จาก ( การจัดฯ... ๓) ผู้เขียนได้ค้างไว้ว่า เมื่อจำแนกการกระทำออกเป็น ๙ ประการแล้ว... ชิสโฮลม์ก็ได้จัดลำดับใหม่ โดยเรียงลำดับตั้งแต่การกระทำที่จะดำเนินการหรือไม่ดำเนินการก็เลวหรือผิด ไปจนถึงการกระทำที่จะดำเนินการหรือไม่ดำเนินการก็ดีหรือถูก ดังต่อไปนี้
ชิสโฮลม์ให้ความเห็นว่า ระบบศีลธรรมที่มีความหลากหลายที่สุดอาจมีความเป็นไปได้ทุกกรณี... แต่ระบบศีลธรรมที่่จำกัดที่สุดอาจเป็นไปได้เพียงกรณีเดียว....
เขาได้ยกตัวอย่างว่า กลุ่มที่ยึดถือว่าสิ่งต่างๆ ล้วนมีสาเหตุแน่นอนตายตัว หลักศีลธรรมเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ ก็อาจยอมรับเฉพาะข้อ 5.... นั่นคือ ไม่ว่าการกระทำแบบไหนทำนองใดก็ตาม ล้วนแต่ไม่มีความแตกต่างกันในแง่ศีลธรรม เพราะศีลธรรมเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ (nihilistic moralities)
ลัทธิคานต์อาจยอมรับเฉพาะข้อ 3. (ข้อห้าม) และ และข้อ 7. (ข้อผูกพัน)... กล่าวคือ ยอมรับว่าการกระทำใดๆ ก็ตาม ถ้าไม่เป็นข้อห้ามซึ่งเป็นสิ่งเลวหรือผิดแล้ว ก็จะต้องเป็นข้อผูกพันซึ่งเป็นสิ่งดีหรือถูกต้องเท่านั้น....
ผู้ที่มีน้ำใจกว้างขวางก็อาจใช้แต่เพียง ๓ ข้อเท่านั้น กล่าวคือ การกระทำเหนือหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งดีในการดำเนินการ แม้ไม่ดำเนินการก็ไม่ใช่สิ่งเลว... ข้อขัดเืคือง ซึ่งเป็นสิ่งเลวที่ให้อภัยได้... และข้อไม่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นกลางๆ ไม่ดีไม่เลว... ประมาณนี้
..............
หลังจากแจกแจงรายละเอียดพร้อมตัวอย่างบางประเด็นของการจัดประเภทการกระทำทางศีลธรรมแล้ว ชิสโฮลม์ให้ความเห็นว่า การกระทำทางทั้งหมดอาจสรุปเหลือเพียงคำเดียวว่า ควร (ought to) นั่นคือ เราจะตัดสินใจว่า ควรจะกระทำ หรือ ไม่ควรจะกระทำ ในแต่ละกรณี... หรือในการดำเนินชีวิตทั่วไป เราก็อาจตัดสินใจว่า ควรจะเป็นอย่างไร ... ประมาณนี้
ประเด็นในคำว่า ควร นี้จัดเป็นคำที่มีนัยสำคัญตามหลักศีลธรรมเสมอ ดังนั้น ฟิสคินจึงใช้คำนี้มาจัดประเภทการกระทำทางศีลธรรมอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งผู้เขียนจะนำมาเล่าในตอนต่อไป....
ไม่มีความเห็น