มราบรีไม่มีที่ไป


ชีวิต...ความต้องการ อยู่รอด หรือเพื่อความ...ร่ำรวย..ตามระบบทุนนิยม
              วันพุธที่ 22 ได้ขึ้นไปตามเรื่องที่ไม่มีความชัดเจน  5 เรื่อง คือ เรื่องการย้ายไปบ้านท่าวะ 11 คนนั้น คือใครบ้าง เพราะอะไร เรื่องที่สอง เรื่องการขุดปรับที่เพื่อสร้างบ้านของนายสมศักดิ์และทศพร ถูกเรียกค่าเสียหายในที่ดินจริงหรือไม่ เรื่องที่ 3 เรื่องควายไล่ชนพี่น้องมราบรีจริงหรือไม่ เรื่องที่4 เรื่องควายของพี่น้องมราบรีไปกินข้าวโพดของพี่น้องม้งถูกปรับจริงหรือไม่ และเรื่องสุดท้ายการโยกย้ายไปที่แห่งใหม่พี่น้องมราบรีมีความเห็นอย่างไร                 ออกเดินทางจากบ้านถืมตอง หมู่ 1 เวลา 08.12 นาที ตั้งใจจะขึ้นไปให้เร็วเพราะดูท้องฟ้าแล้วฝนตกแน่ๆ และฝนก็ตกจริงๆ ไปถึงทางแยกเข้าบ้านปางเป๋ย ฝนตก ไม่หนักเท่าไหร่พอลุยไปได้ ไปถึงชุมชนมราบรีเวลา 09.30 น. ไปถึงชุมชน พบนายลองกำลังซ่อมน้ำปะปาอยู่ขณะที่มีลูกน้อยที่หลับมัดติดหลังด้วย ตาลองบอกว่าไม่มีน้ำใช้ แวะช่วยตาลองซ่อมน้ำเสร็จแล้วจึงนั่งคุยกัน ณ ที่ซ่อมน้ำ จึงทราบว่าวันนี้พี่น้องมราบรีเข้าป่าไปเก็บหน่อไม้ 6 คน มีนายเหมย นายสี(สูง) นายจันทร์ นายสมุทร นายไกรและนายพจน์ไปแต่เช้ากลับคงเป็นเวลา เย็นๆ ไปไกลมาก เอาหน่อไม้มาขายให้ม้งกิโลกรัมละ 5 บาท (ในขณะที่ในตลาดในเมืองน่านกิโลกรัมละ 15บาท)                                 ที่ชุมชนมีเด็กๆ ไม่ไปโรงเรียน เท่าที่ได้พูดคุยด้วย มีเดือน,ดาว(ลูกตาจันทร์) แมร์ (ลูกตาชา) เซา,ซัว (ลูกตาธง) ดารา(ลูกตาวง) ถามเด็กๆว่า ทำไมไม่ไปโรงเรียน เดือนถามย้อนมาว่า ครูทำไมทุกคนขึ้นมาก็จะถามว่าทำไมไม่ไปโรงเรียน อึ้งครับกับคำถามของเดือน....นั่งคุยจึงทราบว่าทุกคนป่วย(การเมือง) ป่วยโดยที่ไม่อยากไปโรงเรียนในวันพุธ เพราะวันพุธต้องแต่งชุดลูกเสือ(ชาย)และหญิงต้องแต่งชุดยุวกาชาด เด็กๆไม่มีรองเท้าผ้าใบและไม่อยากแต่ง เมื่อไม่แต่งครูก็จะดุด่า เมื่อถามถึงกาเรียนการสอนเป็นอย่างไรบ้าง เด็กๆบอกว่าครูบางคนก็สอนสนุก เล่าเรื่องหลายเรื่องให้ฟังเช่นเรื่องดวงอาทิตย์ ดวงดาว พระจันทร์บนท้องฟ้า แต่ครูบางคนก็พูดไม่เพราะด่าเก่ง                 แวะไปคุยกับดาม(ผู้ดูแลเด็กเล็ก)ได้ถามถึง 7 คนที่ทางสาธารณสุขรายงานว่าน้ำหนักเด็กต่ำกว่าเกณฑ์นั้นลูกใครบ้าง ได้รับค้ำตอบคือไม่รู้ไม่มีข้อมูล ตอนนี้ครูดามมีคนมาช่วยอีก1คน และได้บอกครูดามว่าวันอังคารหน้าจะขึ้นมานอน ขออนุญาตนอนที่ศูนย์ด้วย ครูดามสงสัยและได้ถามว่ามานอนทำอะไร ไม่ได้ตอบครูดาม...                