บ่อยครั้งที่เรามักจะพูดสิ่งต่าง ๆ แต่น้อยครั้งที่เราจะคำนึงถึงว่าคำพูดของเรานั้นเป็น ปิยวาจา หรือคำพูดที่น่ารัก หรือไม่ ในพระพุทธศาสนานั้นได้กำหนดคุณลักษณะของ ปิยวาจา ได้ 5 ประการ [1] ซึ่งได้แก่
(๑) เป็นคำพูดที่เหมาะแก่เวลา สถานการณ์
(๒) เป็นคำสัตย์ คำจริง
(๓) เป็นคำพูดเพื่อสมัครสมานสามัคคี
(๔) เป็นคำพูดที่มีประโยชน์ต่อผู้ฟัง
(๕) เป็นการพูดด้วยเมตตากรุณา
หากพิจารณาเช่นนี้แล้ว เราก็เข้าใจแล้วว่าคนที่ปฏิบัติธรรมหลายท่าน ทำไมท่านจึงพูดน้อย ต่อไปนี้ หากจะพูดอะไร เราก็จะพยายามถามตนเองว่า คำพูดนั้นเหมาะแก่เวลาไหม เป็นคำจริงไหม เป็นคำพูดเพื่อความสามัคคีไหม เป็นคำพูดที่มีประโยชน์ต่อผู้ฟังไหม และเป็นการพูดด้วยความเมตตาไหม
อ้างอิง
[1] http://www.watraja.org/index.php?option=content&task=view&id=165&Itemid=51&limit=1&limitstart=1
สวัสดีจ้ะน้องต้อม
หายไปตั้งนาน สบายดีมั้ยจ๊ะ ?
ปิยวาจา ้ 5 ประการ [ได้แก่(๑) เป็นคำพูดที่เหมาะแก่เวลา สถานการณ์
(๒) เป็นคำสัตย์ คำจริง
(๓) เป็นคำพูดเพื่อสมัครสมานสามัคคี
(๔) เป็นคำพูดที่มีประโยชน์ต่อผู้ฟัง
(๕) เป็นการพูดด้วยเมตตากรุณา
ชอบจริงๆจ้ะ..ถ้าเราสามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาทุกการสื่อสาร คงจะดีมากๆเลยนะจ๊ะ..
ขอบใจมากจ้ะที่เอาเรื่องราวดีๆมาฝากอย่างสม่ำเสมอเลย..
สวัสดีค่ะ คุณ นม. ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่เบิร์ดและคุณขจิต
พออ่านคำทักทายของพี่เบิร์ดและคุณขจิต ก็ทำให้ต้อมเกิดรอยยิ้มในใจ ขอบคุณมากค่ะสำหรับความคิดถึง ไม่ได้หายไปไหนคะ จริง ๆ ก็ยังแวะเข้ามา gotoknow.org แต่ไม่ค่อยได้เขียนอะไร เพราะอยากเขียนอะไรที่แน่ใจว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านจริง ๆ
เดี๋ยวต้อมจะเข้าไปเยี่ยมที่บล็อกของพี่เบิร์ดและคุณขจิตค่ะ