คุณบังอร คงขำ ผู้แทนชุมชน ได้เล่าถึงกลุ่มพัฒนาชุมชน สินค้า OTOP ที่ชุมชนร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร
กลุ่มพัฒนาชุมชน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2547 โดยการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและมีการลงหุ้นของชาวบ้าน หุ้นละ 10 บาท ได้เงินลงทุนตั้งต้น 78,000 บาท เริ่มต้นทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้บอกสูตรในการทำการแปรรูปสมุนไพรไทย เช่น การแปรรูปดอกอัญชัญ มะกรูด เป็นยาสระผม ครีมนวดผม น้ำยาล้างจาน สบู่เหลว แฮร์โค๊ท เป็นต้น จากผลการดำเนินการ 1 ปี ชาวบ้านได้เงินปันผลคืน ร้อยละ 36 ในปี พ.ศ. 2547 ได้รับรางวัล สินค้า OTOP ระดับประเทศ สี่ดาว และมีการขยายการผลิต โดยได้มีการเช่าโรงเรือน และหาสมุนไพรเพื่อมาแปรรูปเพิ่มโดยเน้นการซื้อสมุนไพรจากสมาชิก ในปีถัดมาได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นและมีเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 158,400 บาทและในสิ้นปีที่ 2 สมาชิกได้เงินปันผลร้อยละ 44 (จนถึงขณะนี้กลุ่มได้เข้มแข็งขึ้นและมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 69 คน) นับว่าเป็นการนำความรู้ที่ได้จากมหาวิทยาลัยมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับและได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา จากการสุ่มตรวจ 2 ครั้ง <p> นอกจากนี้ยังมีธนาคารให้ความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนโดยการให้กู้ด้วยวงเงินสูงถึง 500,000 บาท แต่ทางกลุ่มไม่กู้เนื่องจากมีสมาชิกมาลงหุ้นเพิ่มจำนวนมาก</p> คุณบังอรกล่าวถึงปัจจัยในความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการนำความรู้ที่ได้จากการอบรมจากมหาวิทยาลัยนเรศวรไปปฏิบัติจริง ทำให้เศรษฐกิจในชุมชนดีขึ้น และผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา และความภาคภูมิใจของคุณบังอรคือ ทำให้ความเป็นอยู่ของสมาชิกดีขึ้น สินค้าที่ผลิตได้รับความสนใจและประสบผลสำเร็จ 80% กรมส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์คัดเลือกให้ไปดูงานที่ญี่ปุ่น และการได้รับเลือกให้เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตัวอย่างของจังหวัดพิษณุโลก <p> แต่ทางกลุ่มก็ยังประสบปัญหาในการดำเนินงานกล่าวคือ สูตรที่ได้รับครั้งแรกเป็นสูตรที่ใช้สำหรับทำในครัวเรือนคือทำในปริมาณน้อย แต่ในการปฏิบัติจริงๆ ต้องใช้จำนวนมากทำให้เกิดความผิดพลาดในการทดลองทำครั้งแรก อีกทั้งยังขาดผู้นำและทีมงานที่เข้มแข็งมีความรู้ไม่เพียงพอ</p><p></p><p> </p><p> </p>
เป็นกลุ่ม ธุรกิจชุมชน หรือว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนครับ
ที่คณ บังอรได้เล่าถึง อยากทราบ
ในขั้นต้นคุณบังอรเล่าว่าเป็นเพียงกลุ่มสหกรณ์เล็กๆ ในชุมชนค่ะ แต่ในปัจจุบันได้รับการยกย่องจากทางจังหวัดให้เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตัวอย่างค่ะ