สวัสดีครับทุกๆๆท่าน วันนี้มีเวลาหน่อย หลังจากออกกำลังกายแล้ว ก็รอให้มันเย็นๆๆก็เลยมานั่งโพต์สเสียเลย จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกแบบหนึ่งครับ พวกเราเชื่อว่าพวกท่านทั้งหลายคงจะดูแลสุขภาพกันมากๆนะครับ ก็ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง จะได้อยู่สู้กับอนาคตอันศรีวิลัยต่อไป 55555 อะ.......วันนี้มาต่อกันเลยนะครับกับการทำสาโท ตอนที่สอง กะว่าจะให้มีสัก 3 ตอน แต่ที่ไหนได้มานั่งดูแล้ว มันยาวไปครับ ก็เลยตัดเอาเสียเลย ขอขยายเป็น 4 บทนะครับ จะได้น่าดูอ่านดี เพราะถ้าใส่มากเกินไปก็ดูไม่น่าอ่าน ถ้าสั้นเกินไปก็ขี้เกียจติดตาม ฮึๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
(ตอนที่ 2 ต่อจากตอนที่แล้วครับ)........
ขั้นตอนและวิธีทำสาโท
1. นำข้าวเหนียวเก่ามาแช่ในน้ำที่เตรียมไว้ 1 คืน
2. นำข้าวที่แช่ไว้นำไปล้างให้สะอาดแล้วสะเด็ดน้ำออกให้หมด
3. แล้วนำข้าวเหนี่ยวที่ล้างไว้แล้วนำไปนึ่งให้หมั่นดูว่าข้าวที่นึ่งสุกพอดีหรือไม่ ถ้าสุกพอดี ให้ดูตรงกลางของ ข้าวนึ่งให้มีแก่นพอดีก็นำลงมาพึงไว้ในโก๊ะข้าวให้เย็นก่อน อย่าลืมอย่าให้ข้าวที่นึ่งไว้สุกเกินไป ถ้าข้างสุกเกินไปจะทำให้ข้าวเหนียวหนึบเวลาอาไปผสมกับแป้งสาโท จะทำให้ไม่พอดี
4. นำแป้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาคลุกเคล้ากับข้าวที่นึ่งสุกแล้วให้ เข้ากันแล้วนำเอาไปใส่ในโอ่งที่เตรียมไว้และเติมน้ำเข้าไปประมาณ 6- 7 ลิตร และหมักไว้ในโอ่งแล้วนำเอาถุงพลาสติกปิดปากโอ่งไว้แล้วก็เอายางรัดปากโอ่งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อที่จะไม่ให้มีแมลงหรือเศษผงละอองต่างๆเข้าไปได้ และเพื่อความสะอาดและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน
การคัดเลือกแป้งหรือหัวเชื้อ(ยีสต์)
แป้งหัวเชื้อต้องมีลักษณะที่มีแมลงเข้าไปเจาะบ้าง จึงจะปลอดภัยเพราะหัวเชื้อที่มีแมลงเจาะจะไม่มีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ผลิตหัวเชื้อไม่ได้ มาตฐานและถูกหลักอนามัยเพราะมีสารพิษดีดีทีผสมอยู่หรือเป็นฆ่าแมลงจำพวกอื่นๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นทำให้ผู้บริโภคมึนเมาเร็วขึ้นซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก
การหมักหรือการดองที่ถูกสุขอนามัย
1. ล้างข้าวด้วยน้ำที่สะอาด
2. เก็บไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงแดด เพราะอาจจะทำให้รสชาติเปลี่ยนไป จะทำให้สาโทที่หมักออกมาไม่อร่อย
3. หมักไว้ประมาณ 1-3-7-1 ทดลองกันหลายครั้งตั้งแต่สมัยโบราณมักมีแต่การทำสาโทกินกันทั่วทุกบ้าน แต่สมัยก่อนนั้นถ้าหมักกันมากผิดกฎหมายแต่ปัจจุบันรัฐบาลสนับสนุนโดยให้มีการจดทะเบียนการหมักสาโทกันซึ่งก็กลายเป็นสินค้าโอท๊อบไปแล้ว เช่นการหมักลำไยเป็นไวท์ลำไย ไวท์องุ่น ไวท์หมากเม่าและไวท์อื่นๆอีกมากมาย
สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วอย่าลืมติอต่อตอนต่อไปนะครับ
ขอบคุณกลุ่มทาเหนือมากที่เอาสูตรและวิธีการทำไวน์พื้นบ้านมาเสนอ แต่ฝากทางกลุ่มทาเหนือช่วยผลิตไวน์มาให้ชิมบ้างนะครับ เพราะมีวัตถุดิบที่จะมาทำไวน์เยอะมาก ทำไว้เยอะ ๆ นะ เอาไว้เวลาเดินทางไปมหาลัย จะได้เอาติดมือไปด้วยไม่ต้องไปหาซื้อให้เปลืองเงินนะ.
ช่วงนี้รัฐบาลขึ้นภาษีเหล้าทุกชนิดทำให้เหล้ามีราคาแพง เป็นจังหวะที่กลุ่มทาเหนือแนะนำวิธีทำเหล้าแบบภูมิปัญญาชาวบ้านซึ่งจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายดีครับแต่ควรจะลดเหล้าบ้างนะครับ |
สาโทผมก็เคยทำครับอร่อยมาๆครับก็ทำไปตามสูตรนั้นแหละครับเอาข้าวเหียวมานึ้งแล้วผึ่งลมให้เย็นแล้าเอาข้าวเหนียวที่เย็นแล้วนำไปล้างแล้วเอามาคลุกกับลูกแป้งสาโทอัตราส่วนคือลูกแป้ง1ลูกต่อข้าวเหนียว1กิโลครับ
เรืองสาโทใครอย่ากรู้แอ็ดมาหาผมได้ครับจะบอกให้หมดเปลือกเลยครับรับรองอร่อยมากๆๆๆครับ (ฟันธง)
ขอบคุณสำหรับเทคนิคการทำไวน์