ไปนั่งคุยกับตาลองที่บ้านตาลองได้ถามถึง11คนที่ย้ายไปท่าวะนั้นมีใครบ้าง จริงๆแล้วทั้ง11คนได้อาศัยอยู่ที่ท่าวันก่อนหน้านี้นานแล้ว และได้ย้ายปลายทางซึ่งเรื่องนี้ตาลองไม่รู้เรื่องเลย ขณะที่นั่งคุยกันผู้หญิง 3 คนที่เอาควายไปมัดมาสมทบวงพูดคุยกัน มี หล้า(ภรรยาเซ้ง) ซัว(ภรรยาตาชา) และน้อย(ภรรยาตาลอง) พงษ์ลูกของตาลองที่มัดติดหลังตอนซ่อมประปาท้องเสียถ่ายเป็นมูก ทำให้วงสนทนาแตกไปชั่วขณะ ถามถึง 11 คนและช่วยกันทบทวนว่าเป็นใครบ้าง มี อี๊ด อ๊อด(สองสาวลูกกำพร้าพี่สาวของอารีย์ที่บุญยืนยื่นเรื่องขอให้อุดม(ลูกบุญยืน)เป็นผู้อุปการะ) สองบาท(ลูกตาทอง-สามีของอิ๊ด) นภดล (สามีของอ๊อด) สร้อย(ลูกตาสีต่ำ) หว่าง (ลูกตาปา) มอญ(น้องของดา) อีแบยารามหล้า(แม่ของมอญภรรยาคนที่ 1ของตาสีสูง) มอญ(ภรรยาคนที่1ของสีสูง)และกุ๊ (พ่อของตาเก๋อ) ซึ่งแต่เดิมทั้งหมดนี้ก็อาศัยอยู่ที่ท่าวะอยู่แล้วแต่ทะเบียนบ้านอยู่ ที่ห้วยหยวก                ได้ถามในวงสนทนาถึงเรื่องควายที่ดุไล่ชนพี่น้องของเรา ตาลองเริ่มอธิบายด้วยท่าทางประกอบอย่างเร้าใจ ตาลองบอกว่าน่ากลัวมากควายตัวผู้ตัวนี้มันดุมากตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ และถ้าใครเข้าใกล้มันจะหายใจแรงๆใส่น่ากลัว และที่มันชนนั้นชน จั๊วะ(ภรรยาคนที่2ของเก๋อ)จะไปหยิบเชือกเพื่อเอามันไปมัดมันกระโดดใส่หัวของควายโดยไม้  ไม้แหลกเป็นชิ้นเล็กๆและเขามันโดนที่ท้องของจั๊วะถลอก ตอนนี้ก็ยังมัดอยู่ที่ป่า และตาลองเล่าต่อว่าควายตัวนี้แหละที่เข้าไปกินข้าวโพดของนายวิโรจน์ ซึ่งไม่มีใครกล้ามัดมันจึงเข้าไปกินข้าวโพด ไม่มาก แต่นายวิโรจน์เรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 1,500 บาท ควายตัวนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของเพราะเป็นพ่อพันธุ์ ดังนั้นการถูกปรับทุกหลังคาเรือนจึงต้องเก็บเงินหลังคาละ50บาทให้นายวิโรจน์ ถ้าไม่ให้จะเพิ่มเป็น2พัน นายวิโรจน์เป็นผู้เก็บเงินเอง กรณีควายกินข้าวโพดของพี่น้องม้งเมื่ออาทิตย์ก่อนควายของนายพัฒน์ก็กินข้าวโพดของเมียเล่าเก้า กินทั้งคืนกว้างเกือบ2เมตรยาวเกือบ10เมตรเขาไม่คิดเงินเพราะรู้ว่าตาพัฒน์ไม่มีเงินแต่เมื่อตาพัฒน์ได้ข้าวโพดขอข้าวโพด1กระสอบ                สำหรับเรื่องการขุดที่เพื่อปรับที่เพื่อสร้างบ้านของสมศักดิ์และทศพรนั้นนายวิโรจน์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและได้ทำเอกสารมอบที่ดินดังกล่าวให้ตองเหลืองแล้วเรียกร้องค่าเสียหายในการขุดดินเป็นเงิน3,000 บาท ในกรณีนี้สมศักดิ์และทศพรเงียบอยู่และไม่มีเงินเสียค่าปรับจึงไม่มีการก่อสร้างต่อแต่อย่างใด                                   เกือบเที่ยงแล้วเห็นนายสุขสันต์เอาอาหารมาเลี้ยงพี่น้องมราบรีทั้งหมู่บ้าน เป็นแกงคั้วหมู ทุกคนก็รีบเอาถ้วยมารับอาหารแจกด้วยความรวดเร็ว ได้พูดคุยกันมี 3 คนกลุ่มเดิม เพิ่มนิด(ภรรยาตาสีสูง)และตาเล้ง พูดถึงเรื่องการย้ายที่อยู่ ซึ่งประเด็นเริ่มจากนายสุขสันต์เป็นผู้ถามว่า ครูมาสำรวจการย้ายที่อยู่ใช่ไหม (ทำให้นึกถึงคำพูดของเหมยที่บอกว่าเรื่องการย้ายไม่เห็นมีเจ้านายคนไหนพูดมีแต่ครูนั่นแหละที่พูดถึงเรื่องการย้าย) นายสุขสันต์บอกว่าต้องให้เป็นความสัครใจของพี่น้องตองเหลือง ตอนนี้เท่าที่พูดคุยพี่น้องตองเหลืองจะไม่ย้ายไปไหน เพราะชอบที่นี่ สำหรับที่ทำกินนั้นพี่น้องม้งก็แบ่งให้ทำแล้ว และบางส่วนมูลนิธิ(ของคริสต์)ก็ได้ซื้อที่ให้ทำกินแล้ว และตอนนี้คณะกรรมการหมู่บ้านกำลังพูดคุยกันเรื่องการเขียนโครงการเพื่อปรับผังการสร้างที่อยู่อาศัยว่าถ้าอยู่ที่นี่ต่อนั้นจะมีการพัฒนาอย่างไร และเหตุผลที่นายสุขสันต์เล่าถึงพี่น้องมราบรีที่ไม่อยากย้ายไปไหนคือ ที่อื่นๆเช่นปางเป๋ย สองแคว บ่อหอย ห้วยไฟ ขุนสถาน บ้านปี้ พี่น้องไม่อยากไปอยู่เพราะผู้ชายชอบลังแกพี่น้องมราบรี(การขืนใจ) ที่พี่น้องมราบรีชอบอยู่ที่ห้วยหยวกเพราะคนห้วยหยวกไม่ลังแกผู้หญิงและที่สำคัญคือพี่น้องมราบรีรู้สึกดีคือมีชายมราบรีมีภรรยาเป็นคนม้งห้วยหยวก(นายสายปัจจุบันอยู่กับบุญยืน-เป็นพี่ของนายลอง-ภรรยาม้งคนนั้นได้ตายไปแล้ว)                                 ขึ้นไปเดินดูในหมู่บ้าน เห็นบ้านของตาพัฒน์มี ทีวี เป็นของนายโหล ที่ไปรับจ้างได้มา ดู ได้ ช่อง7 และช่อง11 ไม่ค่อยชัด ถัดจากบ้านนายโหลนายสีต่ำได้ปรับที่และตั้งเสาเพื่อเตรียมการสร้างบ้านใหม่(เดิมทีนายสีและนายประคองอยู่บ้านหลังเดียวกัน) และความเชื่อทั่วไปคือลูกเขยจะเป็นผู้แยกในการสร้างบ้านใหม่ แต่ในกรณีนี้นายสีเป็นพ่อตานายประคองเป็นลูกเขย ซึ่งพูดคุยกันนางซัวและนางลอย บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ถือกัน                                 ลงจากชุมชนเวลา 14.00 น. ระหว่างทางฝนตกหนักมากจนต้องพักหลบฝนที่ศาลาข้างถนน ขณะที่หลบฝนได้พูดคุยกับพี่น้องม้งคนบ้านปางเป๋ยที่หลบฝนด้วยกันถึงเรื่องพี่น้องมราบรี บอกว่ารู้จักพี่น้องมราบรีหลายคนเคยจ้างมาทำงานเหมือนแต่ม้งห้วยหยวกไม่อยากให้จ้าง ถ้าจ้างก็จะทะเลาะกันจึงไม่อยากจ้าง...กลับลงมาถึงบ้านเวลา15.30 น.   
หมายเลขบันทึก: 121470เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2007 10:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท