KM ในโรงเรียนประถมศึกษาในชนบท คือโลกกว้างในกระถางบอนไซ


อินเตอร์เน็ตทุกระบบ (ทั้งระบบตามสาย , ระบบจานดาวเทียม) ที่หน่วยเหนือจัดซื้อและติดตั้งให้ พิกลพิการมาตั้งแต่แรกตั้ง เกือบ 100 % ที่กลายเป็นขยะให้ครูคอยปัดฝุ่น ในขณะที่ สพฐ.ยังจ่ายค่าดูแลแบบเหมาจ่ายให้กับคู่สัญญาทุกเดือน

         โรงเรียนประถมศึกษาส่วนใหญ่ในชนบท  มีข้อจำกัดในการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ในทุกด้าน  โดยเฉพาะองค์ความรู้ที่ลอยฟ่องล่องฟ้าอยู่ในระบบอินเตอร์เน็ต 

         อินเตอร์เน็ตทุกระบบ (ทั้งระบบตามสาย , ระบบจานดาวเทียม) ที่หน่วยเหนือจัดซื้อและติดตั้งให้  พิกลพิการมาตั้งแต่แรกตั้ง  เกือบ 100 % ที่กลายเป็นขยะให้ครูคอยปัดฝุ่น  ในขณะที่ สพฐ.ยังจ่ายค่าดูแลแบบเหมาจ่ายให้กับคู่สัญญาทุกเดือน

         องค์ความรู้ในตำราเรียน ส่วนใหญ่เป็นองค์ความรู้เหี่ยว  เป็นองค์ความรู้ที่จืดชืด  มีไว้เพื่อท่องจำและจิ้ม ก.ไก่ ถึง ง.งู จ.จาน  ให้ถูกตรงกับเฉลยเท่านั้น

         ในขณะที่องค์ความรู้ใหม่  เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวี่ทุกวัน 

        สารอาหารสมองที่บรรจุลงในสมองของเด็กในโรงเรียนประถมศึกษาในชนบท  นอกจากจืดชืดแล้ว  บางอย่างยังบูดเน่าอีกด้วย

        ครูเองก็ติดปัญหาในเรื่องเดียวกัน  ทำให้ไม่สามารถแสวงหาความรู้สดๆไปเติมลงในสมองของเด็กได้  จำใจต้องเติมสารอาหารที่ล้าสมัย จืดชืดและบูดเน่า

        ดังนั้น  ทั้งครูทั้งนักเรียน  ส่วนมากจึงยังติดอยู่กับโลกทัศน์เก่าๆ องค์ความรู้เดิมๆ สารอาหารสมองที่บูดๆเน่าๆ  ในบรรยากาศซ้ำๆซากๆและจำเจ

       นั่นหมายถึงการส่งความบูดเน่าต่อไปยังชุมชนในเขตบริการ  ทั้งในปัจจุบันและอนาคตด้วยด้วย

        นี่คือสภาพจริงของบอนไซในกระถางประถมศึกษาชนบทวันนี้

        ระบบการจัดการความรู้  หรือ KM ในโรงเรียนประถมศึกษาในชนบท คือหนทางเดียวที่เพิ่มโอกาสในการรับสารอาหารสดใหม่ให้สมอง  ทั้งของครู  นักเรียนและชุมชน

         แต่การเปิดโลกกว้างในกระถางบอนไซ  จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ในทุกระดับของ ศธ. ให้ความสำคัญและเคารพต่อความสามารถในการจัดการของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาในชนบท

         วิธีการคือ ควรจัดสรรงบประมาณในหมวดการลงทุนและพัฒนา  ไปถึงโรงเรียนให้มากที่สุด

          ไม่ใช่ให้เขื่อนใหญ่ระดับ สพฐ และ สพท.  กักไว้ใช้อย่างอีลุ่ยฉุยแฉก  และเป็นภาระให้กับกระถางบอนไซมาช่วยใช้ให้หมดตอนจะสิ้นปีงบประมาณอย่างทุกวันนี้

หมายเลขบันทึก: 122884เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2007 07:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 18:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

แวะมาเป็นกำลังใจให้คุณครูคะ

  • คุณครูคะเราต้องมาเริ่มที่...เปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆก่อนคะ...ถ้าคุณครูทั้งประเทศนี้คิดแบบคุณครูประเทศชาติไปรอดแน่คะ
  • สอง...ต้องเลือกที่จะรับคะ... ต้องมาสร้างภูมิคุ้มกันคะ..ทั้งของครูและของลูกศิษย์นั่นละคะ
  • สาม...ทำอย่างไรจะให้ลูกศิษย์ของคุณครูมีทักษะชีวิต...ที่จะต้องเผชิญในโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่นอกรั้วโรงเรียน
  • สี่...ยืนด้วยตนเองให้ได้...พึ่งพาผู้อื่นให้น้อยที่สุด ยิ่งหน่วยงานรัฐที่ชอบทำอะไรแบบไฟไหม้ฟางด้วยแล้ว...ฝากความหวังด้วยยากคะ
  • ห้า...เรียนรู้ทุกสิ่งรอบตัว หากคุณครูสามารถสร้างลูกศิษย์ให้มีความกระตือรือร้น...รักและห่วงใยสรรพสิ่ง...รอบๆตัวเขาได้นั่นคือที่สุดแล้วคะ...อินเทอร์เน็ตอาจเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับหลายๆที่...
  • หก...มาเริ่มที่นิสัยรักการอ่าน...ก่อนดีไหมคะคุณครู...หากเขารักการอ่านแล้วไม่ว่ามีสิ่งใดผ่านเข้ามา...ก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วคะ
  • เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป..นะคะคุณครูท่ามกลางความไม่เท่าเทียม..และความขาดแคลนของการศึกษาไทยในทุกระดับคะ
P
naree suwan
เมื่อ พ. 29 ส.ค. 2550 @ 08:23 [363737] [ลบ]

แวะมาเป็นกำลังใจให้คุณครูคะ

  • คุณครูคะเราต้องมาเริ่มที่...เปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆก่อนคะ...ถ้าคุณครูทั้งประเทศนี้คิดแบบคุณครูประเทศชาติไปรอดแน่คะ
  • สอง...ต้องเลือกที่จะรับคะ... ต้องมาสร้างภูมิคุ้มกันคะ..ทั้งของครูและของลูกศิษย์นั่นละคะ
  • สาม...ทำอย่างไรจะให้ลูกศิษย์ของคุณครูมีทักษะชีวิต...ที่จะต้องเผชิญในโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่นอกรั้วโรงเรียน
  • สี่...ยืนด้วยตนเองให้ได้...พึ่งพาผู้อื่นให้น้อยที่สุด ยิ่งหน่วยงานรัฐที่ชอบทำอะไรแบบไฟไหม้ฟางด้วยแล้ว...ฝากความหวังด้วยยากคะ
  • ห้า...เรียนรู้ทุกสิ่งรอบตัว หากคุณครูสามารถสร้างลูกศิษย์ให้มีความกระตือรือร้น...รักและห่วงใยสรรพสิ่ง...รอบๆตัวเขาได้นั่นคือที่สุดแล้วคะ...อินเทอร์เน็ตอาจเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับหลายๆที่...
  • หก...มาเริ่มที่นิสัยรักการอ่าน...ก่อนดีไหมคะคุณครู...หากเขารักการอ่านแล้วไม่ว่ามีสิ่งใดผ่านเข้ามา...ก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วคะ
  • เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป..นะคะคุณครูท่ามกลางความไม่เท่าเทียม..และความขาดแคลนของการศึกษาไทยในทุกระดับคะ 

สวัสดีครับ  คุณนารี  สุวรรณ

         ขอบคุณอย่างยิ่งครับ  สำหรับกำลังใจและข้อเสนอแนะ  เป็นประโยชน์สำหรับผมและนักเรียน  รวมทั้งเพื่อนร่วมงานมากทีเดียว

         หลายอย่างที่คุณนารี  แนะนำ  เป็นสิ่งที่ตรงกับที่โรงเรียนได้พยายามอย่างเต็มที่มาอย่างต่อเนื่อง (ค่อนข้างคิดได้ตรงกันมาก)  โดยเฉพาะเรื่องทักษะชีวิต(จัดเป็นหลักสูตรสถานศึกษาเลยทีเดียว) ความกระดือรือร้น เริ่มที่เรื่องใกล้ตัว การสร้างนิสัยรักการอ่าน การพึ่งตนเอง มีจิตอาสาหรือจิตสาธารณะ ฯลฯ 

        ขณะนี้กำลังทุ่มเทเต็มที่กับการช่วยให้เขาคุ้นเคยกับการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในทุกด้านของชีวิตด้วยเหตุและผล  ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาสามารถเห็นสภาพจริงของสังคม(โดยเฉพาะในชุมชน) ได้อย่างถูกต้องหรือใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด

          หากจะกรุณาให้เกียรติเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://khokpet.thaifix.com ก็จักขอบคุณยิ่งครับ

           ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำ  หวังว่าคงได้มีโอกาสได้รับคำแนะนำจากคุณนารี  ในโอกาสต่อๆไปนะครับ

     

  • ตามมาต่อเติมครับ
  • ผมมองว่าเราควรพึ่งตนเองให้มากที่สุด ทำงานอิงระบบ
  • สพท และ สพฐ คงตามพวกเราไม่ทัน ถ้าเขาทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม
  • เอาใจช่วยครับ ผอ
  • ใช่ครับ  อ.ขจิต  เราควรพึ่งตัวเองให้มากที่สุด  เรื่องนี้ผมสอนย้ำเด็กมาก  ถือเป็นไฮไลต์ของโรงเรียนเลยทีเดียว (การศึกษาเพื่อการพึ่งตนเอง)
  • ในขณะเดียวกัน  ผมย้ำจิตสำนึกเด็กว่า  ที่จริงคนอีสาน  ควรจะเป็นผู้ดูแลและให้การดูแลช่วยเหลือพี่น้องในภาคอื่นด้วย  เพราะคนอีสานเทวดาฟ้าดินเลี้ยงด้วยความทนุถนอม  ไม่เคยลงโทษแรงๆ(ด้วยภัยธรรมชาติเหมือนพี่น้องในภาคอื่นๆ)
  • ในส่วนของหน่วยเหนือ  โครงสร้างก่อนหน้านี้ก็ว่าแย่มากแล้ว  แต่ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้  แย่หนักกว่าเดิมมากครับ (ที่ชัดเจนคือ ผู้แทนครูในบอร์ดมีน้อยลง เปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงกว่าโรงเรียนมีอำนาจเบ็ดเสร็จมากเกินไป "วิพากษ์วิจารย์ได้  แต่อย่าให้ได้ยิน และต้องทำตามนี้ ห้ามโต้แย้ง" นี่ไงครับบรรยากาศการบริหารในยุคปฏิรูประบบราชการของหน่วยงานทางการศึกษาไทย)
  • ถ้าเด็กไม่ใช่เป็นผู้รับกรรมโดยตรง  ผมก็พอทำใจได้  แต่ทั้งหลายทั้งมวล  กรรมเป็นของเด็ก ของผู้ปกครอง และครู  ผลประโยชน์(เงินประจำตำแหน่งและผลงาน)กลับเป็นของหน่วยเหนือ (ก็ไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้นนะ)
  • ในลักษณะของการสั่งการและใช้อำนาจในการบริหารทุกอย่าง  ให้อาจารย์นึกถึงภาพของปิรามิดหัวกลับนะครับ  โรงเรียนเป็นส่วนยอดแหลมที่อยู่ด้านล่างสุดที่เป็นผู้ปฏิบัติ  ส่วนต่อจากนั้นเป็นส่วนสั่งการทั้งหมด (หลายชั้น หลายฝ่าย หลายกลุ่มงานด้วย)  โรงเรียนจึงกระอักกับขยะความคิดของเบื้องบนมาทุกยุคทุกสมัย  ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปอยู่กับวัดกับชุมชนซะทีก็ไม่รู้
  • ขอบคุณ อ.ขจิต  มากครับที่ตามติดและให้กำลังใจตลอด

                                สวัสดีครับ

สวัสดีคะท่านผอ.(ทักทายอย่างเป็นทางการคุยกับผอ.ต้องเรียบร้อยหน่อยคะ)

  • แวะไปเยี่ยมเว็บโรงเรียนมาแล้วคะ
  • ต้องขอยกนิ้วให้เลยคะ...ตอนแรกที่ฝากข้อความไม่ได้..อ่านประวัติแต่ประทับใจในตัวบทความ...อินไปด้วยคะ..เลยเขียนซะตั้งหลายข้อ
  • มาพบว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนเป็นสิ่งที่ ท่านผอ.และคณะครูพยายามทำอยู่แล้ว...แล้วทำได้ดีมากด้วยคะ...ขอชม
  • อย่าพึ่งท้อนะคะ..คณะครู..ชุมชน...และเด็กๆที่นั่นต้องพึ่งพาทั้งกำลังกายและพลังใจของท่านผอ.คะ
  • ขอเพียงทำให้ดีที่สุด...นะคะ..แม้แต่เราจะเป็นใต้ฐานปิรามิดก็เถอะคะ....
  • สงสารคุณครูทุกคนคะ...ที่ตอนนี้ต้องทิ้งห้องเรียนกระโจนเข้าสู่กระแสตำแหน่งทางวิชาการ
  • งงนะคะ..คะแนน NT ต่ำกว่าเกณฑ์..เด็กอ่านหนังสือไม่ออก...แต่ครูโรงเรียนนั้นเป็นครูชำนาญการพิเศษกันหมด...หรือว่าพวกอยู่บนหอคอยงาช้าง...ไม่งง...
  • แล้วเจ้าความเชี่ยวชาญนี่จับมาอบรมกันไม่กี่วัน...ทำข้อสอบหน่อย...ปั้นเอกสารอีกนิดก็เป็นกันได้...เฮ้อที่นี่ประเทศไทย
  • อ้าวกะว่าจะมาชม...ไงมาชวนท่านผอ.บ่นซะแล้ว...แวะไปเที่ยวไปผักผ่อนด้วยกันได้ที่บล็อกนะคะ...สวัสดีคะ

 

  • ขอบคุณมากครับ ที่ให้เกียรติแวะเยี่ยม
  • บันทึกของผมก็บ่นเรื่อยเปื่อยไป  ตามประสาครู ก็เกรงอยู่ครับว่าจะทำให้บรรยากาศของชาว Blog เสีย แต่พอมีคุณอินด้วยก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง
  • ที่โรงเรียนก็ทำไปตามเรื่อง  พยายามให้เด็กๆเขาได้ประสบการณ์ตรง  และมีสามัญสำนึกที่ถูกต้องเหมาะสมโดยใช้เหตุผลเป็นตัวชี้วัด
  • เรื่องคุณภาพการศึกษาและวิทยฐานะของครูที่สวนทางกัน นับวันจะยิ่งแย่ลงๆ เพราะต่อแต่นี้ไป  ปีทั้งปีครูจะมีแต่เรื่องอบรม สร้างเอกสาร เมคข้อมูล วิ่งหาที่ปรึกษา(ท่าน ดร. รศ. ผศ.และ อ.3 รุ่นพี่) เสร็จแล้วก็มาตรวจประเมินกันทีละด้านๆ จนอ่อนจนล้ากันไปทั้งผู้รับและผู้ประเมิน  เด็กเดิกไม่ต้องสอนกันล่ะ  ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ครูจะสิ้นเวรหมดกรรมกันซะทีก็ไม่รู้ (ครูที่โรงเรียนซาบซึ้งแล้วว่า "ไม่ไหว" เลยตัดใจ "ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า " อยากได้ค่าวิทยฐานะ  ไปปลูกยูคาลิปตัสซัก 10,000 ต้น 4 ปีผ่านไป ได้มากกว่าค่าวิทยฐานะด้วย)
  • เรื่อง"ท้อ"  ยังไม่มีสัญญาณเกิดขึ้นกับครูและเด็กที่นีครับ  ทุกคนมีกำลังใจดีมาก  สนุกกับสิ่งที่ทำ บทเรียนที่สอนและเรียนรู้ พวกเราแคร์ความรู้สึกกันมาก  ลุยไหนลุยกัน ไม่มีใครเอาเปรียบใคร  (นี่คือจุดแข็งอย่างเดียวที่เรามีอยู่)  เรื่องอื่นเลยคล้ายกับว่าเป็นเรื่องเล็ก ยิ่งคุณแวะมาให้กำลังใจวันนี้  ยิ่งเท่ากับเป็นการเติมพลังให้เราพร้อมลุยมากขึ้น (เอ๊...ขี้คุยและบ้ายอหรือเปล่าเนี่ย) ......

แวะมาสวัสดี...อีกรอบคะครูวุฒิ(ไม่เรียกท่านผอ.แล้วคะ..จะได้ไม่ค่อยกลัวถูกดุคะ...)

  • ได้เห็นว่าเป็นโรงเรียนเล็ก...แต่พลังแรงใจนั้นยิ่งใหญ่คะ
  • รู้สึกดีคะ...เห็นด้วยทุกอย่างเลย...
  • ทุกวันนี้ต่างฝ่ายต่างหลงทาง...คนรับกรรมคือทั้งครูทั้งเด็ก...
  • ครูถูกหลอกให้มีความหวัง...
  • เด็กถูกทิ้งให้คอยอยู่ในห้องเรียน
  • งานนี้มีคนได้ประโยชน์คะ...พวกทำนาบนหลังครูไงคะ...โรงแรมต่างจังหวัดถูกจองเต็ม...พวกนี้เดินสายไปทั่วประเทศ...
  • จะมีสักกี่คนที่สมหวังคะ...ความเชี่ยวชาญมันต้องสั่งสมไม่ใช่หรือคะ...แต่ทุกวันนี้มาแบบสำเร็จรูปคะ...ฉีกซองชงได้เลย..
  • ข้อมูลลอยไปลอยมาในอินเทอร์เน็ต...คงได้จะเอ๋จุดใต้ตำตอกันบ้างละคะ...
  • คุณครูวุฒิลองให้เด็กๆสมัครใช้บล็อกที่ Learners หรือยังคะ...เขาจะได้พบเพื่อนมากมายหลากหลายวัย
  • แต่ต้องทำใจคะ แม่ข่ายทำงานหนัก...ตอนนี้นอกจากจอขาวแล้ว...มีนับเลขด้วย...ฮา
  • ใน G2K มีนักวิชาการเก่งๆเยอะคะคุณครู เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้...โดยเฉพาะว่าที่ดร.ขจิตนั่นละคะ
  • ส่วนฉันเป็นพวกนักวิชาเกินคะ...คิดไม่เหมือนใครเท่าไหร่(หลงเข้าไปบล็อกฉันแล้วผิดหวังทุกราย...อิอิ)
  • ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ...

สวัสดีค่ะ ครูวุฒิ

  • ครูค่ะ.....รู้สึกดีใจที่เห็นผู้บริหารโรงเรียนเอาจริงเอาจัง....วิสัยทัศน์กว้างไกล เช่นครู....ถ้าผู้บริหารอย่างครูวุฒิ มีมากๆ....โรงเรียนประถมศึกษาคงมีประสิทธิภาพมากว่านี้ค่ะ....
  • ครูค่ะ......หากเปรียบ สพฐ.,สพท.เป็นเหมือนพ่อ,แม่   ก็คิดเสียว่าเขามีลูกเยอะ....ดูแลไม่ทั่วถึง  การจะปลูกบ้านสวยงามให้ลูกทุกคนเท่าเทียมกันคงยาก.....ใครช่างเอาอกเอาใจพ่อ,แม่  ก็รับไปก่อน .......บางครั้งพ่อ,แม่ ก็เห็นว่าตนเป็นพ่อ,แม่  ควรเก็บไว้บำรุงตนบ้าง.......
  • ครูค่ะ......เห็นกิจกรรมของโรงเรียนบ้านโคกเพชรแล้ว....ชื่นชมค่ะ......<เติมเต็มให้เด็กๆได้ดีทีเดียว>
  • ครูค่ะ.....ขอให้กำลังใจครูนะค่ะ........และขอเข้ามาเรียนรู้ KM  ในโรงเรียนของครูนะค่ะ

P
naree suwan
เมื่อ พฤ. 30 ส.ค. 2550 @ 16:45 [
366009] [ลบ]

แวะมาสวัสดี...อีกรอบคะครูวุฒิ(ไม่เรียกท่านผอ.แล้วคะ..จะได้ไม่ค่อยกลัวถูกดุคะ...)

        สวัสดีครับคุณNaree

  • ขอบคุณมากครับ  ที่แวะมาเยี่ยมพร้อมกำลังใจช่อโต
  • เขียนความในใจตรงๆมากไป  ก็เสียวๆท่านผู้บังคับบัญชา(ฟังดูเป็นไงครับคำนี้) ท่านจะฮุกเอา  ก็ยังไม่เสรีเหมือนคุณนี่นา
  • เรื่องวิทยฐานะครู  เป็นปัญหาตรงที่เขาไม่ได้วัดหรือตรวจประเมินที่ตัวเด็กหรืองานที่ครูทำตามบริบทที่เป็นจริงและเป็นไปได้  แต่เขาเอามาตรฐานทางวิชาการของอาจารย์มหาวิทยาลัย (ซึ่งสอนเฉพาะวิชา และสอนคนที่ไดรับการคัดกรองมาแล้วอย่างดีทั้งนั้น) มาเป็นตัวตั้งแล้วให้ครูบ้านนอกตะกายตาม
  • ที่จริงครูส่วนใหญ่ทำงานหนักเกินหน้าที่ ทั้งงานจัดกิจกรรมการเรียนรู้และงานอื่นที่สั่ง ๆ ๆ ๆ ๆ มา  โดยเฉพาะงานในหน้าที่การสอน ซึ่งครูต้องออกแบบอย่างพิถีพิถันมากกว่าแปลนคอนโดมิเนี่ยมหรือคอเพล็กหรูๆเสียอีก  เพราะมันคือแปลนสร้างคน (แต่กลายเป็นว่าต้องออกแบบแบบลวกๆ เพราะงานตามสั่งมากมายพะเรอเกวียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องหอบเครื่องคอมฯเข้าเขตสัก 2-3 วัน เสร็จแล้วก็มานั่งงมๆซาวๆที่โรงเรียนต่ออีกหลายวันกว่าจะเสร็จทันส่ง)
  • ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องบล้อกที่ Learners ครับ
  • ขอบคุณสำหรับความรู้และความอิ่มเอมใจ  ทั้งที่ได้จากนักวิชาการและนักวิชาเกินด้วยครับ
  • และขอบคุณที่แวะเยี่ยม  แล้วพบกันใหม่ครับ
  • สวัสดีครับ
P
หญ้าบัว
เมื่อ พฤ. 30 ส.ค. 2550 @ 19:41 [
366175] [ลบ]

สวัสดีค่ะ ครูวุฒิ

      สวัสดีครับคุณครูหญ้าบัว

  • ขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติแวะเยี่ยม ทักทายและให้กำลังใจ
  • ทุกอย่างก็ทำตามความจำเป็นและเท่าที่ทำได้ครับ
  • ในเรื่องของ สพฐ. สพท. ผมเข้าใจในประเด็นที่คุณครูหญ้าบัวอุปมาอุปมัยครับ  แต่เดี๋ยวผมจะขออนุญาตคุยในประเด็นที่ผมติดใจให้ละเอียดพอควรในโอกาสต่อไปครับ  เพราะเป็นส่วนที่มีผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนโดยตรงครับ
  • หวังว่าจะได้รับคำแนะนำดีๆเช่นนี้อีกในโอกาสต่อๆไปนะครับ
  • สวัสดีครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท