ประวัติของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เกิด 20 เม.ย.
ปีค.ศ.1889 ที่เมืองเบราเนา ประเทศออสเตรีย ติดชายแดนเยอรมนี
ทั้งพ่อ-อาลัวส์ และแม่คาร่า มาจากครอบครัวเกษตรกรที่ยากจน
แต่พ่อเป็นคนฉลาดและทะเยอทะยาน จึงก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าหน้าที่ภาษี
ช่วงที่มาแต่งงานกับแม่ อายุห่างกันถึง 23 ปี และมีลูกติดมา 2 คน
ทำให้ฮิตเลอร์มีพี่น้องถึง 5 คน แต่โตขึ้นมาเหลือรอดอยู่ 2 คน
คือฮิตเลอร์และน้องสาว
พ่อฮิตเลอร์เป็นคนที่เข้มงวดมาก
และนิยมใช้ความรุนแรงลงโทษหากลูกไม่เชื่อฟัง
ฮิตเลอร์จึงเป็นเด็กเรียนดีในตอนต้น เพื่อนๆ ยกย่องให้เป็นผู้นำ
ทั้งยังเคร่งศาสนา จนใครๆ คิดว่าโตขึ้นมาจะเป็นนักบวช
แต่พอขึ้นเรียนชั้นสูงขึ้น วิชาต่างๆ ก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อสอบไม่ได้ที่ 1 พ่อเริ่มเกรี้ยวกราด
เพราะกลัวลูกจะเข้ารับราชการไม่ได้ ส่วนเพื่อนๆ
ก็เริ่มไม่ปลื้มให้เป็นหัวหน้า ความกดดันต่างๆ
ทำให้ฮิตเลอร์เบี่ยงไปสนใจการต่อสู้
ครูชั้นมัธยมฯ คนเดียวที่ฮิตเลอร์ชื่นชอบ คือลีโอโพลด์ พอตช์
ซึ่งเป็นคนนิยมความสำเร็จของเยอรมนี จึงมักเล่าถึงชัยชนะต่างๆ
ของเยอรมันเหนือฝรั่งเศส ในศึกปีค.ศ.1870-1871
และต่อว่าออสเตรียว่าไม่ยอมเข้าร่วมกับเยอรมนี
ฮิตเลอร์พานชอบเยอรมันไปด้วย โดยมีออตโต วอน บิสมาร์ก
นายกรัฐมนตรีของอาณาจักรเยอรมนี เป็นฮีโร่ในดวงใจ
สำหรับวิชาที่ฮิตเลอร์สนใจมากอีกวิชาคือศิลปะ
ซึ่งทำให้ทะเลาะรุนแรงกับพ่อ
เพราะไม่เห็นด้วยเลยที่จะให้ลูกเป็นศิลปิน
ศึกพ่อลูกสิ้นสุดลงในปีค.ศ.1903 เมื่อพ่อฮิตเลอร์เสียชีวิต
ตอนนั้นครอบครัวไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากทางการเงิน
แต่ฮิตเลอร์ยังคงไม่รักเรียนเช่นเดิม จนแม่ยอมให้ออกจากโรงเรียน
ต่อมาในช่วงอายุ 18 ปี ฮิตเลอร์ได้รับมรดกของพ่อ
และใช้เงินเดินทางไปกรุงเวียนนา หวังว่าจะไปเรียนวิชาศิลปะที่นั่น
ฮิตเลอร์คิดว่าตนเองมีความสามารถทางศิลปะที่เหนือชั้น
แต่พอไปถึงจริงกลับถูกสถาบันวิชาการศิลปะเวียนนาปฏิเสธใบสมัคร
จากนั้นจึงย้ายไปสมัครที่โรงเรียนสถาปัตยกรรม แต่ไม่ได้อีก
เพราะไม่มีใบรับรองจากโรงเรียนเก่า
ฮิตเลอร์อับอายมากที่ล้มเหลวเช่นนี้
จนไม่กล้าบอกความจริงกับแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
แสร้งทำเป็นอยู่ในเวียนนาต่อไปว่าตนเองเป็นนักเรียนศิลปะ
หลังจากฮิตเลอร์ย้ายจากเมืองเบราเนาไปกรุงเวียนนา
และเข้าเรียนศิลปะอย่างที่ใจหวังไม่ได้
ก็ไม่กล้าบอกแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
แสร้งทำเป็นว่าเป็นนักเรียนศิลปะอยู่ที่กรุงเวียนนาอย่างนั้น
โดยใช้เงินบำนาญมรดกของพ่อดำรงชีวิตในเมืองหลวงอย่างสบาย วันๆ
ก็นอนเล่นอ่านหนังสือ ตกบ่ายไปพิพิธภัณฑ์ศิลปะ จนกระทั่งปีค.ศ.1907
แม่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
การเสียชีวิตของแม่ทำให้ฮิตเลอร์เสียใจสุดซึ้ง
เพราะรักแม่มากและมากกว่าพ่อ
ตามประวัติศาสตร์ฮิตเลอร์ถือรูปแม่ไปทุกที่แม้กระทั่งวาระสุดท้ายรูปก็ยังอยู่ในมือ
ในปีค.ศ.1909 ซึ่งเป็นปีที่ควรเกณฑ์ทหาร
ฮิตเลอร์กลับไม่ยอมรับใช้กองทัพออสเตรียของตัวเอง เพราะแค้นอยู่ลึกๆ
ที่สถาบันการศึกษาออสเตรียไม่เปิดโอกาสให้เรียน
นอกจากนี้ยังชื่นชมอาณาจักรเยอรมนีที่เหนือกว่าออสเตรียมาตั้งแต่เด็ก
จึงไปเป็นอาสาสมัครในกองทัพเยอรมนี ขึ้นชื่อว่าเป็นทหารกล้าตาย
สู้เลือดเดือด
ช่วงเวลานี้ชีวิตของฮิตเลอร์มีทั้งขึ้นและลง หลังจากสงครามโลกครั้งที่
1 สิ้นสุดลง ฮิตเลอร์ ย้ายไปอยู่มิวนิกและเริ่มชีวิตทางการเมือง
ซึ่งล้มลุกคลุกคลานอยู่นาน จนกระทั่งปีค.ศ.1921
ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคนาซี
มีนโยบายต่อต้านชาวยิวและผู้นิยมลัทธิสังคมนิยม
ในปี 1933
ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีและหนึ่งปีถัดจากนั้นตั้งตนเป็นเผด็จการสมบูรณ์แบบ
สร้างกองทัพยึดคืนแคว้นไรน์ และในปี 1936
ร่วมมือกับเผด็จการมุสโสลินีของอิตาลีบุกยึดออสเตรีย ชาติเกิดของตนเอง
ตามด้วยเชโกสโลวะเกีย
สำหรับเชโกฯ นั้นบุกยากกว่าออสเตรีย เพราะมีฝรั่งเศสเป็นพันธมิตร
ทางด้านอังกฤษจึงเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยแบ่งพื้นที่บางส่วนของเชโกฯ
ให้เยอรมัน แต่ภายหลังถูกฮิตเลอร์หักหลังเข้ายึดทั้งประเทศ
ทำให้อังกฤษอับอายมาก
ด้วยความที่ได้คืบจะเอาศอก ฮิตเลอร์ลุยต่อไปที่โปแลนด์
คราวนี้อังกฤษกับฝรั่งเศสไม่ยอมอีกแล้ว วันที่ 3 ก.ย.1939
จึงประกาศสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเยอรมัน
ฝ่ายพันธมิตรและอักษะสู้รบกันอยู่นานถึงปี 1945 ฝ่ายอักษะพ่ายแพ้
ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายพร้อมหญิงคนรัก อีวา วันที่ 30 เม.ย.
ปีค.ศ.1945
ในฤดูร้อนปีค.ศ.1932 ฮิตเลอร์วาดร่างออกแบบรถขึ้นมา
ระหว่างนั่งอยู่ในร้านอาหารที่เมืองมิวนิก
เพราะอยากให้ผู้คนมีรถยนต์ขับขี่ โดยคำว่าโฟล์กสวาเก้นมีความหมายว่า
"รถของประชาชน" จากนั้นมอบหมายให้นายจาค็อบ แวร์ลิน
หัวหน้าบริษัทเดมเลอร์-เบนซ์ ไปคิดหาหนทาง
ระบุว่า ฮิตเลอร์มอบหมายให้นายเฟอร์ดินันด์ พอร์สช์
ไปคิดประดิษฐ์รถยนต์ขนาดเล็กสำหรับ 5 คนโดยสาร วิ่งได้เร็ว 62
ไมล์ต่อชั่วโมง
นายพอร์สช์คิดค้นและผลิตรถขึ้นมาหลายรุ่นหลายปี จนกระทั่งลงตัวที่รุ่น
V38s แต่ฮิตเลอร์ให้ใช้ชื่อว่า KdF Wagen มาจากคำว่า Kraft durch
Freude หมายถึงพลังจากรถยนต์ที่อภิรมย์ ทำให้นายพอร์สช์ผิดหวังมาก
และด้วยความที่นายพอร์สช์ไม่ได้เป็นสมาชิกนาซี
จึงไม่เคยเอ่ยอ้างชื่อฮิตเลอร์มาโฆษณา
โฟล์กสวาเก้นเป็นรถที่มียอดผลิตสูงที่สุดในโลก
เผยโฉมบนท้องถนนครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1938 หรือพ.ศ.2481
ปัจจุบันมียอดผลิตมากกว่า 21 ล้านคัน
ประวัติฮิตเลอร์เพิ่มเติม
ขอประวัติของฮิตเลอร์ และความหมายของเครื่องหมายสวัสติกะ ตอบ-อดอล์ฟ
ฮิตเลอร์ มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปีค.ศ.1880-1945
เกิดที่ออสเตรียแล้วย้ายมาอยู่เยอรมนี ได้เป็นหัวหน้าพรรคนาซีในปี
1921 เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 1933 และผู้นำแห่งรัฐในปี 1934
เริ่มแผลงฤทธิ์ด้วยการผูกมิตรกับมุสโสลินี ผู้นำเผด็จการอิตาลีในปี
1936 จากนั้นก็รุกรานแผ่นดินอื่น ไม่ว่าออสเตรีย เชกโกฯ โปแลนด์
จนถึงขั้นประกาศสงครามกับอังกฤษและฝรั่งเศส
ขณะเดียวกันในสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
ฮิตเลอร์โยนบาปให้ชาวยิวว่าเป็นผู้ที่มาเอาเปรียบคนเยอรมัน
จึงเผยแพร่ลัทธิเกลียดคนยิว และสั่งฆ่าชาวยิวหลายสิบล้านคน
ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษและฝรั่งเศสมีทีท่าว่าจะไปไม่รอด
อเมริกาก็กระโดดลงมาช่วยเหลือและก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
ทหารอเมริกันไม่เคยรู้ฤทธิ์ทหารเยอรมัน ก็เลยสู้แหลกแบบไม่กลัว จนปี
1945 ฝ่ายพันธมิตรก็ชนะสงคราม ซึ่งในช่วงที่เบอร์ลินแตก
ฮิตเลอร์ก็ฆ่าตัวตาย
สำหรับ สวัสติกะ Swastika
เป็นเครื่องหมายที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการนาซีเยอรมัน
แต่จริงๆแล้ว สวัสติกะ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาซีเลย
เพียงแต่เป็นเครื่องหมายที่เผด็จการ “ฮิตเลอร์”
ละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่นมาใช้
สวัสติกะ มาจากภาษาสันสกฤต มีความหมายว่า โชคดี
ประวัติศาสตร์ของหลายๆประเทศในรูปแบบต่างๆกัน และมีความหมายต่างๆกัน
เช่น อินเดีย จีน ใช้สัญลักษณ์นี้แสดงถึงความโชคดี ร่ำรวย และอายุยืน
ในถ้ำโบราณของจีน
นักโบราณคดีพบว่าสวัสติกะยังเป็นสัญลักษณ์ภาพเคลื่อนไหวของดาวหางที่เคลื่อนไหวในลักษณะพัด
(อย่างดาวหางเฮลบอพพ์) รวมไปถึงสัญลักษณ์หยิน-หยางอีกด้วย
นอกจากนี้สวัสติกะยังมีความหมายว่า “กงล้อแห่งชีวิต” หรือ
“กงล้อแห่งพระอาทิตย์” บางทีก็ดูเหมือนรูปวาดคน
ส่วนผู้ที่ออกแบบเครื่องหมายนี้ให้ฮิตเลอร์ก็คือ ดร.เฟรเดอริค โครห์น
ซึ่งเดิมวาดให้เครื่องหมายหมุนไปทางขวา
แต่ฮิตเลอร์ไม่ชอบใจเลยหมุนให้ไปทางซ้ายแทน
สาเหตุที่ฮิตเลอร์นำสัญลักษณ์มาใช้ในการขยายลัทธิ
เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามสร้างภาพสไตล์จอมลวงโลกทั้งหลาย
สวัสติกะจึงถูกใช้ไปเป็นเครื่องหมายของพรรคนาซี (NSDAP)
เรียกหาความรักชาติสุดกู่ ความจงรักภักดีต่อกองทัพ การตัดสิน การลงโทษ
และสื่อถึงความตาย การทำลายล้าง
การห่างจากพระเจ้าและการเกลียดชัง
เคยได้ยินรุ่นพี่บอกว่า ฮิตเลอร์ในตอนเด็กๆ ชอบศิลปะ
เหตุใดจึงเป็นผู้นำเผด็จการ ฮิตเลอร์ ผู้นำโด่งดังในด้านลบไม่เคยตก
มีชีวิตอยู่ช่วง ค.ศ.1933-45
และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการและผู้นิยมสงครามมาจนถึงปัจจุบัน
ถ้าติดตามข่าวเร็วๆ นี้ จะเห็นได้ว่า
กลุ่มผู้ต่อต้านสงครามวาดภาพล้อผู้นำชาติมหาอำนาจที่ต้องการยกทัพไปถล่มอิรักว่าเป็นฮิตเลอร์กันหมด
ในปี ค.ศ.1900 ฮิตเลอร์ ในฐานะพลเมืองของออสเตรีย
เริ่มแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถทางศิลปะ
พ่อจึงสั่งให้ไปเรียนที่โรงเรียนเรอาลชูล เพราะมีวิชาวาดรูป
แต่พอเข้าเรียนจริงๆ กลับไม่ได้ดีเท่าไหร่ จากนั้น 3 ปีพ่อตายลง
และฮิตเลอร์เองก็ป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อ
ด้วยความที่เจ็บป่วยบ่อยและการบ้านก็ได้คะแนนไม่ดี
ฮิตเลอร์จึงลาออกมาจากโรงเรียนเมื่ออายุ 16 ปี
จุดหักเหสำคัญในด้านการเรียนศิลปะ
ก็คือโรงเรียนศิลปะชั้นสูงในกรุงเวียนนาไม่ยอมรับฮิตเลอร์เข้าเรียน
ทั้งๆ ที่ฮิตเลอร์มั่นใจมากว่าจะต้องได้เรียนที่นี่
ช่วงจิตใจย่ำแย่นี้ ยังได้รับข่าวร้ายอีก
เมื่อแม่ยังป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม
โดยแพทย์ที่มารักษาเป็นหมอชาวยิวที่รักษาคนจน
แต่การที่หมอใช้ยาแรงรักษาแม่ ทำให้นางตายเร็วยิ่งขึ้น และจากไปในปี
ค.ศ.1907 เป็นเรื่องที่ฮิตเลอร์เจ็บแค้นอยู่ในใจ
ฮิตเลอร์ใช้ชีวิตไร้เป้าหมายอยู่ในเวียนนา 6 ปีหลังจากนั้น
โดยไม่ทำงาน อาศัยเงินบำนาญของพ่ออยู่ไปวันๆ
บางวันก็ออกไปดูผลงานศิลปะ บางวันก็ไปหลับอยู่ในบาร์
ไปอาศัยอยู่ที่พักของคนเร่ร่อน ซึ่งเป็นของชาวยิว
ทั้งยังมีเพื่อนในวงการศิลปะและความบันเทิงเป็นชาวยิวที่เป็นใหญ่เป็นโต
ทำให้ฮิตเลอร์อิจฉาคับแค้นใจขึ้นไปทีละน้อย
ในปี ค.ศ.1913 ฮิตเลอร์พยายามหนีทหาร
จึงย้ายจากเวียนนาของออสเตรียไปเมืองมิวนิกในเยอรมนี
แต่ก็หนีไม่พ้นถูกจับจนได้ สุดท้ายลงเอยแบบรอดตัว
เมื่อตรวจร่างกายแล้ว
พบว่าฮิตเลอร์ร่างกายอ่อนแอเกินไปที่จะรับใช้กองทัพ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ฮิตเลอร์ไม่พอใจชาติออสเตรียของตนเอง
และหันไปนิยมเยอรมนีแทน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ฮิตเลอร์จึงสมัครเป็นทหารรับใช้กองทัพเยอรมนี
แม้จะล้มลุกคลุกคลานบ้างในบางเหตุการณ์
แต่ฮิตเลอร์ก็เป็นใหญ่ในเยอรมนีในที่สุด
ข้อดีที่นำมาใช้ได้
1.ฮิตเลอร์เป็นคนมี ความพยายาม สูงสุด
ผมคนว่าในโลกแล้วนะ
2.ยังนึกไม่ออก
ข้อเสีย
1. ใครๆก็คงรู้นะครับ เผด็จการ มากๆๆๆ