ดี มองกันในด้านบวก มีความเข้าใจและอาทรซึ่งกันและกัน
ตั้งใจจะเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้หลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดของตัวเอง พึ่งจะได้เข้ามาวันนี้ขอบคุณท่าน รองบริหารที่เห็นความสำคัญ ในสิ่งที่พวกเราทำอยากจะเล่าเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับหน่วยงานที่ร่วมจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่ มวล. แล้วก็ได้มีโอกาสไปร่วมทำกิจกรรมกับโรงเรียนบ้านทุ่งหัวนา และบ้านชุมขลิงและอีกหลายโรงเรียน ซึ่งเขาได้มาร่วมงานวันเด็กที่มวล. รับฟังคำชื่นชมและคำขอบคุณจากปากคำของผู้บริหารโรงเรียน และคุณครูที่นำเด็กๆมาและฝากว่า"อยากให้ มวล.ให้โอกาสแบบนี้กับน้องๆนักเรียนอีกตลอดไป" ในฐานะที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ก็อยากบอกความนี้ถึงทุกท่านที่มีส่วนในความสำเร็จและร่วมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของมวล.สู่ชุมชน ซึ่งปากคำของเขาเหล่านั้นเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีความหมายยิ่ง
ขอบคุณค่ะ...