โครงการเยาวชนสัมพันธ์ ตอน 1


บางครั้งการสอนโดยการสร้างความกดดันให้เกิดขึ้น อาจมีผลดีในบางสถานการณ์ก็เป็นได้

         เมื่อวานนี้  ที่โรงเรียนของผู้เขียนมีทีมงานจากกรมตำรวจเข้ามาจัดโครงการเยาวชนสัมพันธ์  ให้กับเด็กนักเรียนในชั้นมัธยมต้นทั้งหมด  ผู้เขียนเลยไม่ได้สอนกันหรอกค่ะ  ไปทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยครูฝึกในกลุ่มสีที่ทีมงานได้แบ่งไว้แล้ว

        ความจริงแล้ว  ทีมงานชุดตำรวจโครงการเยาวชนสัมพันธ์เข้ามาเตรียมงานและสถานที่ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์แล้วล่ะค่ะ

       วันแรกของการฝึก  (ซึ่งเป็นวันจันทร์เมื่อวานนี้)  เริ่มด้วยการละลายกลุ่ม  คละกลุ่ม  ในแต่ละกลุ่มสีมีทั้งน้อง ม.1, 2 และพี่ๆ ม.3  ทีมงานซึ่งมีวิทยากรที่ถือไมโครโฟนพูดอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น  ( เขามีชื่อที่ให้นักเรียนเรียกคือ  "พี่จิ้มลิ้ม"  (แหม....ไม่อยากนินทาลับหลังเลยค่ะว่า  ร่างพี่แกไม่ได้จิ้มลิ้มเลย)  แถมคุณสมบัติการเป็นวิทยากรหลัก  ที่พูดอยู่คนเดียวตลอดวัน  ก็....ไม่จิ้มลิ้ม...เหมือนชื่ออีกต่างหาก  เขาเก่งมากๆๆ ที่เดียวล่ะค่ะ  ทราบว่าเดินทางมาจากกรุงเทพฯ)  พี่จิ้มลิ้มของเราจะยืนพูดอยู่บนรถกระบะ  6  ล้อ  ที่มีเครื่องขยายเสียงดังกระหึ่ม  บวกกับพลังเสียงที่มีอย่างท่วมท้นของพี่จิ้มลิ้มเข้าไปด้วยแล้ว    โอ้โฮ....สามารถสะกดเด็กเกเรที่ไม่ค่อยจะอยู่ในระเบียบวินัย  กลับกลายมาเป็นเด็กที่เชื่อฟัง  ว่านอนสอนง่ายขึ้นตั้งแยะ  ผู้เขียนเลยแอบเฝ้าสังเกตการณ์เพื่อดูว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นได้  เค้าทำได้อย่างไรนะ  ก็ได้คำตอบจากการเฝ้าสังเกตและคำตอบจากครูฝึกประจำกลุ่มสี  ว่า  คือ  การสร้างความกดดันให้เกิดร่วมกัน  จนมีความรู้สึกร่วมกัน  แล้วพลังแห่งความสามัคคีก็จะเกิดกับกลุ่มสีนั้นๆ  อาจจะมีการลงโทษตามกฎกติกาที่วางไว้ตั้งแต่ต้น (เหมือนกับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในสังคมของผู้ใหญ่)  แต่เด็กๆ  เค้าก็ยอมรับกันได้โดยดี  มีการลงโทษกันสนุกสนานไปเลย  แบบที่เด็กๆ ฮาไปด้วย  คือทำผิดแล้วต้องลงไปในถังน้ำใบใหญ่ที่จุคนได้ถึง  10  คน  แล้วก็มีการฝึกระเบียบแถวต่างๆ ให้ด้วยความทมัดทะแมง  แต่ไม่เท่านั้นพี่จิ้มลิ้มกลับมีเพลงสนุกๆ เยอะแยะมากมาย ให้เด็กๆ ร้องกันตลอดทั้งวันด้วยเช่นกัน 

        จนมาถึงวินาทีที่เด็กๆ จะไม่มีวันลืมจนชั่วชีวิตของเค้าเลย  นั่นคือ  การรับประทานอาหารมื้อเที่ยงร่วมกัน  ซึ่งพี่จิ้มลิ้มบอกกับเด็กๆ  ว่า ....เป็นโต๊ะจีนแบบจิ้มลิ้ม.....  นั่นคือ  ให้ทานอาหารกับถาดใบใหญ่มากๆๆ  ตักข้าวและกับข้าวต่างๆ ลงไปในถาดใบเดียวกันเพื่อให้พอกับคนราวๆ 7-8  คน โดยมีเงื่อนไขว่าทุกคนที่นั่งร่วมวงถาดเดียวกันต้องช่วยกันรับประทานให้หมด  ไม่ให้เหลือแม้แต่เมล็ดข้าวเพียงเมล็ดเดียว  แต่ละกลุ่มก็ช่วยกันทานจนหมด  สุดท้ายครูฝึกพี่เลี้ยงตำรวจประจำกลุ่มสีซึ่งมี  2  ท่าน  ก็จะมาช่วยตรวจความเรียบร้อยว่าหมดหรือไม่  พอเจอถาดไหนไม่หมดครูฝึกพี่เลี้ยงตำรวจก็จะเอาช้อนของตนเองกวาดเศษข้าวที่น้องๆ ทานไม่หมดใส่เข้าปากตัวเองกินแทนน้อง  เพื่อน้องๆ ในวงข้าวนั้นจะได้ไม่โดนทำโทษ  ผู้เขียนแอบหันไปเจอสายตาของเด็กๆ ม.3  ผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ค่อนไปทางเกเรหน่อยๆ  เค้ามองพี่เลี้ยงคนนั้นด้วยความทึ่ง...  นึกไม่ถึงว่าจะมีคนทำแบบนั้นเพื่อกลุ่มเค้า  (คงจะเป็นวิธีการใจแลกใจ  ใจวัดใจของครูพี่เลี้ยงประจำกลุ่ม)  และในช่วงบ่ายก็มีการซ้อมเพลงเชียร์ของกลุ่มสี  ที่พบว่าเด็กๆ  ร่วมใจกันเชียร์ด้วยเสียงดังและเฮฮามากกว่าตอนกีฬาสีโรงเรียนซะอีก  มาถึงตอนเย็นก่อนเลิกเรียน  มี surprise!! ให้กับคนที่มีวันเกิดในวันนั้น  เจ้าของวันเกิดถึงกับร้องไห้และบอกว่าไม่เคยได้รับของขวัญแบบนี้มาก่อน  แถมท้ายด้วยพี่จิ้มลิ้มจะเตือนให้เด็กๆ ไม่ลืมที่จะกลับไปไหว้พ่อและแม่ผู้มีพระคุณของตนเอง  ไม่เฉพาะแต่เจ้าของวันเกิดก็ตาม 

       มาในวันนี้   ตอนเช้าที่เจอกัน  พี่จิ้มลิ้มก็ถามว่า  มีใครไปไหว้พ่อแม่ตนเองแล้วหรือยัง  แน่นอน....มีเด็กบางคนยกมือตอบว่ายัง  ด้วยเหตุผลที่ว่า  ....ลืม....หรือ...ไม่ได้เจอกัน....(แต่ลึกๆ แล้วสำหรับเด็กบางคน  เค้าไม่เคยที่จะทำเช่นนั้นเลย  แต่เป็นเพราะเหตุผลว่า  ...อาย...ที่จะทำ)  พี่จิ้มลิ้มก็เลยมีคำสอนดีๆ ที่เด็กนั่งฟังกันเงียบจากคนตัวอ้วนๆ พุงใหญ่ๆ และน้ำเสียงที่มีพลังสะกดให้ทุกคนที่ผ่านไปมาต้องหยุด...เพื่อที่จะฟัง.... 

        และหลังจากนั้นไม่นานนักก็มีพิธีเปิดการอบรมเยาวชนสัมพันธ์แบบเป็นรูปเป็นร่าง  แน่นอนที่สุดเด็กๆ นั่งในพิธีเปิดแบบเงียบมาก  ว่าไงก็ว่าตามกันหมด  (ทั้งที่ปกติเค้าจะส่งเสียงดังมากเมื่อเข้าหอประชุมในกิจกรรมของโรงเรียน)      หลังจากนั้นพี่จิ้มลิ้มคนเดิมก็สอนเด็กๆ ให้รู้จักกับยาเสพติดตัวร้าย  ที่ดูกลายๆ ว่าเด็กๆ ชักจะขยาดตามที่พี่จิ้มลิ้มบอกซะแล้วล่ะค่ะ   ดีเหมือนกันนะคะ.....ปัญหาเด็กติดยาเสพติดจะได้ลดลงบ้าง....

          สำหรับเที่ยงวันนี้ก็เป็นโต๊ะจีนเหมือนเมื่อวานที่เด็กๆ เค้าเริ่มปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้แล้ว  (คุณครูเองก็ต้องปรับตัวเหมือนกัน  จากที่เมื่อวานตักข้าวให้นักเรียนหนักมือไปหน่อย  เพราะกลัวเค้าจะทานกันไม่อิ่ม  แต่ที่ไหนได้  กลายเป็นภาระให้เค้าต้องทานกันให้หมดมิฉะนั้นจะถูกลงโทษ  มาวันนี้เลยต้องเบามือหน่อยนึง.....แล้วค่อยเดินเติมข้าวและกับข้าวให้เค้าเพิ่มได้  หากเค้าทานไม่อิ่ม) 

         จนกระทั่งตอนบ่ายวันนี้ก็มีการแข่งขันกีฬาประจำกลุ่มสี  ที่ฮามาก......คือการแข่งขันฟุตบอลที่เด็กๆ เอง ตลกกันเป็นแถวๆ เพราะไม่มีการเตะลูกบอล  แต่เตะด้วยลูกมะพร้าวแทน  เด็กก็เล่นกันตามกติกาฟุตบอล  แต่ถนอมแรงไว้ไม่เหมือนกับเตะลูกบอล  เพราะนั่นหมายถึงลูกมะพร้าวแข็งๆ   เห็นภาพครูฝึกกับเด็กร่วมกันแข่งกีฬาแล้วร่วมกันฮาหลุดโลก  คงเป็นภาพประทับใจเด็กๆ ไปอีกนานแม้ว่าขณะเล่นกีฬาพวกเค้าจะเปียกปอนกันเพราะสายฝนก็ตาม  เค้าก็ยังสู้ไม่ถอย  สุดท้ายบทเรียนจากการเล่นกิจกรรมกีฬาก็เป็นการสอนให้เด็กๆ เห็นคุณค่าของกีฬา  และที่เกิดเป็นโทษจากกีฬา(ได้ยินแว่วๆ มาจากไมโครโฟนตัวนั้นว่า "กาลี")ขึ้นมาได้ก็เพราะมนุษย์เราที่เอากีฬาไปเล่นเป็นการพนัน      

      เด็กที่เกิดในวันนี้และกลายเป็นผู้โชคดีของวันมีถึง  2  คน  ที่ยิ้มไม่ยอมหุบซักที  ด้วยความสุขที่มีคนอวยพรวันเกิดให้เค้ามากมายเกือบทั้งโรงเรียน  เค้าคงไปเล่าให้พ่อแม่ฟังแบบไม่ให้พลาดแม้แต่ตอนเดียว...เชียวล่ะค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #เยาวชน
หมายเลขบันทึก: 122775เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2007 18:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • เคยไปช่วยทั้งทหารและตำรวจทำกิจกรรม
  • ตอนอยู่ที่เมืองกาญจน์
  • เจ้าหน้าที่หลายท่านเก่งมากโดยเฉพาะชุดมวลชนสัมพันธ์ของตำรวจ
  • ดีใจที่โรงเรียนมีกิจกรรมดีๆๆครับผม
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

คุณครูก็น่ารักจังเลยค่ะ

  • สวัสดีจ้า...พ่อน้องชายคนดีแถมเก่งอีกต่างหาก
  • คิดถึงเด็กๆ ลูกศิษย์สมัยสอนมัธยมรึปล่าวล่ะน้อง  ยิ่งเจ้าตัวเซียนๆ ของโรงเรียนด้วยแล้ว  แสบไม่เบา
  • เอามาเล่าสู่กันฟังน่ะค่ะ
  • เพราะเห็นว่าดูจะมีดีในกิจกรรมแยะ  แม้ว่าคาบเรียนภาษาอังกฤษจะถดถอยไปก็ตาม  แต่ก็เชื่อมั่นใน "คุณธรรม  นำ  ความรู้" จ้า  เพราะท้ายที่สุดแล้ว  คนเก่ง  กับ  คนดี  เราควรสร้างคนดีให้มากกว่าไม่ใช่หรือจ๊ะ
  • ขอบคุณนะคะ

สวัสดีค่ะคุณP

  • กำลังรอลุ้นในวันพรุ่งนี้น่ะค่ะ  ข่าวว่าจะมีการแสดงละคร  ที่ไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน  แต่ให้บทใครบทมันกันไป  แล้วจะมารวมกันเล่นละครในวัพรุ่งนี้
  • คาดว่าคงจะมีอะไรดีๆ จากในละครอีกเป็นแน่เชียวค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

ตามมาขอบคุณ

  • สำหรับความเป็นห่วงเป็นใยตลอดมาค่ะคุณครูพี่แอน
  • โห...เตะลูกมะพร้าวนี้เท้าเหล็กจริง ๆ น่ะค่ะ
  • ดีใจที่มีกิจกรรมดีดีเช่นนี้
  • เด็ก ๆ มีความสุขแถมได้คติเตือนใจจากพี่จิ้มลิ้มด้วย
  • ธรรมดาค่ะที่เด็ก ๆ จะตื่นเต้นกับกิจกรรมและวิทยากรใหม่ ๆ
  • เด็กมีความสุข ครูก็มีความสุขด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณครูน้องแอน

  • พี่เองก็เพิ่งเคยเจอเนี่ยล่ะค่ะ  ลูกมะพร้าวแทนลูกบอลค่ะ  แต่ดูหน้าเด็กๆ  แล้วเค้า happy มากเลยนะคะ
  • พี่ว่าพรุ่งนี้คงสนุกกว่านี้ล่ะ  เพราะว่าข่าวแว่วว่ามีละครด้วย
  • เลยรายงานตอน 1  ซะ....ยาวเลย  เพราะเมื่อวานนี่วันแรก  ง่วนกับกิจกรรมจนไม่สามารถพาตัวเองมานั่งหน้าคอมฯได้  เลยรายงานซะ  2  วันในหนึ่งตอนเลย  ยาวไปมั๊ยคะน้อง
  • ขอบคุณค่ะที่แวะมา  ไว้เจอกันนะคะ 

พี่จิ่มลิ้ม เสียชีวิตแล้ว จริงหรือเปล่า

สวัสดีค่ะไม่มีรูป7. ลุงยุทธ

พี่จิ่มลิ้ม เสียชีวิตแล้ว จริงหรือเปล่า

ครูแอนไม่ทราบข่าวนี้หรอกค่ะ...คงต้องเช็คข่าวจากแหล่งคนใกล้ชิดพี่เค้าอีกครั้งนะคะลุงยุทธ

ครูแอนทราบแต่ว่าครั้งนึงที่พี่เค้ามา  พี่เค้าทำให้เด็กรักชาติ  รักท้องถิ่น  รักพ่อแม่และผู้มีพระคุณ  และมีความสามัคคีกลมเกลียวกันมากขึ้นน่ะค่ะ  ไม่นับรวมถึงระเบียบวินัยที่เกิดขึ้นกับเด็กนะคะลุงยุทธ

ลองเช็คข่าวใหม่นะคะ...ครูแอนหวังว่าคงเป็นแค่ข่าวลือมังคะลุง

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่ครูแอน

พอลล่าแวะมาเรียนรู้ กิจกรรมดีๆ ของน้องๆและคุณครูค่ะ เอาไว้ไปใช้บ้าง อิอิ

แถวบ้านป้าแดงไม่เห็นกิจกรรมแบบนี้นานแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะน้องพอลล่าP และป้าแดงคนสวยP
  • กิจกรรมนี้จัดไปนานแล้วเหมือนกันค่ะ
  • ตอนนั้นสถานการณ์ทางใต้หนักอยู่น่ะค่ะ  เค้าเลยฝึกโครงการนี้ให้เยาวชนหันมาสำนึกรักบ้านเกิดและประเทศมังคะป้าแดง...น้องพอลล่า
  • ขอบคุณทั้งสองท่านนะคะ

     สวัสดีครับคุณครู...ผมเป็นหนึ่งในทีมวิทยากรที่เคยร่วมงานกับพี่จิ้มลิ้มมานานหลายปี ด้วยความที่ผมคิดถึงเค้ามากๆ ผมเลยลองค้นหาคำว่า "พี่จิ้มลิ้ม" จากกูเกิ้ล จึงได้เจอเว็บนี้

     วันนี้ 29 สิงหาคม 2552 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ ด.ต.ธวัช ขอเพิ่มกลาง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่มีอีกแล้วโต๊ะจีนจิ้มลิ้ม ไม่มีอีกแล้วการเตะบอลมะพร้าว ไม่มีอีกแล้วคนมาสั่งให้เราไหว้พ่อแม่ทุกเช้า จะไม่มีการสั่งทำโทษลงน้ำ นับจากวันนี้...คงไม่มีอีกแล้ว แต่ผมจะเก็บพี่ชายผมคนนี้ไว้ในใจจนกว่าผมจะหมดลมหายใจไป และเชื่อว่าพี่จิ้มลิ้มเอง ก็คงจะอยู่ในใจหลายๆคน อีกนับแสนนับล้านคน เหมือนกัน...

     พฤษภกาสร     อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง   สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย     มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี    ประดับไว้ในโลกา

     บัดนี้ผลงานเกียรติยศของ "พี่จิ้มลิ้ม" ได้ถูกบันทึกไว้ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติ โดยกรมศิลปากร ชื่อ"พี่จิ้มลิ้ม" จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ คู่ชาติไทยไปตราบนาน ชั่วฟ้าดินสลาย...คำทุกคำที่พี่เคยสอน ผมจะนำไปสอนลูกสอนหลาน และบอกให้เค้าได้รู้จักผู้ชายที่ชื่อจิ้มลิ้ม เหมือนที่ผมได้รู้จัก ขอให้พี่จิ้มลิ้มหลับให้สบาย...

ถึง ความเห็นที่ 12 กนกศักดิ์ ศุภพิมล ผมเคยเข้ารับการอบรมโครงการเยาวชนสัมพันธ์ เมื่อปี 2532 ที่ค่าย รร.วัดราชโอรส โดยอยู่กลุ่มสีส้ม ซึ่งปีนั้นทางโรงเรียนร่วมกับตำรวจจัดโครงการนี้เพื่อเป็นการปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ชั้น ม.1 และ ม.4 แม้ว่าเวลาจะผ่านมา 20 ปีเต็มแล้วแต่ถ้าจำไม่ผิดก็เป็นเยาวชนสัมพันธ์ รุ่นที่ 80-81

ผมจำได้ไม่มีวันลืมกับวิทยากรผู้สร้างความประทับใจในการพูด ท่วงท่าลีลาการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าอบรมให้รู้สึกสนุกสนานแต่ไม่ขาดซึ่งเนื้อหาสาระ ความรู้และการพอกพูนประสบการณ์ที่ผู้อบรมจะได้รับ และสิ่งสอดแทรกที่สำคัญ คือ ความกตัญญูต่อบุพการี ผู้มีพระคุณ ซึ่งวิทยากรผู้นั้น คือ พี่จิ้มล้ม หรือ ด.ต.ธวัช ขอเพิ่มกลาง เมื่อมาทราบข่าวว่า พี่จิ้มลิ้ม ได้จากเราไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ จึงรู้สึกใจหาย เสียใจมากครับ แต่ก็เป็นธรรมดาของโลก มีการเกิดขึ้น ดำรงอยู่ และก็ต้องจากไป

สุดท้ายนี้ ขอให้คุณความดีที่พี่จิ้มลิ้ม ได้สร้างสมเอาไว้ ส่งผลให้พี่มีความสุขในสัมปรายภพตลอดชั่วนิรันดร์ และครอบครัว ญาติพี่น้องของพี่จิ้มลิ้มจงมีความสุขตลอดไป

ยุทธพงษ์ ผู้เข้าอบรมโครงการเยาวชนสัมพันธ์ เมื่อปี 2532

สวัสดีครับกระผมชื่อกายครับ ผมตอนอยู่ค่ายอยู่สีฟ้าครับ พี่เลี้ยงครูฝึกของสีฟ้าชื่อ พี่หลิว พี่เนตร พี่กลิ้ง พี่ๆทุกคนก็น่ารักกันหมดเลยครับที่ผมชอบมากที่สุดคือพี่เหินฟ้า*(o_o)*เเละพี่หลิวเเละพี่กลิ้งเเละพี่เนตรครับ  อู๊ดๆอี๊ดๆอี๊ดๆอู๊ดๆเเปลว่า......ใครที่ไม่ใช่เยาวชนสัมพันก็จะไม่รู้ว่ามันเเปลว่าอะไร

**********จากเด็กค่ายเยาวชนสัมธ์พันที่ภูเก็ตครับ*****************

เอ้า...พี่จิ้มลิ้มเสียละหรอครับ....อะไรกันพี่จิ้มลิ้มยังมาอยู่ค่ายกับพวกเราเมื่อ2เดือนที่เเล้วอยู่เลย...ที่จ.ภูเก็ตอะครับทำไมพี่จิ้มลิ้มจากพวกเราไปเร็วเหลือเกิน.......ผมว่ามันต้องไท่จริงอ่ะเป็นไปไท่ได้พี่จิ้มลิ้มออกจะเป็นคนดีซะขนาดนั้นอ่า

เรื่องนี้ถึงมันจะจริงหรือไม่จริงขอให้พี่จิ้มลิ้มรู้ไว้นะครับพวกเราเด็กค่ายเยาวชนสมพันยังมีพี่จิ้มลิ้มอยู่ในใจเสมอ

จากเด็กค่ายเยาวชนสมพันจ.ภูเก็ต

ผมรู้จักและเรียนรู้กระบวนงาน ของพี่จิ้มลิ้มหลังจากที่ท่านเสียไปแล้ว...นับแต่นี้ ผมจะพยายามสร้างสรรค์งาน เช่นที่ท่านทำ ให้แก่เด็กและเยาวชน ...เท่าที่กำลังความสามารถจะมี..ขอให้พี่จิ้มลิ้ม ครู ผู้มีแต่ให้ ไปสู่สุคติ

ตอนทีมเยาวชนสัมพันธ์อบรมมาพังงา 2 รุ่น พี่จิ้มลิ้มจากไปแล้วไม่เจอค่ะ เป็นพี่เหิรฟ้ามาแทนที่เป็นคนพูดดำเนินการทุกอย่าง ก็ได้มีการพูดและบอกเล่าเรื่องพี่จิ้มลิ้มให้ฟังด้วย เพลงสนุกทุกเพลงโดยเฉพาะเพลงที่พี่จิ้มลิ้มแต่ง(พระคุณพ่อแม่) ชอบพี่ๆวิทยากรทุกคน กิจกรรมดีมาก อยากให้มาอีกนะคะ อบจ.พังงา คงมีโครงการอีกแน่ๆ ......จากน้องๆ อบจ.พังงา

กอล์ฟเป็นพี่เลี้ยงสีเหลืองค่ายเยาวชนสัมพันธ์ที่ภูเก็ตค่ะ พี่ยาวหรือพี่เอครูฝึกเล่าเรื่องความเสียสละของพี่จิ้มลิ้มให้ฟังแล้ว

แต่ตอนที่รู้จักพวกพี่ๆ พี่จิ้มล้มเสียชีวิตไปแล้วค่ะ เลยเป็นหน้าที่ของพีสะตอแทน เท่าที่สัมผัสและรู้สึก รู้สึกดีกับเครื่องแบบ

ตำรวจไทยขึ้นมากค่ะ กับการเข้าค่าย 5 วัน ไม่รู้ว่าเด็กๆจะเปลี่ยนไปยังไงบ้างแต่ที่รู้ๆ คือก่อนครูฝึกกลับเด็กๆร้องไห้กันระงม

ถ้าตำรวจไทยทุกคนเสียสละเหมือนพี่ๆครูฝึก ค่ายเยาวชนสัมพันธ์ก็คงดีนะคะ ถ้ายาเสพติดหายไปได้จริงๆก็คงจะดี พี่เลี้ยงทุกคน

น่ารักมาก ทั้งพี่จิ๊บ พี่เหลิม พี่ปุ๊ พี่เหลา พี่ใหญ่ พี่แหย พี่บอย และที่สำคัญ พียาวววววว 55555 ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกัน

อีกนะคะพี่ๆ

ครับผมก็เป็นคนคนหน่ึงที่เป็นทั้งลูกศิษ ลูกน้อง และเพื่อนร่วมงานของพี่จิ้มลิ้ม อยู่กับแกมากกว่าอยู่บ้านเสียอีก ถึงพี่แกจะไม่สอนอะไรผมแต่สิ่งที่ผมได้รับคือประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก และไม่เพียงแต่ผมคนรอบข้างและน้องๆที่เหลือทุกคนก็ได้รับเช่นกันผมคิดว่าจากการลำบากตรากตรำ ผ่าร้อนผ่านหนาว และอุปสรรคต่างๆมาด้วยกันกับพี่จิ้มลิ้ม ทำให้ทีมงานนี้มีความแข้มแข็งและกลมเกลียว(พี่จี้มลิ้มปลูกฝังให้เราโดยเราไม่รู้ตัว)ถึงแม้วันนี้จะไม่มีพี่จิ้มลิ้มแล้วแต่ยังมี พี่เหิร พี่สะตอ พี่ต้น พี่ใหญ่ พี่เล็ก พี่จ๊าบไอ้ยาวและน้องๆอีกมากที่รักในเยาวชนสัมพันธ์จะยังขับเคลื่อนต่อให้โครงการนี้อยู่คู่กับกองบัญชาการตำรวจนครบาลตลอดไป ถ้าพี่แกได้ยินที่ผมพูดผมคงบอกแกว่า "พี่ตายไปก็จริง แต่เยาวชนสัมพันธ์ไม่ได้ตายไปกับพี่นะครับ เพราะมันยังอยู่กับน้องของพี่ครับ"

คิดถึงพี่จิ้มลิ้ม เลยหาใน google ถึงได้เจอ และพบว่าพี่เค้าเสียแล้ว ใจหายเหลือเกิน ครั้งนั้นที่ได้อบรมเยาวชนสัมพันธ์ ที่ รร.ศรีวิกรม์ น่าจะปี 2526 หรือ 2527 ประมาณนี้ หลายปีมากแล้ว ยังจำพี่จิ้มลิ้มได้มีลืม ในคำสังสอน และมิตรภาพที่ดีระหว่างเยาวชนในเขตพระโขนงด้วยกัน คิดถึงทุกคน คิดถึงมาก และขอระลึกถึงพี่จิ้มลิ้มตลอดไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท