KM ม.ราชภัฏเชียงใหม่ (๑o) : สิ่งที่ "นายแผ่นดิน" พูดไว้บนเวที ตอนที่ ๓ (เขียนในสิ่งที่รู้และศรัทธา)


เขียนขึ้นจากสิ่งที่เรารู้และสัมผัสมาด้วยตนเอง

เขียนในสิ่งที่รู้และศรัทธา <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นั่นคือประเด็นว่าด้วยสไตล์การเขียนของนายแผ่นดินที่อยากจะขยายความจากเวทีการสัมมนาที่เชียงใหม่ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">มีผู้เข้าร่วมสัมมนาบางท่านสอบถามเป็นการส่วนตัวกับผมว่าผมมีอะไรเป็นหลักคิดในการเขียนบันทึก ?  และเรื่องส่วนตัวนำมาเขียนบันทึกในโลก G2K  ได้ด้วยเหรอ ?</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>    <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ท่องโลก G2K  มาอย่างจัดเจน  ซ้ำยังไม่มีรางวัลประดับบันทึกอะไรมาก  จึงไม่กล้าหาญพอที่จะสาธยายอะไรมากเป็นพิเศษ    กระนั้นก็จำต้องตอบคำถามนั้นเป็นการส่วนตัวกับผู้ถาม   ครั้นพอต้องขึ้นไปนั่งบนเวทีก็มีโอกาสได้ตอบซ้ำในคำถามนั้นอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>    </p><p>(ภาพถ่าย จากการบันทึกโดย อ.แป๋ว)     </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">๑.   เขียนในสิ่งที่รู้และอยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด   การเขียนในลักษณะเช่นนี้ก็คือการเขียนจากประสบการณ์ตรงในเรื่องที่ตนสัมผัสและมีผลึกทางความคิดในเรื่องนั้น ๆ  โดยตรง   เช่น การเขียนเรื่องงานประจำวันของตนเอง,  เรื่องกิจกรรมนิสิตที่ตนเองสัมผัสดูแล, เรื่องการประชุม,  เรื่องที่ตนเองไปเป็นวิทยากร  หรือการไปร่วมงานมาสด ๆ ร้อน ๆ  เป็นต้น  </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>     <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การเขียนเช่นนี้  เป็นเสมือนการเขียนใน  เรื่องที่อยู่ใกล้ตัว  ของเราเป็นที่ตั้ง   เพราะโดยธรรมชาติของมุนุษย์   เรื่องที่เรารู้ (หรือควรรู้)  ก็คือเรื่องที่เราแตะต้องสัมผัสได้ด้วยตนเอง   </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กระนั้นก็เป็นที่น่าสังเกตว่า  หลายคนมัวแต่หลงเพลินอยู่กับการค้นหาคนอื่น  จนลืมที่จะค้นหาตัวเอง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ฉะนี้แล้ว  ในบรรดาบันทึกที่ผมเขียนซึ่งเกี่ยวกับเรื่องในทำนองนี้  จึงปรากฏอยู่ในชุด คิดเรื่องงาน  และที่เหลือก็เป็นเรื่องกิจกรรมของนิสิตและมหาวิทยาลัย  ซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งจบในตอนและแบ่งเป็นตอน ๆ อย่างยาวยืด</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>      </p><p> </p><p>. เขียนในสิ่งที่ตัวเราศรัทธา    การเขียนในประเด็นนี้จะฉีกออกมาจากการงานบนโต๊ะและห้องทำงานอย่างชัดเจน  ผมเขียนเรื่องเหล่านี้เพราะผมรู้สึกเสมอว่าผมยัง ศรัทธาต่อการมีชีวิตอยู่   และเพื่อต้องการที่จะป่าวประกาศให้รู้ว่า  ท่ามวิถีแห่งโลกและชีวิตอันสับสนนั้น  ความดียังคงงดงามเสมอ      </p><p></p><p>การเขียนในลักษณะเช่นนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกหลายชุดของผม  เช่น เปลือยความสุข ,  เที่ยวทุ่งหน้าแล้ง, เที่ยวทุ่งหน้าน้ำ  โลกและชีวิต..  “บ้าน วิถีทุ่ง ความทรงจำไม่รู้จบ"  หรือ "คนของความรัก"   เป็นต้น     </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เรื่องชุดเหล่านี้จึงมีลักษณะย้อนกลับเข้าสู่โลกส่วนตัวของผมมากกว่าการเขียนในลักษณะแรก -  เป็นการเขียนที่ทำให้ผมมีความสุขอยู่เสมอ   หลายเรื่องสะท้อนจุดยืนอันชัดเจนในเรื่องความทรงจำอันเก่าก่อนของตนเองที่มีต่อ บ้านเกิด  อันเป็นรากเหง้าและความทรงจำที่เป็นปัจจุบันของตัวเอง</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>   <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การเขียนเช่นนี้  จึงเป็นเสมือนการเขียนด้วยพันธกิจที่ผมมีต่อวิถีวัฒนธรรมของตนเอง  เป็นเสมือนการขอบคุณวิถีต่าง ๆ ที่หล่อหลอม เพาะบ่มและขับส่งผมมาอย่างมีตัวตนในโลกปัจจุบัน  และผมก็ไม่เคยรู้สึกอายที่จะบอกล่าวในเรื่องเหล่านี้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>การได้เขียนถึงเรื่องเหล่านี้  ผมเน้นข้อมูลดิบอันเป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดจากวันและวัยต่าง ๆ ของชีวิต   เช่นเดียวกับการเขียนเปลือยความสุขก็เป็นเสมือนการตีแผ่ให้เห็นความรื่นรมย์ของชีวิตในครอบครัวเพื่อย้ำให้รู้ว่า   ความสุขเริ่มต้นจากภายใน  ซึ่งหมายถึง  ครอบครัว นั่นเอง     </p><p></p><p>เหนือสิ่งอื่นใด,  การเขียนในสองลักษณะที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น  สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ  การเขียนอย่างมีความสุข  เพราะเขียนขึ้นจากสิ่งที่เรารู้และสัมผัสมาด้วยตนเองเป็นหลักสำคัญ  ส่วนเรื่องนั้นจะเป็น ความรู้หยั่งลึก  หรืแม้แต่ ความรู้เบื้องตื้น  หรือไม่นั้น  ผู้อ่านคือผู้วินิจฉัย  !    </p><p> </p><p>และเรื่องที่เราสื่อสารนั้น  บางทีผู้อ่านอาจจะมองในมุมต่างก็ถือว่าไม่ผิด  และนั่นคือการแลกเปลี่ยนที่แท้จริง  รวมถึงบางเรื่องที่ไม่แจ่มชัดนัก  ผู้อ่านก็จะช่วยเติมเต็มให้ชัดเจนและบริบูรณ์ขึ้นจากที่เป็นอยู่  </p><p></p><p>เพราะโลก G2K  คือโลกที่สร้างสรรค์ความรู้  ขณะเดียวกันก็เป็นโลกที่แปรรูป  ขยะความคิด   มาเป็น  อาวุธทางความคิด  อย่างมีประสิทธิภาพ </p><p></p><p>         </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และสุดท้ายนี้,  ท่านคงจำได้ว่าผมพูดชัดเจนบนเวทีในทำนองว่า  เรื่องที่ผมเขียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ค้นคว้าเพิ่มเติมจากผู้รู้และแหล่งความรู้ใด ๆ  นัก   แต่นั่นไม่ใช่เพราะความ อหังการ์ทางความคิด  หากแต่ผมต้องการสื่อสารมาจาก  โลกแคบ  ของตนเองเป็นสำคัญ …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>เพราะนั่นคือ การเขียนในสิ่งที่รู้และเขียนในสิ่งที่ศรัทธา …ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่า  ผู้อ่านจะช่วยชำระให้เรื่องจากโลกแคบของผมเป็นเรื่องที่เป็นสากลในโลกอันกว้างใหญ่ได้หรือไม่ … ก็สุดแท้แต่บุญกรรม …    </p><p></p><p>     </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปล.  โปรดให้อภัยต่อผมด้วย  หากมองว่า   นี่คือการเขียนบันทึกที่เป็นกบฏต่อระบบแหล่งการ ลปรร…</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> 

หมายเลขบันทึก: 120751เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2007 10:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน

  • บันทึกทุกบันทึกเป็นการบ่งบอกของตัวตน....ความสุข....ความศรัทธา....เกิดที่ใจ..เป็นโลกกว้างใหญ่ไพศาลของหัวใจ...คุณค่า...อยู่ที่ใจค่ะ....
  • ขอยืนยันค่ะ  บันทึกของอาจารย์ อ่านแล้ว สร้างสรรค์ ได้จินตนาการตามไปด้วย  ( เอ๊ะ!...รึว่าแอบชอบลูกชายเขาอยู่เนี๊ยะเรา.....)

สวัสดีค่ะ คุณน้องแผ่นดิน

  • ความคิดนี้ถูกต้องแล้วค่ะ..สไตล์ใครก็คงต้องเป็นแบบนั้น..เพราะนั่นคือตัวตนที่เกาะติดและง่ายในการนำเสนอบันทึก...เป็นธรรมชาติของตนเองค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกที่ทำให้พี่ได้ทบทวนตัวเองเพื่อตอบ...AARตนเองค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ขออนุญาตแวะเข้ามาแลกเปลี่ยนหลังจากที่แอบดูแอบศึกษาแนวคิดอยู่ห่าง ๆ ด้วยความที่ยังใหม่และไม่กล้าเข้ามาทักทาย  วันนี้โดนใจมาก   คนเราจะเขียนหรือถ่ายทอดได้ดีในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวหรือสิ่งที่สัมผัสในชีวิตประจำวัน 
  • สิ่งที่เราศรัทธาคือสิ่งที่ออกมาจากใจจริงของเรา  ไม่จำเป็นต้องอ้างอิงใครก็สามารถถ่ายทอดได้ดี
  • ลูกชายน่ารักจังเห็นแล้วทำให้นึกถึงหลานชาย  อายุ  4 ขวบ ซนมาก เอารูปมาฝากน่าจะเป็นเพื่อนกันได้    

                    102_0043_00

  • ขอบคุณค่ะ

เป็นอีกคนคะที่เขียนเรื่องจากเรื่องใกล้ตัว...เรื่องที่เป็นความทรงจำทั้งที่ดีและไม่ดี...เพื่อเป็นบทเรียนกับคนอื่นๆ...ไม่เขียนเรื่องการทำงานเพราะไม่ค่อยมีความสุขกับงานที่ทำ...(ล้อเล่นคะ...เพราะงานมีแต่เรื่องเครียดๆ...ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่)...ชอบเข้ามาอ่านเรื่องในโลกแคบๆของอาจารย์...ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆคะ

สวัสดีครับผม

  • ผมชอบประโยค..เพราะโลก G2K  คือโลกที่สร้างสรรค์ความรู้  ขณะเดียวกันก็เป็นโลกที่แปรรูป  ขยะความคิด   มาเป็น  อาวุธทางความคิด  อย่างมีประสิทธิภาพ ..มากครับ
  • ในมุมมองนัก e-Learning อย่างผม มองว่า ..ในอนาคตองค์ความรู้ (content) จะเป็นแบบกระจายไม่มีศูนย์กลาง คล้าย ๆ กับว่า เมื่อเราอยากทราบอะไร เราก็สอบสอบถามจาก Prof.Dr.Gooooooooogle เป็นต้น แต่ในอนาคตจะมีเครื่องมือที่ดีกว่า Google ในการกรององค์ความรู้ให้ครับ
  • เป็นกำลังใจที่ดีให้นะครับ
  • ผมก็เป็นคนหนึ่งครับ...ที่มักจะเขียนเรื่องในโลกแคบของตัวเอง...
  • บางเรื่องอาจจะไม่มีสาระ  อาจจะไม่มีความรู้ให้จัดการ
  • แต่มันได้ตอบสนองจริตรายวันของผมได้  ก็น่าจะโอเค!!!
  • เมื่อใดชั่วโมงบินสูง  โลกที่คับแคบได้แผ่อาณาบริเวณมากขึ้น  เรื่องราวในบล็อกมันก็จะค่อย ๆ เปิดกว้างตามกันไป

เดี๋ยวเจอกันครับอ้าย.....

แหวว แวะมาเยือน และสนับสนุนคำอธิบาย ที่ค่อนข้างจะเป็นแนวเดียวกันค่ะ...ครบถ้วนสมบูรณ์จนมือใหม่ไม่อาจแต่งเติม...เป็นเช่นนั้นค่ะ..คุณพนัสเป็นแบบอย่างของการเขียนบันทึกที่ทำให้มือใหม่น่าจะกล้าเขียนมากขึ้น...นะคะ..และก็เขียนได้อย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ...เพราะจากตัวตน ไม่กบฎต่อตนเอง และ ความสุข-ประโยชน์จากการบันทึกที่หล่อเลี้ยงใจคนบันทึกค่ะ...

สวัสดีค่ะ อ.แผ่นดิน

  • โลก G2K ไม่เคยคับแคบ แม้ว่าบางคนพร้อมที่จะเปลือยโลกแคบของตัวเองออกมาเช่นอ.แผ่นดิน
  • บันทึกของอาจารย์ อยากตั้งชื่อให้เป็น "ตัวจริง ชัดเจน"
  • ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่กล้าพบตัวจริง (กลัวตัวเองอ้ำอึ้ง5555) เพราะไม่เคยเจอใครเขียนอะไรที่เป็นตัวเองได้มากมายขนาดนี้
  • สวัสดีค่ะ  คุณแผ่นดิน ..

ต้อมเชื่อว่า .. การเขียน คือ การถ่ายทอดความเป็นตัวตนของคนเขียน  ตลอดจนความคิด น่ะค่ะ

โลกแคบ ๆ ของคุณแผ่นดินอาจจะกว้างใหญ่เกินกว่าเด็กตัวน้อย ๆ อย่างต้อมจะเดินทางไปผจญภัยโดยปราศจากคัมภีร์ที่คุณแผ่นดินเขียนไม่ได้เลยนะเอ้า   ^_^

สวัสดีครับ
คุณพี่ .

  
                 ประสบการณ์ของบุคคล เป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับผู้ที่ใฝ่หาประสบการณ์ เสมอครับ.. (",)

ขอบพระคุณครับ

สวัสดีครับ 

P

คราวนี้อาจารย์มายึดพื้นที่เป็นท่านแรกเลยนะครับ

อันที่จริงบันทึกสาระนี้  ก็ไม่ได้ผิดแผกไปจากบันทึกอื่น ๆ หรอกนะครับ  เพราะที่สุดแล้วผมก็พยายามบอกว่า "เขียนเถอะครับ... อยากเขียนอะไรก็ให้เขียน.. และขอให้มีความสุขในการเขียน"   เพียงแต่มาย้ำว่า  สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้และทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัดกับการเขียนก็เพราะว่า "เราเขียนในสิ่งที่รู้และเขียนในสิ่งที่เราศรัทธา.."  นั่นเอง

และที่สุดแล้ว  แต่ละท่านก็ควรต้องหาตัวเองให้เจอในเร็ววัน  เพื่อให้สามารถเขียนบันทึกออกมาได้อย่างมีจุดยืน  ...และบันทึกนั้นจะได้มีคุณค่าทั้งด้านการงานและชีวิต ..

...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  อ.ติ๋ว

P

ขอบพระคุณอย่างยิ่งเลยนะครับที่ช่วยย้ำอย่างแน่นหนาว่า  "เราควรต้องเล่าด้วยวิธีของเราเอง"

บันทึกของ อ.ติ๋ว  ก็มีทั้งเฮฮาขบขัน,  สาระจากห้องทำงาน  หรือแม้แต่โลกส่วนตัวที่นาน ๆ  จะเปิดเปลือยมาให้สัมผัส

.....

มีความสุขที่ได้อ่านบันทึกเหล่านั้นเสมอ ..

ขอบพระคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ...อาจารย์แผ่นดิน
  • รูปครอบครัวน่ารักมาก...เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริง ๆ  
  • การเขียนในสิ่งที่รู้และเขียนในสิ่งที่ศรัทธา...เห็นด้วยกับประโยคนี้ค่ะ...เพราะถือว่าสิ่งที่เขียนมันออกมาจากใจ และจากสิ่งที่เรารู้จริง ๆ โดยเฉพาะจากประสบการณ์ที่เราได้รับ

เขียนางที่รู้และศรัทธา...ฟังดูง่ายนะคะ...แต่ผลของมันยิ่งใหญ่...เพราะพลังศรัทธา...มันจะส่งผลถึง..ภาษา..ถ้อยคำ...สำนวนที่เลือกมาใช้...นั่นเป็นพลังเสริมใจให้คนอ่าน...ที่ดีทีเดียว...ขอบคุณค่ะ

 

คุณแผ่นดินครับ

สิ่งที่ผมชอบและติดใจ คือวิธีเขียนและวิธีคิดและการสื่อสารของคุณแผ่นดิน เรียบง่าย ดูธรรมดาและไม่ธรรมดา

เป็นธรรมดาที่มีเสน่ห์ เป็นธรรมชาติที่หาใครทำได้ยาก

การเขียนเรื่องคนในครอบครัว...สังคม ที่นำให้คนอื่นได้สัมผัสตัวตนของเรานั้น

เป็นการเปลือยหัวใจเขียน...อย่างที่บอกไว้จริงๆ

เวลาผมอ่านจึงเปลือยหัวใจออกมาอ่าน เช่นกัน

พี่เห็นด้วยค่ะ พี่คิดว่าการเขียนที่ทำให้เราเขียนได้ดีที่สุดก็คือเขียนในสิ่งที่เราถนัด ฉะนั้น การเขียนของแต่ละคน ก็จะมีมุมมองและแนวคิดของแต่ละคน พี่เชื่อว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น ผู้อ่านจะค้นและรับได้แตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตามพี่ก็ชอบการเขียนสไตล์ของคุณแผ่นดินค่ะ

เอารูปมาฝากค่ะ คิดว่ารูปนี้คุณแผ่นดินยังไม่มี หากชอบก็เปลี่ยนใช้รูปนี้บนบล็อกก็ดีนะค่ะ เพราะดูอ่อนโยนและสดใสดีค่ะ

สวัสดีครับ

P

ภาพลูกชายที่นำมาฝากน่ารักมากเช่นกันครับ... ส่วนคนโตของผมอายุ 5  ขวบต้น ๆ  และเจ้าจุกแดนไทย 3  ขวบเศษ ๆ ..

....

เหตุผลอันสำคัญที่ผมตัดสินใจที่จะเขียนต่อยอดจากเวทีการสัมมนา  เพราะเชื่อว่า  หลายท่านกังวลเกี่ยวกับการเขียนบันทึก  ซึ่งหมายถึงเคอะ ๆ เขิน ๆ  ที่จะเขียนเรื่องต่าง ๆ  หลายคนพุ่งประเด็นไปที่สาระความคิดจนเกิดอาการเกร็งและไม่กล้าเขียน  สุดท้ายก็เลยแทบจะไม่ได้เขียนบันทึกเลยก็ว่าได้

บันทึกของผมน่าจะผ่อนคลายความวิตกได้บ้างกระมังครับ  และจะดีใจมากถ้าบางท่านอ่านแล้วรู้สึกสบายใจที่จะเขียนบันทึกสืบต่อไป 

และผมก็ยืนยันในการเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน  โดยเฉพาะบล็อกเกอร์หน้าใหม่ -  ผมเป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ

สวัสดีครับ

P

ขอบคุณมากเลยนะครับที่แวะมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ

โดยส่วนตัวผมมองว่า  การเขียนที่ดี  ไม่ว่าจะเขียนอะไรก็ตาม  ก็ควรต้องเริ่มต้นจากการเขียนในเรื่องที่ใกล้ตัวเองมากที่สุด  ซึ่งหมายถึงสิ่งที่เรารู้  เราเห็น แตะต้องสัมผัสมาด้วยตัวเอง  และสิ่งเหล่านี้ คือความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวตนของเราเองที่รอเพียงการสกัดออกมา

ผมเชื่อว่า  มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพ  ซึ่งหมายถึง มีความงดงามในตัวตนของตนเองเหมือนกัน  ...

เขียนเถอะครับ....  โลก G2K  จะช่วยให้เรื่องราวสมบูรณ์และขยายอาณาจักรแห่งความรู้นั้น ๆ กว้างไกลมากยิ่งขึ้น

...

ขอบคุณครับ

ตามมาอ่านค่ะ..เพราะชอบวิธีเขียนและความรู้สึกที่สัมผัสได้จากการอ่านข้อเขียนของอาจารย์(แผ่นดิน)สบายใจและให้กำลังใจกับคนอ่านอยู่เสมอ..

สวัสดีครับ

P
  • ผมชอบประโยค..เพราะโลก G2K  คือโลกที่สร้างสรรค์ความรู้  ขณะเดียวกันก็เป็นโลกที่แปรรูป  ขยะความคิด   มาเป็น  อาวุธทางความคิด  อย่างมีประสิทธิภาพ ..มากครับ
  • ในมุมมองนัก e-Learning อย่างผม มองว่า ..ในอนาคตองค์ความรู้ (content) จะเป็นแบบกระจายไม่มีศูนย์กลาง คล้าย ๆ กับว่า เมื่อเราอยากทราบอะไร เราก็สอบสอบถามจาก Prof.Dr.Gooooooooogle เป็นต้น แต่ในอนาคตจะมีเครื่องมือที่ดีกว่า Google ในการกรององค์ความรู้ให้ครับ

 

ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับแนวคิดที่ว่าในอนาคตเราจะมีเครื่องมือในการกรององค์ความรู้ที่ดีกว่า google  แต่ที่สำคัญคือการนำความรู้เหล่านี้ไปเผื่อแผ่และแบ่งปันกับกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าสู่โลกแห่งการเรียนรู้แบบออนไลน์นี้ยังเป็นปัญหา  และเชื่อว่าจะเป็นปัญหาอย่างไม่รู้จบ

ขอบคุณนะครับที่นำข้อสังเกตดี ๆ มาแบ่งปัน

สวัสดีครับ อ.ย่ามแดง

P
  • ผมก็เป็นคนหนึ่งครับ...ที่มักจะเขียนเรื่องในโลกแคบของตัวเอง...
  • บางเรื่องอาจจะไม่มีสาระ  อาจจะไม่มีความรู้ให้จัดการ
  • แต่มันได้ตอบสนองจริตรายวันของผมได้  ก็น่าจะโอเค!!!
  • เมื่อใดชั่วโมงบินสูง  โลกที่คับแคบได้แผ่อาณาบริเวณมากขึ้น  เรื่องราวในบล็อกมันก็จะค่อย ๆ เปิดกว้างตามกันไป

.......

ผมเห็นด้วยทุกประการ  เพราะการเขียนบันทึกก็น่าจะเริ่มต้นจากเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเป็นอันดับแรก  และถึงแม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องจากโลกแคบของเราเอง

แต่บางครั้ง,  เรื่องของเราอาจจะกลายเป็นโลกอันกว้างใหญ่ของอีกหลายคนเลยก็เป็นได้, ใครจะไปรู้

ผมเป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ

สวัสดีครับ  คุณแหวว

P

ผมมีความสุขกับการเขียนบันทึก  เพราะถือว่าได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก

ผมเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของบล็อกเกอร์มือใหม่   ที่หวาดวิตกต่อสถานะการก้าวเดินของตนเองในบล็อก  เพราะครั้งหนึ่งตนเองก็เคยรู้สึกเช่นนั้น  หากแต่อาจจะโชคดีกว่าอยู่บ้างเพราะก่อนการเข้ามาของตัวเองก็มีหลายท่านผลักดันชักชวนอยู่ตลอดเวลา  และทันทีที่ตัดสินใจเขียนบันทึก   จึงมีกลุ่มคนที่ติดตามมาให้กำลังใจอย่างรวดเร็ว  ทำให้เราไม่รู้สึกอ้างว้างจนเกินไปนัก

ดังนั้น,  สิ่งที่พูดในเวทีการสัมมนาที่เชียงใหม่  ผมจึงเทใจไปในลักษณะของการใก้กำลังใจต่อผู้ที่กำลังอยากจะเขียนบันทึก  เพื่อให้เกิดความมั่นใจและมีพลังที่จะก้าวเดินต่อไป

....

เช่นกันนะครับ... ผมก็ยังขอเป็นกำลังใจให้คุณแหววต่อไป 

ขอบคุณครับ -

สวัสดีครับ

P
  • บันทึกของอาจารย์ อยากตั้งชื่อให้เป็น "ตัวจริง ชัดเจน"
  • ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่กล้าพบตัวจริง (กลัวตัวเองอ้ำอึ้ง5555) เพราะไม่เคยเจอใครเขียนอะไรที่เป็นตัวเองได้มากมายขนาดนี้

.....

โปรดอย่ากลัวที่จะต้องเจอตัวจริงผมเลยนะครับ  เพราะผมเองแหละที่จะเป็นฝ่ายอ้ำอึ้ง....แทนอาจารย์เสียเอง

ช่วงนี้เจอกันในบล็อกไปพราง ๆ ก่อนแล้วกัน

สวัสดีครับ คุณต้อม

P

เล่นชมผมเกินจริง  จนทำเอาผมเขิน ๆ ลอย ๆ  ไปแล้วนะครับ

บันทึกของผมเป็นบันทึกแสนธรรมดาทุกบันทึก  เรื่อยไหลไปตามอารมณ์ตนเอง  ไม่เน้นสาระวิชาการมากนัก  แต่เน้นให้เห็นเหตุการณ์, เรื่องราวและอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับเรื่องนั้น ๆ

บันทึกของคุณต้อมก็น่าติดตามไม่แพ้กัน  และผมก็เป็นแฟนคลับ,  หากแต่มีเวลาไปเยี่ยมไม่ค่อยบ่อยนักเท่านั้นเอง

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ

 

P

ส่วนหนึ่งของการเติบโตของชีวิต  ก็ล้วนมาจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันและกันนั่นเอง

ยินดีและเป็นเกียรติที่บันทึกของตนเองมีลักษณะของการได้แชร์ประสบการณ์กับผู้อ่าน

ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะครับ

สวัสดีครับ

P

ขอบคุณนะครับที่นำพาประโยคนี้มาขยายความ หรือแม้แต่ย้ำเน้นให้บันทึกของผมดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

การเขียนในสิ่งที่รู้และเขียนในสิ่งที่ศรัทธา...
เห็นด้วยกับประโยคนี้ค่ะ...เพราะถือว่าสิ่งที่เขียนมันออกมาจากใจ และจากสิ่งที่เรารู้จริง ๆ โดยเฉพาะจากประสบการณ์ที่เราได้รับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ พี่จิ๊บ

P

เขียนในสิ่งที่ตนเองเชื่อและศรัทธา,  ฟังดูง่าย ... แต่ก็ทำได้ยากพอสมควร  กระนั้นผมก็เชื่อว่า  หากสามารถทำได้  สิ่งที่เขียนจะก่อเกิดประโยชน์ต่อผู้อ่าน..

และนี้กระมังครับ   จึงมีคนบอกว่านักเขียนแต่ละคนทำงานหนักมาก

ผมเองก็อยากเป็นนักเขียนอยู่ทุกขณะจิต  แต่ที่สุดแล้วก็ได้แต่เพ้อพกลม ๆ แล้ง ๆ...

...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ อ.พิชัย

P

คุณแผ่นดินครับ

สิ่งที่ผมชอบและติดใจ คือวิธีเขียนและวิธีคิดและการสื่อสารของคุณแผ่นดิน เรียบง่าย ดูธรรมดาและไม่ธรรมดา

เป็นธรรมดาที่มีเสน่ห์ เป็นธรรมชาติที่หาใครทำได้ยาก

การเขียนเรื่องคนในครอบครัว...สังคม ที่นำให้คนอื่นได้สัมผัสตัวตนของเรานั้น

เป็นการเปลือยหัวใจเขียน...อย่างที่บอกไว้จริงๆ

.....

ผมไม่รู้จะเอ่ยถ้อยคำใดดีนอกจากคำว่าขอบพระคุณสถานเดียว...

ขอบพระคุณครับ

 

สวัสดีครับ อ.แป๋ว

P

ดีใจนะครับที่ อ.แป๋ว ชอบสไตล์การเขียนของผม...

และสำหรับรูปนี้  ผมเองก็ชอบมาก  โดยปกติเวลาถ่ายรูปผมไม่ค่อยยิ้ม  เห็นตัวเองยิ้มครั้งนี้ดูแปลก ๆ  ยังไงพิกล

แต่ก็ชอบ ....

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  seangja

การให้กำลังใจแก่กันและกัน  ถือว่าเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของชาวบล็อก  และผมก็ให้กำลังใจแก่ทุกท่าน   โดยไม่กังขาต่อมิตรภาพที่เกิดขึ้น

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท