ศิษย์หลวงพ่อเปิ่น


       พอดีวันนี้ดูทีวีและเห็นคำว่า ศิษย์หลวงพ่อพูล ทำให้นึกถึงตัวเองก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อหลายรูปที่นับถือ จากการที่เป็นเด็กฝั่งธนฯ ก็จะมีหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อเปิ่น และหลวงพ่อทวีศักดิ์ เป็นต้น

       หลวงพ่อที่ผู้เขียนจะพูดถึงวันนี้ คือ หลวงพ่อเปิ่น ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ แม่ของผู้เขียนพาไปไหว้หลายครั้งเหมือนกัน ช่วงนั้นผู้เขียนยังไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับวงการพระสักเท่าไหร่ ไปมาทีก็เช่ามาเก็บไว้นิดหน่อย ส่วนมากชอบเช่าพระราคาไม่แพงและของเมตตามหานิยม ช่วงที่ไปไหว้ท่านนอนอยู่ในห้องกระจกมองเห็นได้ บางทีท่านเดินผ่านมาเข้าห้องน้ำ ผู้เขียนกับน้องสาวพาสุนัขพุดเดิ้ลไปเที่ยวด้วยจึงอุ้มขึ้นไปที่กุฏิให้เช่าพระด้วยเพราะเห็นว่าตัวเล็กและจับแต่งตัวไปอย่างดีคือใส่เสื้อร องเท้า และหามุมไกลๆ คน กลัวไปเห่าใครเขาและเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ในวัดจะว่าเอา      

       หลวงพ่อเปิ่นเดินผ่านมาแวะเพ่งมองจูเนียร์และถามว่า นี่ตุ๊กตาเหรอ น้องสาวตอบไปว่า สุนัขค่ะท่าน หลวงพ่อเปิ่นก็ไม่ว่าอะไร ดังนั้น ทุกครั้งที่ไปไหว้ท่าน ก็เอาเจ้าจูเนียร์ไปด้วยทุกครั้งเพราะถือว่า ท่านเห็นแล้วก็ไม่ว่าอะไรแล้วจูเนียร์เป็นสุนัขพุดเดิ้ลทอยที่น่ารักมากด้วยใครเห็นก็รักกันทั้งนั้น เรื่องนี้เวลาใครพูดถึงหลวงพ่อเปิ่น แม่ก็จะเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังกัน เสียดายที่หลวงพ่อจากไปเร็ว ช่วงหลังแม่เลยไม่ค่อยได้ไปแล้วประกอบกับช่วงนี้แม่ก็อายุมากขึ้นเดินไม่ค่อยแล้วเช่นกัน จึงไม่ค่อยได้ไป ถึงแม้ว่าจะยังมีศพท่านอยู่ก็ตาม      

       พูดถึงความอภินิหารของหลวงพ่อเปิ่น ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แม่เช่าพระมาห้อยที่คอ 1 องค์ และแม่มีนัดต้องไปหาหมอตลอด ช่วงที่พยาบาลต้องเจาะเลือดไปตรวจ แม่บอกว่าพยาบาลพยายามเจาะเลือดเท่าไหร่ก็เอาเข็มแทงไม่เข้าเนื้อ แม่ก็งง! เพราะตัวเองก็ห้อยพระหลายองค์ (แม่ไม่ได้สนใจเรื่องพระในคอเลย) จนเจ็บแขนแล้วก็คงนึกขึ้นมาได้ว่า เช่าหลวงพ่อเปิ่นมาห้อยที่คอ จึงขอพยาบาลถอดสร้อยออกจากคอก่อนและขออนุญาตหลวงพ่อเปิ่นให้พยาบาลเจาะเลือดไปตรวจได้ ก็สำเร็จ ทำให้แม่ศรัทธาท่านมาก ผู้เขียนฟังแล้วก็ทึ้ง! ว่าเป็นไปได้ด้วยเหรอ แม่ไม่ได้เล่นของสักหน่อย เพียงแต่แม่เป็นคนดีไม่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แม้เลี้ยงสุนัขกับแมวก็ไม่เคยตี  มีอยู่หลายครั้งที่ไปและเห็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเปิ่นที่สักรูปสัตว์ตามตัวและของขึ้นเมื่อเข้าไหว้ท่าน เห็นแล้วทึ้งมาก     

       ผู้เขียนเลยอุ่นใจเพราะในรถก็ห้อยพระหลวงพ่อเปิ่นไว้เหมือนกันคือ เวลาไปวัดไหนมาชอบเช่าพระที่เขาทำไว้แขวนหน้ารถ มาห้อยที่รถเวลาขับรถกลับบ้านมืดๆ ก็จะอุ่นใจว่ามีหลวงพ่ออยู่เป็นเพื่อนไม่ใช่องค์เดียวนะมีองค์อื่นด้วยจะได้อุ่นใจเพราะถนนแถวบ้าน แต่ก่อนมีผู้หญิงถูกฉุดเข้าพงหญ้าข้างทาง ข่มขืนและฆ่าด้วย เวลาดึกๆ ชอบมีคนเห็นผี และมาเล่าให้ฟังต่อๆ กัน จุดนั้นบ้าง จุดนี้บ้าง ก่อนถึงบ้านทั้งนั้น ก็ขับรถมาดีๆ ขับชนต่อม่อบ้าง รถชนกันบ้าง เขาเล่ากันว่า คนตายคนใหม่มาแทนคนเก่าจุดใกล้ๆ กันด้วย ไม่กลัวก็เกรงจะเห็นเหมือนกัน 

       แต่ช่วงหลังแถวฝั่งธนฯ ถนนตัดใหม่เยอะมากและมีร้านค้า หมู่บ้านมาปลูกกันมาก ความน่ากลัวก็ลดน้อยล งแต่กลับมีโจรมาจี้ปล้นแทน โดยเฉพาะหลังบ้านของผู้เขียนพ่อจะทำหลอดนีออนติดตั้งไว้ช่วงทางเดินสองดวงเปิดไว้ให้ทั้งคืนเพราะด้านหลังบ้านเป็นเขื่อนเหมือนเป็นทางลัดให้คนเดินเท้าลัดเข้ามาในซอยแทนที่จะต้องเดินในถนนด้านนอกซึ่งเป็นทางไกลไม่มีคนเดินพลุ่กพร่าน แต่ถ้าเดินผ่านหลังบ้านผู้เขียนได้จะเป็นซอยซึ่งมีร้านค้าเปิดตอนกลางคืนด้วยทำให้เดินแบบไม่น่ากลัว จะเสี่ยงก็แค่ช่วงเดินหลังบ้านผู้เขียนเท่านั้นที่อาจมีคนมาแอบอยู่หรือทำเป็นเดินสวนแล้วกระชากสร้อยกับกระเป๋าไปพอตกเย็นพ่อก็จะสั่งแล้วว่า อย่าลืมเสียบไฟฟ้าให้คนเดินด้านหลังบ้านด้วย 

       ฝั่งธนฯ มีสถานที่น่าเที่ยวเยอะไม่ว่าตลาดน้ำวัดไทร หรือโน้นเลยตลาดน้ำลำพญา แต่ก่อนที่ไปยังไม่เจริญ รถสามารถเข้าได้ถึงที่ แต่เดี๋ยวนี้ต้องส่งแม่ก่อนแล้ววนไปหาที่จอดไกลมาก ยิ่งเทศกาลหมดสิทธิ์ไม่ต้องไป จึงเป็นคนแถวนี้ก็จริงแต่ขอยอมแพ้ความเจริญถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ไป ส่วนมากที่ไปคือไปซื้อไข่ไก่จากฟาร์มแถวลำพญาเพราะสดใหม่อยู่ได้นาน และบางทีเหมือนพาแม่ไปนั่งรถเที่ยว แต่ช่วงนี้อยู่บ้านดีกว่าดูทีวี ดูข่าวคราวบ้านเมืองช่วงนี้น่าติดตามมีหลายพรรคเหลือเกิน ต้องศึกษานโยบายของพรรคจะได้พรรคดีมีคุณภาพมาบริหารบ้านเมืองของเรา

                      

หมายเลขบันทึก: 122053เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2007 17:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท