ก้าวที่เดิน...หลังการสัมมนา KM เชียงใหม่


เมื่อสิ้นสุดการสัมมนา..ชีวิตก็หมุนกลับสู่กิจวัตรเดิมๆ และโลกที่ย่ำก้าวใบเดิม

การตัดสินใจไปร่วมสัมมนาว่ายากแล้ว..การหวนคืนสู่กิจวัตรเดิมกลับน่าสนใจไม่แตกต่างกัน....

วิถีหนึ่งคือ....ดำเนินชีวิตตามความเป็นไป...ไม่ขัดขืน...แต่สงบมากขึ้น....

---------------------------------****----------------------------------------

ชีวิตยามเย็น...

กับก้าวเดินในความสงบที่สวนสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

เพื่อสูดลมหายใจของธรรมชาติ

 

 

และคารวะกับสรรพสิ่งที่ต่างมีชีวิตเพื่อแผ่นดิน...

 

 

ยิ่งก้าวเดินก็ยิ่งแกร่ง...ยิ่งสงบก็ยิ่งมีพลัง

 

 

และชีวิตยามค่ำคืน...

กับมุมในห้องทำงานที่หอพัก

 

 

กับภาระกิจที่มีกำหนดเวลา และต้องอาศัยความสงบในการจัดการ

 

........โลกใบเดิมยังคงหมุนต่อไป...

-------แต่ก้าวที่เดินในใจกลับสงบมากขึ้น---------------

 

แล้วคุณๆละคะ...ชีวิตหลังการสัมมนาเป็นอย่างไรกันบ้าง

 

%e0%b8%ad%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%a1
%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b0%e0%b8%9b%e0%b8%b0
%e0%b8%a2%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%a2%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%87
%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%81%e0%b8%9c%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99
%e0%b8%a5%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b9%83%e0%b8%88%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b4
%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%a2%e0%b9%87%e0%b8%99
หมายเลขบันทึก: 120862เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2007 22:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 01:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (40)
  • พี่สร้อยขา...
  • แวะมารายงานตัวค่ะ
  • ต้องปลุกตัวเองให้ตื่นหลังการสัมมนา
  • ว่าตอนนี้เราทำหน้าที่อะไรอยู่   เราก็ต้องทำหน้าที่การสอนตามปกติ
  • แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะได้กลับไปสู่บรรยากาศเก่าๆ ในงานครั้งต่อไปค่ะ
  • คิดถึงค่ะพี่สร้อย
  • กลับมาอยู่โลกของทาร์ซานเหมือนเดิม
  • กลับมาอยู่กับการบ้านเหมือนเดิม
  • กลับมาครุ่นคิดใคร่คราวญว่า
  • จะเอาความรักและคิดถึงไปฝากไว้ตรงไหนถึงจะได้ดอกเบี้ยมากที่สุด
  • นักเศรษฐศาสตร์จะช่วยได้ไหมนะ อิอิ

น้องลูกหว้าที่คิดถึง

  • วันนี้ไปส่งวีซีดีให้แล้วนะคะ.....
  • รอดูว่าจะมีเวลาทำหรือเปล่า
  • ถ้าผอมแล้วไม่สวยก็อย่าผอมเลยนะน้อง....ฮ่าๆ

 

พ่อครูบาคะ

  • หายตัวน่วมจากการถูกมะรุมมะตุ้มกอดหรือยังคะ...อิอิ
  • น้องหว้าช่วยคิดให้พ่อครูบาทีซะจ๊ะ
  • ฝากแบบเผื่อเรียกนะคะ...จะได้ถอนดอกเบี้ยทุกวันๆ....

อาจารย์ครับ

ผมไม่มีเวลาพักเหนื่อยเลย ผมถูกจองด้วยงานจนถึงกลางเดือนหน้าครับ ...

วันที่ 23-25 นี้ผมก็มีโอกาสทำงานใหญ่อีกครั้ง เป็นงาน "CBT ภาคเหนือ" จัดที่เชียงใหม่ และผมเป็นพ่องานครับ

ผมได้ประสบการณ์ที่ดีจาก งานสัมมนาฯ ก็วางแผนให้รัดกุม ดูกระบวนการให้ดี ผมใช้กระบวนการ KM แบบธรรมชาติให้ชาวบ้านและแกนนำทั่วภาคเหนือ Show and Share กันเต็มที่

วันนี้ประชุมเตรียมงานกันแบบละเอียด มาถึงห้องก็เหนื่อยๆมากครับ

อ้อ...ผมไปแวะทำบุญสังฆทานที่วัดมาด้วยครับ ได้สนทนากับ พระอาจารย์ปภังกร มาด้วย แล้วจะเอาเรื่องราวมาเล่า นอกจากนี้ก็แวะเวียนรับส่งคนที่สนามบินทั้งภาคเช้าบ่าย กิจกรรมเอี๊ยดเลยครับ

มาบ่นด้วยความยินดี  และเล่าเรื่องให้เพื่อนๆพี่ๆฟังด้วยครับ

  • ที่อาจารย์นำเสนอวันนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของชาวเรา
  • ที่เอาภาพแวดล้อมที่ทำงาน บรรยากาศในห้อง ดูแล้วสงบเรียบง่าย อบอุ่น
  • ไม่ยักรู้ว่าสวนสมุนไพรคณะเภสัชร่มรื่นถึงเพียงนี้ เคยไปดูที่กระทรวงสาธารณสุข พื้นที่จะโล่งๆอากาศร้อนจะเดินไม่สนุกเลย
  • แต่ที่อาจารย์ถ่ายภาพมาน่าเดินจงกรม เดินตากลม เดินในร่ม เดินชมร่มไม้ใบบัง เดินกระทั่งเหนื่อยแล้วมานั่งชิมน้ำชาที่โต๊ะตาหมากรุก อิอิ

โอ้โห..น้องเอกจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • แล้วอย่างนี้จะมีแฟนเมื่อไหร่ละจ๊ะ
  • แต่ว่า...ถ้าสนุกกับงานอย่างนี้....ทำงานก่อนก็ดีเน๊อะ....
  • บ่นด้วยความยินดีแบบนี้....อนุญาตให้บ่นเพิ่มค่ะ

 

 

 

มีวันหนึ่งพี่ อึ่งอ๊อบ โทรมาถามด้วยความเป็นห่วง ด้วยว่าผมทำงานแบบลืมเหนื่อยบ่อยๆ

มีงานสัมภาษณ์ที่เชียงราย บอกพี่เค้าว่าผมจะไป ผมขับรถออกจากเชียงใหม่เช้า ไปเชียงราย 3 ชม. และคุยงาน 30 นาที ขับกลับอีก 3 ชั่วโมง  รวม 6 ชม.

พี่อึ่งอ๊อบเธอตกใจมาก!!! ที่มาถามอีกทีในวันเดียวกัน ที่ผมทำธุระเรียบร้อยแล้ว

สนุกครับกับการทำงาน ทำให้สนุกครับ จะได้ไม่เบื่อ วางแผนดีๆ ผมชอบเจอคนเยอะๆครับ- - -เพราะได้เรียนรู้ใหม่ๆตลอดเวลา

และปีหน้าผมวางแผนเรียนต่อครับ อาจารย์ครับ

สวัสดีค่ะ อ. P จันทรรัตน์

ชีวิตหลังการสัมมนาก็คล้ายกับชีวิตก่อนการสัมมนาค่ะ ทำหน้าที่ตามปรกติ ไม่ว่าจะเป็นกับที่ทำงานหรือครอบครัวค่ะ

เข้าสู่ระบบชีวิตเดิมๆ แต่ใจเปี่ยมสุขเพิ่มเพราะพบกัลยาณมิตรเพิ่มจากในงานสัมมนา อ้อ..นอนดึกกว่าเดิมอีกหน่อยเพราะตามอ่านงานของสมาชิกค่ะ ^ ^

 

สวสัดีค่ะอาจารย์สร้อย

กลับจากการสัมมนา KM เชียงใหม่ ก็กลับสู่วิถีชีวิตเดิมๆ แต่มีพลังใจมากกว่าเดิมค่ะ ต้องมาตั้งสติสะสางงานที่กักตุนไว้จนเป็นดินพอกหางหมูพร้อมๆกับงานใหม่ที่ทยอยมาให้จัดการด้วยค่ะ....

ยังไม่ได้คุยเรื่องกล้องและการถ่ายภาพกับอาจารย์เลยนะค่ะ

เฮฮาศาสตร์ 3 ที่ดงหลวง อยากให้อาจารย์ไปด้วยจังเลยค่ะ

หนูสร้อย

ห้องน่าอยู่จัง แต่ตอนนี้ง่วงจัง

แล้วจะมาบรรยายภาพทีหลังครับ

หาววววววว!

อ.จันทรรัตน์

ดีจังค่ะที่ได้ทำงานอยู่ในที่ๆ มีต้นไม้แวดล้อมเยอะๆ คงสดชื่นน่าดู ไม่เหมือนหนู นอนห้องแอร์ ขับรถเปิดแอร์ อยู่ออฟฟิศก็มีแอร์ วันๆ นึงเจออากาศข้างนอกแค่ตอนขึ้นรถ กับลงรถ เลยสุขภาพไม่ค่อยจะดีค่ะ ถ้าออกมาเดินก็จะยิ่งแย่เพราะบ้านอยู่กลางเมืองมีแต่ควันรถ ที่ทำงานยังดีนิดนึงคือมีสวนรกๆ อยู่ด้านหน้า ก็ยังพอนับได้ว่ามีต้นไม้ เฮ้อ เซ็งจัง

พ่อครูบาคะ

  • เมื่อคืน server เสียไปเลย
  • นี่คือมุมไหว้พระค่ะ
  • %e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0

ผ้าสีขาวที่พับไว้ใช้ปูกราบพระ..มุมนี้ตามปกติใช้วันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น ...มีความกว้างหนึ่งวา ยาววาครึ่ง...

  • สวนสมุนไพรร่มรื่นมากค่ะ...เดินแล้วผ่อนคลาย...เหมือนพ่อครูบาว่า...คณะเภสัช(ของน้าอึ่งอ๊อบ) ใจดีให้เข้าไปเดินเล่นได้..เดินหนึ่งรอบ 400 ก้าว ถ้าเดินกับหวานใจอาจจะไม่ต้องนับก้าว...อิอิ

สวัสดีค่ะ อาจารย์

P
  • นอนดึกมากขึ้น...เช่นกันค่ะ
  • เพื่อตามอ่านสำนวนของบล็อกเกอร์...แล้วหัวเราะบ่อยขึ้นด้วย.....

ขอบคุณค่ะ อาจารย์

P
  • อิอิ...หนูสร้อยก็มักจะหลับคาโต๊ะทำงานตรงนี้ค่ะ
  • วันไหนคิดไม่ออก บอกไม่ถูกก็กระโดดขึ้นปั่นจักรยาน พอเหงื่อออกแล้วมักจะคิดออก....
  • กรรมของหนูคงเป็นกลุ่มแรงงาน??

ซูซานที่คิดถึง

P
  • หอพักพี่มัน สี่ชั้น ไม่มีลิฟท์..แล้วพี่ก็อยู่ชั้นสี่ซะด้วย...เดินขึ้น 60 ขั้น เดินลง 60 ขั้น...เป็นหอพักในโรงพยาบาล..ขนาบด้วยตึกและตึก...
  • เย็นๆ เลยต้องแจ้นออกไปหาต้นไม้...
  • วันไหนเบื่อกลิ่นไอตึก ก็นี่เลย....เอาตะไคร้ ใบมะกรูดสด ลงต้มในหม้อ...กลิ่นมันจะชะกลิ่นกระด้างของตึกและกลิ่นอวลของไอความเจ็บป่วยและความตายที่วนเวียนไม่ห่างไปได้.....ลองไหมจ๊ะ

อาจารย์แป๋วขา

P
  • งานหน้าคงได้เป็นศิษย์อาจารย์แป๋วค่ะ...
  • เฮฮาศาสตร์....หมายใจไปค่ะ....
  • คงได้สูดกลิ่นดิน กลิ่นธรรมชาติ..และกลิ่นของชีวิตชีวา..ไว้หล่อเลี้ยงชีวิตต่อ
  • สำนวนเหมือนจอมมารไหมคะ.....

น้องเอก..

P
  • พี่ละยกนิ้วให้เลยค่ะ หนุ่มไฮเปอร์ไม่แพ้อาจารย์ขจิตศิษย์ครูบาเลย
  • ขับรถ 3 ชั่วโมง เพื่อคุยงาน 30 นาที แล้วกลับอีก 3 ชั่วโมง
  • นี่ถ้ามีแฟนอยู่ปักษ์ใต้....หรืออิสาน....คงขับรถ 12 ชั่วโมง...คุย 30 นาที ขับกลับอีก 12ชั่วโมงด้วยใช่ไหมจ๊ะ....
  • แต่พี่ว่าน้องมีความสุขกับการขับรถด้วยแหล่ะ....จริงไหม
  • ถนอมสุขภาพด้วยนะคะ
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

 

P

 

อาจารย์ครับ

ผมไม่โฮเปอร์ครับเทียบกับ อ.ขจิต ผมเคลื่อนที่แบบบราวเนี่ยนที่มีอัตราเร่งน้อยกว่ามาก และเทียบกับ อ.พิชัย ท่านจัดสรรเวลาได้กับงานที่หลากหลาย จำได้ว่าหลังงานสัมมนา ๑ วันท่านยังต้องไปบรรยายธรรมถึง ๓ ทุ่ม...

แต่หากวันหนึ่งมีกิจธุระหรืองาน ผมก็ต้องพยายามทำให้เสร็จเป็นอย่างๆไป เพราะงานใหม่ก็เข้ามาอีก กลายเป็นดินพอก ก็ไม่ไหว

จราจรชีวิตหลังงานสัมมนาก็ยุ่งๆดี ก็เหมือนเป็นช่วงที่ผมต้องตัดสินใจและคิดบางอย่างด้วย แต่งานหลากหลายก็เข้ามารุมๆ คิดอีกทีดีเหมือนกัน สำหรับสถานะ freelance อย่างผม

 

 

"ยิ่งก้าวเดินก็ยิ่งแกร่ง...ยิ่งสงบก็ยิ่งมีพลัง" ...เป็นข้อความที่ดีมากๆ เลยครับ มีทั้งการเคลื่อนไหวและการหยุดนิ่ง การกระทำและไม่กระทำ อยู่ด้วยกัน ขอบคุณอาจารย์สร้อย (เรียกตามคนอื่น) มากครับสำหรับการ "ตกผลึก" หลังงานและภาพที่แฝงไปด้วยความรู้สึก

คุณสร้อยค่ะ ดูมีความละมุน โอนโยนซ่อนอยู่ในภาพเหล่านั้น สักวันเราคงได้มีโอกาสนอนนับดาวบนฟากฟ้า และฟากฝั่งกระโน้นกัน คิดถึงนะค่ะ

น้องสร้อย

ผมเคยผ่านวันวารแห่งชีวิตช่วงอย่างนี้มาแล้ว

เป็นวิถีการเดินของชีวิต เหมือนทางสองแพร่งที่สร้อยนำเสนอ

ทางธรรม ทางโลก

ทางธรรมทางโลก

ทางธรรมทางโลก

จะเอาทางโลก ก็กลัวเสียทางธรรม

ผมมาตัดสินใจได้ เพราะปฏิเสธโลกไม่ได้

และไม่สามารถเข้าไปอาศัยอยู่ในร่มกาสาวพัตรได้ในขณะนี้

จึงตัดสินใจที่จะอยู่ในโลกด้วยธรรม กำกับชีวิต

เดินมรรคหยาบ ในชีวิตประจำวัน

เพื่อให้มรรคละเอียด เกิดขึ้นในการปฏิบัติธรรมในภายหลัง

ในห้องน้อยของสร้อย ดูสงบ สะอาด ห่างจากกิเลส

มีที่ออกกำลังกาย และมีที่ออกกำลังใจ

เก้าอี้ตัวเดียว บ่งถึงความสันโดษ

มิใช่เต่า...แต่เป็นผู้ดูใจตนเองอยู่เสมอ

บางครั้งอยู่ตามลำพัง ดีสำหรับเรา เพราะอาศัยตนเป็นที่ฝึกตน

บางครั้งอยู่กับผู้อื่น ดีสำหรับเราและดีสำหรับผู้อื่น เพราะต่างอาศัยกันและกันฝึก

บางครั้งต้องสร้างบารมี

บางครั้งต้องออกไปพ่ายแพ้บ้าง

เพื่อเป็นประสบการณ์บ่ม ศรัทธาและวิริยะ

ว่าหนักแน่นไหม คลอนแคลนบ้างไหม?

เพื่อให้เกิดสติ ระลึกรู้ในสิ่งที่ควรทำและควรเว้น

เพื่อให้จิตตั้งมั่นในกุศลคุณความดี

และเพื่อให้เกิดปัญญา...ญาณ

คือความเข้าใจในชีวิตของตน และชีวิตล้อมรอบตน

 

ขอบคุณค่ะ อาจารย์ประพนธ์

P
  • ดีใจที่อาจารย์เรียกชื่อเล่นค่ะ.....ส่วนใหญ่ที่ในคณะ ก็จะเรียก "อาจารย์สร้อย" เหมือนกันค่ะ  
  • ขอบพระคุณที่ต่อยอดเสริมความคิดให้ด้วยค่ะ......
  •  ..เมื่อกายเคลื่อนใจต้องนิ่ง จึงจะหลอมรวมพลังชีวิตเข้าด้วยกัน....และใจที่นิ่งจะมีพลังขับเคลื่อนกายได้ไม่สับสน
  • ทุกวันนี้จึงพยายามฝึกตัวเอง ...ยามออกกำลังกายด้วยการเดินจึงมักจะนับก้าวที่เดิน....ถ้าเป็นไท้จี๋ชี่กงก็จะตามลมหายใจ...แต่ก็หลุดบ่อยค่ะ...ยังต้องฝึกอีกมาก

สวัสดีค่ะ น้องเอก

P
  • พี่ก็เห็นเหมือนกัน ว่า น้องมีความสุขในกิจกรรมที่ทำ ไม่ว่ายามอยู่กับตนเองหรืออยู่กับผู้อื่น
  • ขอให้งานที่ตั้งใจประสบความสำเร็จค่ะ....เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณ หมู

P
MOO
รออ่านบันทึกอยู่นะคะ......มาเชียงใหม่เมื่อไหร่บอกด้วยนะคะ....

สวัสดีค่ะคุณจันทรรัตน์..

คุณสร้อยขา...ครูอ้อยฝาก...ควันรักควันหลงจากเชียงใหม่

รักและคิดถึงเสมอ...ว้าววววว

สวัสดียามเช้าค่ะ อาจารย์พิชัย

P
อาจารย์เหมือนมานั่งในความคิดของสร้อยเลยค่ะ
เป็นอย่างนั้นแต้ๆ
ทางโลก ทางธรรม
ทางโลก ทางธรรม
ทางโลกก็ทิ้งไม่ได้ ติดทุนต้องใช้ทุน มีภาระดูแลอาปาและแม่ ฯลฯ
ห่วงทางโลกมาก ก็ใจตก
มุ่งปฏิบัติธรรมด้วยวิถีสุข ก็ติดสุข ไม่ได้เป็นชีวิตที่มีสติในท่ามกลาง
ลังเล กังวล สงสัย ......กำลังหาทางออกจะทำอย่างไรให้สองโลกอยู่ร่วมเป็นหนึ่งโลกได้
ก็ได้รู้จักอาจารย์ผ่านบล็อกพอดี้ พอดีเลยค่ะ
พอไปงานสัมมนาก็ได้เห็นวิถีสุขบนทางโลกด้วยการครองธรรมของอาจารย์
และจากวิถีปฏิบัติของ bloggers ทั้งหลาย ที่มารวมกันคิด รวมกันทำ บนฐานของธรรมะ แบบคนจิตสูง
กราบขอบพระคุณอาจารย์มากเลยค่ะ
ที่สร้อยเรียกตัวเองเป็นเต่านั้นเพราะคิดอย่างนั้นจริงๆค่ะ ..เป็นเหมือนเต่าที่คิดว่าตัวเองถูกต้อง มีสติ มีศีลแล้ว......แต่พอได้ยืดหัวออกไปอยู่ในท่ามกลางคนอื่นถึงได้รู้ว่า ยังต้องฝึกสติ ระวังศีล กับการมีบารมีทานอีกมากๆ เลย ตัวบารมีทานนี่เห็นตัวเองชัดจากงานสัมมนาค่ะ
การรักษาศีล และปฏิบัติธรรมในชีวิตแบบฆารวาสนี่ยากกว่าตอนที่ไปเข้าครอสฝึกปฏิบัติธรรมเสียอีกค่ะ........
สร้อยขออนุญาตตามเป็นลูกศิษย์อาจารย์ด้วยคนค่ะ 

สวัสดีค่ะ ครูอ้อย

P
เห็นรูปสองหนุ่มสาวอิงแอบบนรถไฟแล้ว....เกิดอาการตาร้อนนิดๆ ...อิอิ

  อาจารย์สร้อยคะ (ขอเรียกชื่อเล่นนะคะ)

  ชีวิตหลังสัมมนา ก็กลับมาสู่ภาวะการทำงานเช่นเดิมและยังคิดถึงบรรยากาศงานสัมมนาคะ  อยากมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำอีก เพราะเหนื่อยแต่คุ้มคะ

  คิดถึงอาจารย์สร้อยนะคะ

สวัสดีค่ะ น้องมะปรางเปรี้ยว

คิดถึงมะปรางเปรี้ยว (roommate) เหมือนกันค่ะ

สามสาว สามวัย ตื่นนอนคนละเวลา เข้านอนก็คนละเวลา แต่ใจตรงกันเน๊อะ

ถ้ามีรายการมาบ่มผิวที่เชียงใหม่อีก บอกด้วยนะคะ ...จะพาไปดูพระพุทธรูปที่สวยที่สุดค่ะ...(แฮ่ๆ คนแก่ก็งี้เน๊อะ ชวนเข้าวัดเรื่อยเลย)

  อาจารย์สร้อยขา

  ไปเชียงใหม่อีกรอบจะแจ้งข่าวให้ทราบนะคะ  พาหนูไปเที่ยวที่ไหน หนูไปหมดค่ะ เข้าวัดก็ชอบคะ :)

สวัสดีครับท่านอาจารย์

  • สบายดีไหมครับ
  • เข้ามาทักทายอาจารย์ พร้อมมาซับสิ่งดีๆ เอาไปกวนให้สมองผมตกผลึกบ้างครับ
  • "ยิ่งก้าวเดินก็ยิ่งแกร่ง...ยิ่งสงบก็ยิ่งมีพลัง" ...
  • จะได้ก้าวไปพร้อมความสงบที่ทั้งแกร่งและมีพลัง...
  • ขอบพระคุณมากๆ ครับ

คุณสร้อยค่ะหมูมักแอบมาเกือบทุกวัน บางครั้งไม่ได้เคาะประตูบ้านขออนุญาต กลับก็ไม่เอ่ยลา (มีคนบอกว่าเป็นนิสัยของเด็กห้าร้อย..) คิดถึงคะ

อ้าว ไหงชวนมะปรางคนเดียวล่ะคะ ถึงหนูจะไม่ใช่พุทธ แต่ก็ชอบเที่ยววัดเหมือนกันนะคะ ชอบศิลปะที่สวยงามของวัดทางเหนือ ดูอบอุ่นอ่อนช้อยและสงบดีค่ะ

คุณสร้อย...เพื่อนรัก

  • ไม่เข้าใจว่า...ทำไมติ๋วจึงไม่เห็นบันทึกนี้....แต่นับว่าโชคดีที่ได้อ่านทีหลังค่ะ  เพราะได้เห็นแง่คิด  มุมชีวิตจากหลายๆท่านที่ช่วยcomment
  • ติ๋วใช้ชีวิตแบบเรียบๆเหมือนเดิม....ไปทำงาน...กลับบ้าน....แต่เดินยิ้มบ่อยมาก  (จนน้องถามว่าเป็นอะไร...)..เพลงบางเพลงก้องอยู่ในหูทั้งหลับและตื่น...มันคือความสุขที่ให้พลังมากอย่างบอกไม่ถูก
  • ความคิดเรื่องทางโลกนั้นติ๋วอยู่กับมันโดยมีหลักการใช้ชีวิตที่ง่ายๆ  สงบ  ไม่คาดหวังอะไรมากนัก  มองคนในแง่ดี...ไม่อาจตัดจากทางโลกได้เช่นกันค่ะเพราะมองว่าหากทิ้งไปสงบสุขคนเดียว...ใครจะดูแลคนที่อยู่ข้างหลัง...ไหนจะคนในครอบครัว...ไหนจะคนไข้....พวกเขาจะอยู่กันยังไง
  • ยังเคยคุยกับน้องๆที่ชอบไปวัดว่า...พี่มันคนไกลวัด   แต่พี่ขอเป็นบัวพ้นตมที่ไม่พ้นน้ำเพื่อช่วยเหลือพวกใต้ตมให้พ้นตม...ดีกว่าที่จะพ้นน้ำแล้วมองเห็นเขาอยู่ใต้ตมตลอดชีวิต..ทนเห็นภาพเหล่านั้นไม่ได้เพราะสงสาร
  • วางแผนว่าไม่นานนี้จะพยายามเอาวิสัญญีพยาบาลมาจัด KM....ให้ได้...อยากให้ฝันเป็นจริงจังเลยค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกที่ดียิ่งนี้ค่ะ

         ...............คิดถึงเสมอค่ะ.......ติ๋ว.

ด้วยความยินดีค่ะ....พอดีว่าระยะนี้กิจกรรมสังคมเยอะมากค่ะ เลยใช้พลังหลายอย่างหลายเรื่อง...เมื่อมีโอกาสก็พยายามอยู่กับตัวเองมากขึ้น.....อีกอย่างเป็นคนชอบออกกำลังกายค่ะช่วงไหนไม่ได้ออกกำลังกายรู้สึกร่างกายมันอ่อนๆ ไม่ค่อยมีกำลังด้วย....คงไปตามประสาคนมีอายุมากค่ะ

 

แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในเชียงใหม่จะเพิ่มพาไปอีกที่ค่ะ.....อุบไม่บอกว่าที่ไหน...เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท..ฝรั่ง 50 บาท ...

อันที่จริงคนเชียงใหม่จำนวนมากก็ไม่รู้ว่ามีที่อย่างนี้ด้วยเหมือนกัน.....อิอิ

ไปเฮฮาศาสตร์ครั้งที่ 3 ของพี่บางทรายไหมคะ....

อยากไปมากเลย...ตอนนี้ก็เลยเร่งงานสุดๆ เลยค่ะ ...สัญญาใจไว้แล้วว่าจะทำงานให้เสร็จ แล้วชะแว๊บไป...อยากไปช๊าดแบตให้ตัวเอง...ตามประสาคนโสดมีภาระ....

สวัสดีด้วยความระลึกถึงอย่างสูงเลยค่ะ อาจารย์จันทรรัตน์  : )

อ่านบันทึกนี้ของอาจารย์หลายรอบแล้วค่ะ  ตั้งใจอย่างยิ่งว่ามีจังหวะเมื่อไหร่จะแวะเข้ามาเยี่ยมเยียนห้องพักที่น่ารักมากของอาจารย์  ดิฉันชอบบรรยากาศที่อาจารย์เล่า และที่ชอบมากคือผ้าม่านสีฟ้าอ่อนที่รวบไว้ ผ้าปูโต๊ะ(คงเป็นผ้าฝ้าย)สีฟ้าเขียวเหลือง และตู้ไม้ใบนั้น

....เวลาเปิดไฟสีสว่างนวล ดูสงบและอบอุ่น น่านั่งทำงานจังเลยค่ะ....

การให้โอกาสได้สัมผัสบางมุมส่วนตัว  ที่ทำให้รู้สึกได้ถึงอีกบรรยากาศหนึ่ง  ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากได้"พบ" กันเช่นนี้ ทำให้รู้สึกว่าได้"เข้าใกล้"กันมากขึ้นนะคะ  ความเป็นมิตรนั้นน่ารักเสมอ  ดิฉันชอบ"หัวใจ"แบบนี้จัง

G2K สอนอะไรดิฉันมากมาย  รวมถึงความเป็นมิตรแบบที่สัมผัสได้  แม้จะอยู่กันคนละถิ่น คนละที่  งานที่เชียงใหม่ครั้งที่ผ่านมา ได้สานใจคนไว้อย่างน่ารัก  ดิฉันตามอ่าน"การสื่อสารอย่างมิตร" ด้วยความเพลิดเพลิน   และดีใจเหลือเกินที่อาจารย์ได้เล่าเรื่องนี้ให้ฟังในหลายบันทึก  ด้วยมุมมองที่อบอุ่นแต่คมคายนัก 

ดิฉันนึกดูแล้วก็เห็นมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ  การจัดการความรู้ เป็นเรื่องมีคุณค่า"ทางวิชาการ"  แต่การจัดการความรักด้วยการสื่อสารในสังคมGotoKnowนี้ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงยิ่ง 

....ในเวลาที่ชาติเราต้องการ "ความรักและปรารถนาดีต่อกัน" อย่างมากเช่นนี้ 

และความรักเช่นที่ว่านี้จะแปรเป็นพลังอุดมการณ์ที่จะสานต่อกันไปเป็นเครือข่าย  และสร้างสิ่งอันเป็นคุณแก่ชาติได้อีกมากมาย  

เราอาจยังไม่มีคำตอบเป็นรูปธรรมสำเร็จรูปในวันนี้  แต่ร่องรอยการต่อยอดในบันทึกต่างๆ 
การลงมือทำจริงอันเกิดจากแรงบันดาลใจในการที่ได้เข้ามาสื่อสารในที่นี้ 
ทำให้เกิดบันทึกเป็นหลักฐานถึงสิ่งดีที่ได้ทำไปแล้วอีกนับไม่ถ้วน  

บันทึก เป็นการสื่อสารให้เห็นถึงรูปธรรมของการจัดการความรู้อันเป็นคุณยิ่งในสังคม  และ การสื่อสารด้วยการบันทึกและการแสดงความคิดเห็นต่อยอด ก็น่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญเป้าหมายหนึ่งของการจัดการความรู้

ขณะเดียวกัน การสื่อสารแบบร่วมสนทนาอย่างผู้ที่ได้รู้จักกัน  และเกิดความรู้สึกเสมอเพื่อน เสมือนญาติ (คำของท่านใดจำไม่ได้จริงๆค่ะ  แต่ให้ความรู้สึกดี)  ก็สร้างสายสัมพันธ์และความรู้สึกที่แน่นแฟ้นมากขึ้น

เป็นการต่อยอดความเป็นมิตร  ที่ไม่ควรจะหายไปจากสังคมที่อุดมไปด้วยความรู้...... 
ดิฉันคิดว่าอย่างนั้นนะคะ 

ขอบพระคุณอาจารย์สำหรับบันทึกที่อ่านแล้วแสนอบอุ่นบันทึกนี้นะคะ  ดิฉันไม่ได้แวะมาเยี่ยมบันทึกอาจารย์เสียนาน  เมื่อแวะมาก็เลยนั่งคุย(เงียบๆ)อย่างยาวอีกแล้วค่ะ  : )

สวัสดีค่ะ อาจารย์ ดอกไม้ทะเล

ดีใจที่แวะมาเยือนค่ะ..ขอบคุณค่ะ

อาจารย์คุยยาวๆเงียบๆ แต่พลังเยอะเขย่าใจคนได้นะคะ

^___^

 

 

 

 

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท