สมัยเด็กๆ จำได้ว่า เวลาครูบอกให้วาดภาพบ้านของตัวเอง ผมเคยวาดภาพบ้าน แล้วมีผมยืนใส่บาตรอยู่หน้าบ้านกับพ่อแม่ มันสื่อความหมายถึง ..บ้าน..ที่อยู่ในใจลึกๆ
โตขึ้น ผมยังใส่บาตรปีละหนเท่านั้นในวันไหว้ครู ส่วนวันปีใหม่ วันอื่นแทบไม่ได้ใส่ เพราะอยู่หอมาตลอด จนย้ายบ้านมาอยู่ในสวนยางตอนนี้ ก็ไม่เคยใส่บาตรหน้าบ้าน เพราะไม่เคยเห็นท่านเดินผ่าน
๖.๔๕ น. วันนี้ ผมเห็นพระรูปหนึ่งเดินบิณฑบาตรผ่านมาหน้าบ้าน ความคิดแว๊บหนึ่งที่สืบเนื่องมาจากย่อหน้าข้างบนเกิดขึ้นอย่างปัจจุบัน จึงรีบเอาของแห้งที่มีในบ้าน แน่นอนครับ หนีไม่พ้น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับนมกล่อง แล้ววิ่งลงไปเปิดประตูบ้าน เดินตามไปนิมนต์ท่านมารับ มองไปในบาตรท่านมีข้าวสุกเต็มบาตร ได้กลิ่นหอมกรุ่นลอยออกมา ตอนยกมือขึ้นพนมไหว้รับพร
ชั่วขณะนั้นผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ พี่ๆทุกคน และคนสำคัญ..คุณย่า..อาม้าของผมซึ่งเสียไปนานแล้ว ที่เป็นคนสอนให้ผมได้รู้จักการใส่บาตรมาตั้งแต่เด็ก
เป็นปิติ ความอิ่มเอิบต้อนรับเช้าวันใหม่จริงๆ
แต่ลองมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นถัดจากนั้น
ผมคิดต่อทันที วางแผนว่า พรุ่งนี้เราน่าจะเตรียมอาหารสดมาใส่บาตรดีกว่า แล้วตัั้งใจจะลงมารอท่านแต่เช้าทุกวัน คิดเลยเถิดไปถึงว่า จะตื่นขึ้นมาหุงข้าวด้วย เอ..แล้วถ้าท่านไม่มาล่ะ ข้าวที่หุงใครจะรับประทาน ก็หนีไม่พ้นเราเอง จะหมดหรือ เอ..แล้วหม้อข้าวนี่ใครจะล้างนะ แล้วถ้าวันที่รีบๆ มีงานต้องทำ ก็คงไม่ได้ใส่ แล้วแต่ละวันเราจะต้องรอท่านนานไม่เนี่ย โอ๋..แล้วจะมีเวลาเหรอ
ความคิดชุดนี้แล่นผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงนาที
ไม่น่าเชื่อนะครับ จะปิติสุขอยู่ดีๆก็เจอ ..ทุกข์..เสียแล้ว ด้วยความคิดที่ปรุงแแต่งเองทั้งสิ้น
ผมเตือนใจตนเองแล้วกลับไปที่จุดเดิม
ปิติสุข กับการได้ใส่บาตรหน้าบ้าน..วันนี้
สวัสดีค่ะ
เข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ถ้าตั้งใจจริงทุกอย่างจะสำเร็จโดยง่ายค่ะ
อ่านตอนต้นๆแล้วรู้สึกปิติไปด้วยนะคะ อาจารย์เต็ม
แต่พอถึงตรงความคิดปรุงแต่ง อ่านแล้วหัวเราะหึ หึ คิดถึงว่านี่แหละนะ ความเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องวางแผนเวลาจะทำอะไร สุดท้ายคิดไปคิดมา อุปสรรคเยอะนัก (ทั้งๆที่ยังไม่ทันเริ่มทำเลย) ก็เลยไม่เริ่มดีกว่า เทียบกับเด็กๆที่คิดปั๊บ ทำปุ๊บ ไม่ต้องคิดผลได้ผลเสียวางแผนมาก เราคงต้องเอามาผสมกันนะคะ
ขอบคุณอาจารย์เต็มที่เขียนเล่านะคะ อ่านแล้วรู้สึกเลยว่า เรื่องบางเรื่องที่ดูเหมือนเป็นเพียงการกระทำอะไรสักอย่างปกตินี่แหละ ผสมกับความคิดอะไรบางอย่างออกมา ทำให้คนอ่านคิดอะไรต่อได้ตั้งเยอะเลยค่ะ
อาจารย์นี่เป็น CS อย่างแรงเลยนะครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์เต็มศักดิ์
อยากรู้ตัวย่อด้วยได้ไหมคะ
ดีใจด้วยค่ะที่อาจารย์ได้ทำในสิ่งที่เกิดความสุข....แต่พอคิดสิ่งยังไม่เกิดเลยทุกข์ไปล่วงหน้านะคะ...
เรื่องใส่บาตรหน้าบ้านนี่ถ้าพระท่านมาบ้างไม่มาบ้าง อาจารย์นิมนต์ท่านไว้ก่อนก็ดีค่ะ เช่นถามท่านมาวันไหนบ้าง กี่โมงแล้วก็นิมนต์ว่า วันที่มาขอช่วยมาแวะหน้าบ้านด้วย...ถ้าวันไหนจะไม่อยู่ก็บอกท่านก่อน..อย่างนี้ก็ดีกับทั้งสองฝ่ายด้วย....อาจารย์คิดเห็นว่าอย่างไรคะ
Sorry krub, something error
Please go http://gotoknow.org/blog/phoenix-mirror/90244 krub
สวัสดีครับ...
ผมโชคดีที่กลับบ้านแล้วได้ตักบาตรที่หน้าบ้านเสมอ
พ่อเล่าให้ฟังว่า คนที่ไม่ยอมตักบาตรหน้าบ้าน เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็ไปถวายภัตตาหารที่วัดอยู่แล้ว... แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปมีเยอะแยะเลย
การตักบาตรที่หน้าบ้านแต่ไม่ได้ไปวัด... ก็ได้กุศลและดีกว่า ไม่ตักฯ เพราะคิดว่าจะไปวัด ...แล้วไม่ไป
ขอบพระคุณครับhttp://gotoknow.org/blog/pandin/88136
อ่านแล้วรู้สึกดีใจ ไปด้วยเลยคะ นึกภาพออกเลยคะว่า คุณหมอต้องวิ่งๆ หาของ