วันเด็กปี49ของลูกๆ

หมดภารกิจงานหลวง ก็มาทำภารกิจงานราษฎร์สำหรับลูกๆโดยพาไปเที่ยวใกล้ๆบ้าน

          เมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นวันเด็ก แต่ในช่วงเช้าภรรยาต้องไปเป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมวันเด็กของโรงพยาบาลที่จัดร่วมกับเทศบาล ผมก็เลยต้องพาลูกๆทั้งสามคน ไปร่วมกิจกรรมด้วยตนเองพร้อมกับคุณย่าไปช่วยดูด้วย

          พอไปถึงที่งาน น้องแคนก็แยกไปคนเดียวได้ ส่วนน้องขิมขอไปอยู่กับแม่ที่เต้นท์จัดงาน ย่าพอน้องขลุ่ยเดินชมงาน ส่วนผมไปร่วมกิจกรรมในฐานะผู้บริหาร อยู่ได้สักพักน้องขลุ่ยก็ร้องไห้เพราะกลัวคนเยอะ กลัวทหารที่แต่งหน้าดำๆ ก็ร้องงอแงกลับบ้าน พอดีกับที่ผมต้องรีบไปร่วมพิธีประสาทอนุปริญญาของวิทยาลัยชุมชนก็เลยพากลับบ้าน

           หลังเสร็จภารกิจทั้งพ่อและแม่ ก็เลยพาลูกกๆไปเที่ยวเล่นของเล่นที่สนามเด็กเล่นที่ตาก พร้อมทั้งทานอาหารนอกบ้านไปด้วยเลย เด็กๆสนุกสนานกับของเด็กเล่นได้เกือบ 2 ชั่วโมง ก็เปลี่ยนมาฝึกระบายสีรูปที่เขาจัดไว้ชุดละ 20 บาท กลับถึงบ้านเกือบ 3 ทุ่ม

           พอตอนจะนอน น้องขิมก็ไม่ยอมนอน ต้องให้ผมอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนอีกจนจบ น้องแคนก็มาร่วมฟังด้วย แต่น้องขลุ่ยคงเหนื่อยหลับไปก่อนแล้ว กว่าจะนอกันก็เกือบห้าทุม่ครึ่งแล้ว นิทานเรื่องต้นไม้แห่งครอบครัว (Family tree) ชื่อเดียวกับชื่อเลคเชอร์ที่ผมต้องบรรยายนิสิตแพทย์เลยคือ Family tree หรือ Genogram ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญทางเวชศาสตร์ครอบครัว

            วันอาทิตย์ที่ 15 จึงมีเวลาพาเด็กๆไปไหว้พระที่วัดพระบรมธาตุ เด็กๆจะชอบไปวัดมาก น้องขลุ่ยจะชอบร้องไปวัดพระบรมธาตุเพราะชอบไปตีระฆังที่วัด ตอนไปทำบุญซื้อชุดไหว้พระก็ได้แนะนำคนขายเรื่องการนำสินค้าพื้นบ้านมาประกอบเป็นชุดไหว้เพื่อสนับสนุนสินค้าโอทอป พอจะกลับก็ได้ไปกราบพระครูพิทักษ์บรมธาตุ เจ้าคณะอำเภอเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน น้องแคนจะชอบรบเร้าให้พาเข้าไปหาท่านที่กุฏิเพราะชอบที่ท่านเป่าหัวให้และให้พระเครื่องด้วย

             ได้สอบถามพูดคุยกับท่านอยู่พักหนึ่ง ได้เล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับกิจกรรมของโรงพยาบาล การใช้อาคารหอผู้ป่วยที่ท่านได้บริจาคเงินสร้างไว้ รวมทั้งเรื่องกองทุนหลวงพ่อทันใจ ที่ตั้งขึ้นในมูลนิธิโรงพยาบาลบ้านตาก โดยเงินบริจาคจากการตั้งตู้รับบริจาคในวิหารหลวงพ่อทันใจที่วัดพระธาตุ พูดคุยได้สักพักก็ขอลากลับ