การจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก แต่สำหรับใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักหนาสาหัสเอาการ โดยเฉพาะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเทศบาลที่อยู่ในเขตจังหวัดนราธิวาส และมีพื้นที่ติดชายแดนประเทศมาเลเซีย เหตุการณ์ความไม่สงบ การสร้างสถานการณ์โดยการลอบวางระเบิดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนสภาพทางเศรษฐกิจของเมืองซึ่งในอดีตเป็นเมืองที่รองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย ต้องซบเซาเป็นอันมาก ร้านค้า สถานบริการ โรงแรมทะยอยปิดตัว สภาพการค้าการขายย่ำแย่ ด้วยความกลัวเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เรา(หมายถึงหลายๆหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานความมั่นคง เช่น ตำรวจ ทหาร อำเภอ ภาคเอกชน และเทศบาล) พิจารณาแล้วเห็นว่าที่นี่คือแผ่นดินไทย หากเราปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรม เช่นนี้ บ้านเมืองคงไปไม่รอด และคงเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ไม่หวังดีต่อบ้านต่อเมืองและในท้ายที่สุดเราคงต้องยกบ้านยกเมืองให้บุคคลเหล่านั้นไปเป็นแน่ จึงตัดสินใจจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยเฉพาะจัดกิจกรรม Count Down ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ท่ามกลางความหวาดวิตก แต่ไม่ใช่ความหวาดวิตกในเรื่องของความปลอดภัย เพราะในความมั่นคงรับประกันกันอย่างเต็มที่ ในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย แต่ที่เราหวาดวิตกก็เรื่องของคนว่าจะมีคนออกมาร่วมงานกับเราสักกี่คน ขนาดเราไปเชิฯพ่อค้า แม่ค้าให้มาขายในถนนที่เราปิด เพื่อทำถนนคนเดิน ยังไม่มีใครกล้ามาขายเลย เพราะกลัวขายไม่ได้ แถมเรายังถูกรบกวนจากฝนซึ่งตกอย่างหนักในช่วงครึ่งวันแรกของวันที่ 31 และตกๆหยุดๆ ตลอดช่วงจัดงาน แต่ผลก็ออกมาให้คนจัดงานอย่างเราหายเหนื่อย ประชาชนออกมาร่วมงานมากมายกว่าที่คาด พอฝนตกก็วิ่งหลบกันที พอฝนหยุดตกก็วิ่งออกมาสนุกสนานกันต่อ เราไม่ได้มองความสำเร็จแค่ว่ามีคนออกมาร่วมงานกันมากหรอก แต่เราหวังในภาพของงานที่ออกสู่สายตาชาวต่างประเทศที่เข้ามาร่วมงาน ให้พูดและบอกต่อๆกันไปว่า การจัดงานของเรามีความปลอดภัย เพื่อชื่อเสียงของบ้านของเมืองจะได้กลับมา แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย คงต้องให้กาลเวลาพิสูจน์กันต่อไปอีก วันนี้เราจะจัดงานวันเด็กให้ยิ่งใหญ่ เราจะจัดงานวันตรุษจีน ให้สนุกสนาน เพื่อเรียกศรัทธาให้เมืองสุไหงโก-ลก กลับมาเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวอีกครั้ง
ถ้าสนใจจริงๆส่งประวัติและผลงานมาซิ ตามอีเมล์นี้