Chapter 9 วันลอยๆ


ผมต้องการให้ที่ทำงานเป็นโลกแห่งอุดมคติ เป็นที่ซึ่งแบ่งปันความสุข ความเข้าใจ และสร้างประโยชน์ที่แท้จริงให้กับสังคมที่เราอยู่

วันที่สิบห้าเดือนธันวาคม วันนี้ผมได้ไปสัมภาษณ์กับ Managing Director ชาวสิงคโปร์ตามคำเชิญของ Supplier รายนี้ หลังจากได้ตอบคำถามเพียงไม่กี่ข้อผมก็จับได้ว่าสิ่งที่เค้าต้องการคือคนที่มีประสบการณ์หรือคนที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ เขาได้ตัดบทถามผมว่าผมสงสัยอะไรไหมหลังจากที่เขาถามคำถามเพียงไม่กี่ข้อเพื่อแสดงว่าให้เห็นว่าเค้าไม่ได้สนใจเราแล้ว เป็นการตัดสัมพันธ์ที่สุภาพ ซึ่งหากจะมองในอีกมุมหนึ่งก็คือเขาต้องการดูว่าเราจะแก้สถานการณ์นี้ได้อย่างไร จริงๆ ถ้าผมตื๊อต่ออาจจะได้คุยกันยาวขึ้นและอาจจะทำให้เค้าเห็นความสามารถของผมก็ได้ แต่ตัวผมเองก็หมดความสนใจในตำแหน่งนี้เช่นกันเมื่อได้รู้ว่าต้องกลับไปติดต่องานกับที่ทำงานเก่าและคนเก่าๆ ที่เราเพิ่งเดินจากมา หลังจากจบการสัมภาษณ์ผมสัมผัสได้ว่าผมเหมือนเป็นตัวหมากตัวหนึ่งที่คุณ Country manager ส่งให้มาเดินในเกมเพื่อให้ Managing Director ของเค้าได้เปรียบเทียบกับผู้สมัครคนอื่น ในกรณีที่ผมทำได้ก็ดีไปสำหรับเค้า วงการนี้ช่างหักเหลี่ยมเฉือนคมดีเหลือเกิน

อย่างไรก็ดีจากการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ทำให้ผมตื่นขึ้นมาเพื่อหางานทำอย่างจริงจัง ช่วงนั้นสิ่งที่ผมพลาดอยู่อย่างเดียวคือการไม่หางานรองรับก่อนลาออก มันทำให้ผมว่างจนเกินไป เพื่อหา Status ให้กับตนเองก่อนในระหว่างที่ยังไม่มีไอเดียที่ดีพอในการทำงานส่วนตัว ผมออกท่องอินเตอร์เน็ตอีกครั้งเพื่อหางานทำ แต่ครั้งนี้เหตุผลต่างออกไปจากครั้งแรกที่ต้องการจะเรียนรู้ธุรกิจไอทีดิสตี้ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมไม่สามารถทำธุรกิจนี้ได้เพราะเงินทุนไม่เพียงพอ ความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่ร้านค้าปลีกหรือ Supplier ผมก็ไม่มี ต้องลองมองอย่างอื่นแล้ว และมุมมองใหม่ของผมคือการทำงานอะไรก็ได้ที่เราถนัดกับทีมที่มีความสามารถ และที่สำคัญต้องมีเวลาในการคิดถึงธุรกิจส่วนตัวด้วย... ผมจะหาเจอไหมเนี่ย

วันที่ยี่สิบหกธันวาคมเป็นวันอาทิตย์ที่ผมออกไปเที่ยวกับหนูอี่แฟนที่น่ารักของผมตามปกติ แต่หลังจากกลับมาบ้านก็ได้ทราบข่าวภัยพิบัติครั้งประวัติศาสตร์คลื่นยักษ์ Tsunami พัดถล่มฝั่งอันดามันของไทย ฆ่าชีวิตผู้คนไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนท้องถิ่นแถบพังงา กระบี่ ภูเก็ต ไปเป็นพันๆ คน นอกจากนั้นยังพัดถล่มอินโดนิเซีย, ศรีลังกา, และประเทศอื่นๆ ได้ฆ่าชีวิตชาวโลกไปอีกเป็นหมื่นๆ คน เหตุการณ์เศร้าครั้งนี้เป็นโศกนาฐกรรมส่งท้ายปี 2547 ที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ ทั่วไทยต้องหยุดชะงักไปถึงต้นเดือนมกราคมปี 2548 เลยทีเดียว แต่ในอีกด้านหนึ่งภายใต้ความเศร้าสลดนี้ก็มีข่าวน้ำใจไทยหลั่งไหลช่วยชาวใต้ให้ได้ยินเกือบทั้งวัน

นี่ก็ปี 2548 แล้ว ตอนนี้ผมว่างมากๆ เหมือนพระเอกเรื่อง “About a boy” ที่กำลังมองว่าจะเติมเต็มชีวิตที่ผ่านไปในแต่ละวันได้อย่างไร ผมมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้นมากๆ ได้อ่านหนังสือหลายเล่ม จากที่เป็นคนซึ่งไม่เคยอ่านหนังสืออ่านเล่นจบเล่มเลย ก็สามารถทำได้ จากที่ไม่เคยมีเวลาให้กับครอบครัวเลยในช่วงปีที่ผ่านมา ก็มาหยุดอยู่บ้านนั่งเล่นดูหน้าน้องทุกวัน นอกจากนั้นผมยังได้มองดูตัวเองในหลายๆ ด้าน และค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ ซึ่งผมพบว่าสิ่งที่ผมเคยบอกกับตัวเองอยู่บ่อยๆ คือผมไม่ได้ต้องการร่ำรวยล้นฟ้า แต่ attitude และการกระทำในอดีตที่ผ่านมามันไม่ค่อยจะตรงกันซะเท่าไร หนูอี่เคยบอกว่า เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่มันจะตามมาเมื่อเราทำสิ่งที่เราชอบได้ดีและมีคนเห็นคุณค่า

ผมเริ่มมีความคิดที่จะเปลี่ยนแนวคิดจากการทำธุรกิจค้าขาย ใช้แรงงานค่าแรงถูก ซึ่งงานต่างๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าของ กลายมาเป็นการมองงานให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มองว่าเราต้องการจะอยู่กับอะไร อยู่ร่วมกับคนประเภทไหน ธุรกิจการค้าที่ผ่านตาผมมาตั้งแต่ยังเล็ก และถูกปลูกฝั่งว่ามันสามารถทำให้รวยได้ก็เริ่มจะลางหายไป เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ตัวผมเป็น ผมไม่ชอบสิ่งที่ตัวผมเองเรียกว่า “การคุยกับคน” เพราะ คนวุ่นวาย ไม่เที่ยงแท้แน่นอน แล้วผมจะไปเจ๊าะแจะกับลูกค้าได้อย่างไร ผมไม่มีความเป็น sales อยู่ในตัวเลย จริงๆ นะครับ

คิดไปคิดมาผมว่าผมต้องการให้ที่ทำงานเป็นโลกแห่งอุดมคติ เป็นที่ซึ่งแบ่งปันความสุข ความเข้าใจ และสร้างประโยชน์ที่แท้จริงให้กับสังคมที่เราอยู่ การเป็นนายของตัวเอง หรือการทำงานในบริษัทใหญ่หรือเล็กนั้น คงไม่ต่างกันเท่าไรนักสำหรับผมในตอนนี้ ผมขอแค่โอกาสและแรงผลักดันให้ผมได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีคุณค่า ก็เท่านั้นเองจริงๆ เวลาที่มากมายนี้ทำให้ผมได้ปรับ attitude และ balance ตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ชีวิตจะเป็นไปตามอย่างที่เราคิด แต่ก็ไม่รู้ว่าพอกลับไปทำงานจริงๆ แล้วผมจะยังคงคิดดีๆ ได้อย่างนี้หรือเปล่า ผมบอกตัวเองว่าผมจะคอยหมั่นตรวจสอบดูตัวเองให้ดีครับ

หมายเลขบันทึก: 121222เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2007 11:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีครับ

(ทราบ ว่าเป็นทึกนี้มีนานแล้ว เพียงเพราะเพิ่งอ่านพบ และเพียงเพราะอยากแสดงความคิดเห็น)

ผมเองก็เคยล่องเรือใน "ทะเลใจ" เพื่อให้รู้ว่าอะไรคือเรา

ขอเป็น กำลังใจ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท