ขณะที่ การแบ่งปันความรู้ความชำนาญ เทคโนโลยี และซัปพลายทางการแพทย์อย่างเปิดกว้างระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจน ก็เป็นเรื่องสำคัญ และเป็น เส้นทางที่เป็นไปได้มากที่สุดเส้นหนึ่งสู่ความมั่นคงด้านสุขภาพทั่วโลก นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา ได้พบโรคใหม่ๆปีละ 1 โรคหรือมากกว่า ซึ่งเป็นอัตราที่ ไม่เคยมีมาก่อน โรคภัยคุกคามอื่นๆที่มีมายาวนานหลายร้อยปี เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้มาลาเรีย และวัณโรค ก็ยังแพร่ระบาดอยู่ เนื่องจากเชื้อกลายพันธุ์มาผสมกัน, เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะมากขึ้น และระบบสาธารณสุขก็อ่อนแอ สำหรับ ช่องว่างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในภาคบริการสาธารณสุขในหลายๆประเทศเกิดจากความยากจนหรือการขาดการลงทุน ซึ่งทำให้ระบบตาข่ายความปลอดภัยทั่วโลกอ่อนแอลงอย่างมากการสาธารณสุขและการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องจำเป็น ไม่เพียงต่อการรักษาและการป้องกันเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต่อการตรวจพบภัยคุกคามใหม่ๆ เช่น การเกิดโรคระบาด, โรคภัยใหม่ๆ, การโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพ ตลอดจนปัญหาสุขภาพที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม รายงานยกตัวอย่างวิธีปฏิบัติ 3 วิธีที่ช่วยกำจัดโรค อาทิ กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง อหิวาตกโรค ไข้ทรพิษ ซึ่งก็คือ การกักกันพาหะนำโรค, การทำสุขาภิบาลให้ดีขึ้น และการให้ภูมิคุ้มกัน โดยทั้ง 3 วิธี มีการปฏิบัติแยกกัน แต่ก็ประสบความสำเร็จทั้งหมดเมื่อมีการปฏิบัติกันเป็นสากลในปีนี้ ฮูยังได้ประกาศใช้ "ระเบียบข้อบังคับด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ" ฉบับใหม่ที่มุ่งให้สมาชิกทั้ง 193 ประเทศ มีการตอบโต้ภัยคุกคามด้านสุขภาพสำคัญๆอย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้น ทั้งในประเทศของตนและในต่างประเทศ
สำหรับประเทศไทย นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชนชาวไทยว่า มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วควบคุมโรคในการรุกเข้าไปในพื้นที่ ที่ได้รับรายงานสถานการณ์โรคที่ผิดปกติในทุกจังหวัด ซึ่งมีอาสาสมัครสาธารณสุขเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวังทำหน้าที่ส่งสัญญาณหากมีสิ่งที่ผิดสังเกต ทั้งนี้การรายงานโรคนั้น ทางกระทรวงได้ปรับเปลี่ยนวิธีการรายงาน จากเดิมที่เคยรายงานเป็นชนิดของโรคให้เป็นการรายงานกลุ่มอาการโรคที่ผิดปกติแทน ซึ่งทางกระทรวงไม่เพียงแต่มีแผนการเฝ้าระวังควบคุมโรคในประเทศเท่านั้น แต่ยังประสานการทำงานกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ทั้งลาว กัมพูชา และพม่า เพื่อร่วมกันจัดทำระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ตลอดจนการควบคุมโรค เนื่องจากขณะนี้การควบคุมโรคไม่สามารถดำเนินการโดยประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพังได้ เนื่องจากเมื่อเกิดการระบาดของใดก็ตาม สามารถแพร่กระจายไปทั่วได้อย่างรวดเร็ว สำหรับโรคที่เป็นห่วงขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรคซาร์ส อีโบล่า โรคไอพีดีที่ก่อให้เกิดอาการปอดอักเสบในเด็ก รวมถึงโรคไข้หวัดนกที่ยังคงมีการรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้ยังอยู่ในการระบาดระดับที่ 3 ที่เป็นการระบาดจากสัตว์สู่คน ทั้งหมดไม่มีใครรู้ว่าโรคใดที่จะก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต และได้กล่าวเพิ่มเติมว่า“ในเรื่องการควบคุมโรคนั้น ไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีการวางระบบการเฝ้าระวังที่ดีและมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรค โดยมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ที่มีการระบาดของโรคซาร์ส แต่ที่สำคัญจะต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะในช่วงที่โรคสงบลง อย่างไรก็ตามเรามีปัญหาที่ว่าขณะนี้ไม่รู้ว่าโรคที่จะระบาดนั้นจะเป็นโรคใด ซึ่งจะเป็นข้อมูลเพื่อใช้เตรียมความพร้อมในการรับมือมากยิ่งขึ้น” และยังมีการประสานกับองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด โดยมีการนำเชื้อโรคที่มีความผิดปกติส่งตรวจยังห้องปฏิบัตการเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของเชื้อ นอกจากโรคอุบัติใหม่แล้ว โรคที่มีอยู่เดิม ทั้งมาลาเรีย และวัณโรค ยังเป็นปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะวัณโรค แม้ว่าจะเป็นโรคที่รู้จักกันมานาน แต่โรคนี้ก็ยังมีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคอยู่ ทั้งนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกองค์กรโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เข้ามีส่วนร่วมในการควบคุมโรค
ถึงแม้สถานการณ์จะเป็นอย่างไร หากเรามีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อนก็จะสามารถรับมือได้ กับทุกเหตุการณ์ที่เกิดจะขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ขอให้ทุกท่านได้มีความรู้เท่า รู้ทัน รู้ป้องกันเอาไว้ก่อน มีความตระหนัก ที่ไม่ตื่นตระหนก เป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ได้ทุกเมื่อ นะครับไม่มีความเห็น