เคยสงสัยว่าทำไมคนฝรั่งพบกันจึงทักกันว่า “สบายดีหรือ” คนจีนพบกันทักกันว่า “กินน้ำชาด้วยกันไหม” ส่วนคนไทยทักกันว่า “กินข้าวหรือยัง มากินด้วยกัน” ตอบได้ว่าเป็นวัฒนธรรม ประเพณีของแต่ละชาติ ภาษา เผ่าพันธุ์ ส่วนเด็กยุคแอ๊บแบ๊ว นี่เขาทักกันว่าไงหนอ.. “ไปเอ็มเคหรือยัง” “ตัวมีมือถือหรือยัง” “เธอมีแผ่นของเรนหรือยัง”??? ใช่หรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เพราะเลยวัยมามากโขแล้ว
ขออนุญาตเล่าซ้ำว่า บ้านผู้บันทึกภาคกลางสมัยก่อนมีนักเลงที่ขึ้นชื่อลือชานัก นักเลงสมัยนั้นแม้มักจะทำความเดือดร้อนให้แก่สังคม แต่มุมหนึ่งคนกลุ่มนี้ก็มีสัจจะ และมีรากเหง้าของวัฒนธรรมไทยฝังรากอยู่ ครั้งหนึ่งที่นักเลงคนหนึ่งรับจ้างคู่อริ มาทำร้ายชีวิตญาติผู้บันทึก เมื่อนักเลงมาทราบว่าคนที่จะไปทำร้ายนั้นเป็นคนอยู่ในบ้านที่เขาเคยมาพักอาศัย มากินข้าวแม้เพียงคืนเดียว.. เขาปฏิเสธงานนั้นทันที แถมย้อนกลับมาบอกว่ามีคนจ้องทำร้าย ??
วันก่อนโน้น ภรรยาผมชวนไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อนบัณฑิตอาสาสมัคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ดร.ป๋วยท่านเป็นผู้ก่อตั้ง มีกัน 3 คน เพื่อนภรรยาที่มาจากกรุงเทพฯเขา เออรี่ รีไทร์มาจากธนาคารแห่งหนึ่ง อีกท่านเป็นอัยการจังหวัดแห่งหนึ่ง ดูคน 30 ปีไม่เคยพบกันมานั่งคุยกันมันเป็นบรรยากาศที่น่าสนใจ ท่านคงเดาออกนะครับว่า เขาคุยเรื่องอะไรกัน......เขาผูกพันกันเพราะเบื้องหลังอย่างไร..
ทำไมคนกลุ่มนี้จึงเรียกร้องที่จะมาพบกัน ยิ่งแก่ตัวกันมากขึ้นต่างก็เรียกหาแก่กัน เหมือนกลุ่มของผู้เขียน เดือนตุลาคมนี้ก็นัดพบกันกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน และผมเองเมื่อขึ้นเชียงใหม่ทีไรก็นัดพบเพื่อนที่ร่วมงานกันมาสมัยทำงานชนบทที่นั่น กลุ่มยังเกาะกันจนถึงปัจจุบัน
อีกเรื่องหนึ่ง เคยสรุปสั้นๆไว้บ้างแล้วว่า ที่ดงหลวงนั้นเป็นพื้นที่ปลดปล่อยแห่งแรก และเป็นกลุ่มสหายป่ากลุ่มสุดท้ายที่ออกมาจากป่า โดยก่อนออกมาก็ส่งคนมาเจรจากับฝ่ายรัฐบาลว่าขอรับการสนับสนุนอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อออกมากันแล้ว กลับไม่ได้รับอะไรเลย...??? ท่านลองนึกสภาพจิตใจพี่น้องที่ออกจากป่าซิว่าจะรู้สึกอย่างไร การที่รัฐบาลไม่ทำตามสัญญานั้นต่างมีเหตุมีผลที่เราไม่อาจรับรู้ได้
ความผิดปกตินี้ท่านสุรยุทธ์ จุฬานนท์ สมัยนั้นท่านเป็นนายทหารคุมแม่ทัพภาคอยู่ก็ไม่สามารถตอบสนองให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องสั่งการ แต่เดาว่าท่าน “อุกอั่ง” เพราะท่านมีความรู้สึกลึกซึ้งกับดงหลวง กับพี่น้องไทโซ่ กับคุณพ่อท่านที่เข้ามาใช้ชีวิตที่ป่าแถบนี้
จนในที่สุดเมื่อท่านเป็นรัฐบาลจึงเป็นโอกาสที่ท่านจะทำตามสัญญาที่รัฐบาลชุดก่อนๆได้ให้ไว้กับพี่น้องผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยดงหลวงและที่อื่นๆ นั้นก็คือการเสาะหาที่ดินทำกิน ให้ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินแก่ผู้ที่มาลงชื่อไว้กับกองทัพ แต่สภาพปัจจุบันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ที่ดินหาไม่ได้อีกแล้ว และเวลาล่วงเลยมานาน หลายคนก็ได้ที่ดินไปบ้างแล้วจึงเปลี่ยนไปเป็นการให้เงินก้อน เมื่อเหตุการณ์เกิดได้ขึ้นมาจริงๆ ผู้ที่ไม่ได้ลงชื่อก็มี เพราะสมัยนั้นไม่คิดว่าจะได้อะไรจากรัฐบาล และคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ร่วมขบวนการแต่อยู่เบื้องหลัง
ในที่สุดสหายจำนวนมากที่ลงชื่อไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้วก็เข้าคิวรับเงินจากรัฐบาลชุดนี้ ท่านที่เคารพครับ พี่น้องไทโซ่ดงหลวงจัดการอย่างไรกับ พี่น้องร่วมรบ ร่วมตายที่ไม่มีชื่อ เขาเอาเงินที่ได้มากองรวมกันแล้วนับจำนวนสหายร่วมรบทั้งหมดที่ได้ลงชื่อและไม่ได้ลงชื่อ เอามาหาร ได้เท่าไหร่แบ่งกัน ทั้งหมด
ที่ผมทึ่ง อึ้งกิมลั้ง..สุดๆคือ เงินก้อนนี้ มีตัวหารเพิ่มคือ ชาวบ้านที่ไม่ได้เข้าป่า คือครอบครัวที่ส่งข้าวส่งน้ำให้สหายป่า ครอบครัวเหล่านี้รวมอยู่ในบัญชีหารเงินก้อนนั้นด้วย โดยสหายท่านหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อผมไปรบ ผมอยู่รอดเพราะพี่น้องกลุ่มนี้ให้อาหาร” “เมื่อผมเจ็บป่วย พี่น้องกลุ่มนี้แหละที่เยียวยา หยอดน้ำข้าวต้ม ส่งเสบียงให้ผม ผมจะลืมเขาได้อย่างไรกัน เขาคือผู้ให้ชีวิตผมด้วยซ้ำไป...”
ผมเข้าใจลึกซึ้งมากจริงๆของ
ประเพณีไทยของเราเกี่ยวกับการต้อนรับ การมอบอาหารให้แก่ผู้เดินทาง ผู้ยากไร้ ผู้อดอยาก ผู้เจ็บป่วย ผู้ขาดแคลน การมีเมตตาต่อกัน
“การกินข้าวร่วมชาม กินน้ำร่วมขัน มันคือสายสัมพันธ์ที่เชื่อม ร้อยรัด ต่อกันด้วยใจอันยิ่งใหญ่” ยากที่จะมอดไหม้ไปกับกาลเวลา
เป็นดั่งท่านครูบากล่าวคือ “มันเป็นเรื่องของใจถึงใจ” ครับท่านที่รัก..
16-18 พ.ย. 50 นี้ เราไปกินข้าวร่วมชาม กินน้ำร่วมขันกันที่ดงหลวงเถอะครับ
สวัสดีค่ะ พี่บางทราย
ถ้าเป็นสมัยนี้นะ คำทักทายอาจเป็น "วันนี้คุณเข้า g2k แล้วหรือยัง"
ขอบอกว่า ตอนนี้ส่งใจไปแล้วกว่าครึ่งค่ะ รอเพียงวีซ่าผ่านทางอีกนิ้ด คงได้มีโอกาสไปกินข้าวร่วมชาม กินน้ำร่วมขัน สร้างสรรค์สัมพันธ์ น้องพี่ g2k นะคะ
หวัดดีครับ คุณ รัตติยา เขียวแป้น
หวัดดี สะ-มะ-นึ-กะ
โอ้ย!
เล่นรายงานกันอย่างถี่ยิบอย่างนี้ ทรมานใจคนที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปหรือเปล่านะครับ :)
เห็นบรรยากาศ
เห็นความรู้สึกที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติ
เห็นความสุขที่อยู่ล้อมรอบคนที่รู้ใจ
อยากไปจริงๆครับ
แต่...ดูกำหนดการช้างเผือกเกมส์ก่อนครับ :(
ไปได้ไม่ได้ ก็รายการนี้แหละครับ
สิ่งที่ควรทำ คือ ความดี
สิ่งที่ควรมี คือ คุณธรรม
สิ่งที่ควรจดจำ คือ บุญคุณ
สิ่งที่ควรเทอดทูล คือ ความกตัญญู
.... ขอบพระคุณครับ ....
หวัดดี นายสายลม อักษรสุนทรีย์
สวัสดีค่ะพี่บางทราย อีกรอบค่ะ
เอารูปพี่องุ่น (คนสวย)
กับ น้อง อะ หงุ โนะ
มาเปรียบเทียบให้เห็น (ความสวย) กันจะ ๆ ค่ะ
สวัสดีครับ อาจารย์ติ๋ว นาง กฤษณา สำเร็จ
สวัสดีค่ะคุณบางทราย
แหม ถ้าไม่ติดอะไรอยากไปร่วมแจมด้วยจริงๆค่ะ
พี่คะ ยิ่งตามอ่านบันทึก ยิ่งใจเต้นเป็นกลองรัว.....พี่กำหนดวันสุดท้ายสำหรับคำตอบไว้ไหมคะ....แบบว่า ผลุนผลันไปวินาทีสุดท้าย พอจะเป็นไปได้ไหมคะ...มีจำกัดจำนวนคนไว้ที่เท่าไหร่ไหมคะ
น้องครับ จันทรรัตน์
ผมชอบอ่านเรื่องราวของทหารป่ามาก ๆ เพราะผมคิดว่านี่คือความเป็นมาที่ชัดเจนที่สุดของการเมืองการปกครองของประเทศไทย
แต่เราไม่เคยร่ำเรียนถึงเรื่องราวเหล่านี้ และทุกวันเราก็ยังคงถกเถียงกันในเรื่องที่เราเข้าใจคนละอย่างหรือไม่ก็ ต่างไม่เข้าใจเมืองไทยเลยด้วยซ้ำ
ขอบคุณครับ และจุดมุ่งหนึ่งที่ผมจะไปรบกวนพี่บางทรายก็คือเรื่องราว สถานที่ ผู้คนที่เกี่ยวกับกองทัพประชาชน
นั่งดูแผนที่อยู่เกือบทุกวันเลยครับ
หวัดดีน้อง สุมิตรชัย คำเขาแดง
สวัสดีครับ พี่บางทราย
ถ้า สามารถเชิญเพื่อนพี่ที่อยู่ในกลุ่มที่เข้าป่ามาด้วยน่าจะดีนะครับ จะได้บรรยากาศเก่า ความรัก ความเห็นอกเห็นใจกัน ความเป็นสหายที่ิ่ยิ่่ิงกว่า ญาติ อื่นๆอีกมากมาย
แค่นี้ก็ขนลุกแล้วครับ ตื่นเต้นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หวัดดีครับ น้องเสือ
พี่บางทรายค่ะ
เฮฮา 3 ครั้งนี้พี่องุ่นคนสวย มีความหวังว่า อาจจะได้พบกับสหายท่านหนึ่งของพี่บางทราย พวกเรารอคอยการกลับบ้านของพี่คนนี้มาเป็นเวลา 30 กว่าปีแล้ว (บัณฑิตคณะวิศกรรมไฟฟ้า ม.ขอนแก่น) ส่วนชื่อขอแจ้ง เมื่อถึงดงหลวงค่ะ
ส่วน เด็กฮ่องกงหลงทางนี่ ลงประกาศหาทุนกลับประเทศเหรอค่ะ พ่อดอง,อ.ดร.ขจิต,น้องแป๊ด
MISS A Hngu hno gou แกหน้าตาน่าสงสารเน๊าะเห็นแปะไว้ทุกblog เลย เล่นอะไรกันเนี่ย????????? ก๊าก
ถึง พี่องุ่นคนสวย
ส่วน เด็กฮ่องกงหลงทางนี่ ลงประกาศหาทุนกลับประเทศเหรอค่ะ พ่อดอง,อ.ดร.ขจิต,น้องแป๊ด
MISS A Hngu hno gou แกหน้าตาน่าสงสารเน๊าะเห็นแปะไว้ทุกblog เลย เล่นอะไรกันเนี่ย????????? ก๊าก
อันนี้พี่ไม่ทราบ จริง จริ๊ง..ให้ป๋อมแป๊มตกน้ำสิอ้าว..อิ อิ.