แมลงทับเนี่ยนะ...ความสวยที่สร้างคุณค่าได้


                 

        เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคมได้มีเวลาผ่านไปเดินเที่ยวที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม 2550 ซึ่งกำลังมีการจัดงาน “เทศกาลเที่ยวอีสาน 2550”(Amazing E-san Fair 2007)โดยมีการจัดบรรยากาศอีสานในทุกมิติ เช่น การแสดงดนตรีและวัฒนธรรมบนเวที ได้แก่ การแสดงกันตรึม น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ โปงลาง หมอลำระดับครู การแสดงหนังประโมทัย ตะลุงอีสานจากขอนแก่น การแสดงหุ่นละครอีสาน คณะเพชรหนองเรือ ที่หาชมได้ยาก เรียกว่าจะเดินไปชมในส่วนใดก็อบอวนไปด้วยบรรยากาศทางอีสานแท้ๆ
        มีการออกร้านให้ผู้ชมงานได้เลือกซื้อสุดยอดฝีมือทอผ้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น  หลากหลายกับผ้าพื้นเมืองราคาตั้งแต่หลักพันถึงหมื่น มีการแสดงการจับลายผ้าต่าง ๆ เช่น ลายผ้ากาบบัว จากอุบลฯ ลายผ้าแพรวา กาฬสินธุ์ ผ้าขิด อุดรธานี ผู้ที่ไม่เสียดายเงินทองก็มีโอกาสได้ของติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางไกล และยังมีส่วนช่วยสนับสนุนพี่น้องชาวอีสานอีกทางหนึ่งด้วย
        นอกจากนี้ยังได้ร่วมชมกิจกรรมสาธิตในบรเวณโซนหมู่บ้านภาคอีสาน อันประกอบไปด้วย  การทำมาลัยข้าวตอก สำหรับประเพณีแห่พระมาลัยของจังหวัดยโสธร การต้อนฮับ เสี่ยวฮัก เสี่ยวแพง จังหวัดขอนแก่น การทำเครื่องดนตรีอีสานของหมู่บ้านท่าเรือ จังหวัดนครพนม เช่น แคน โหวต และการย้อมผ้าไหมด้วยแสงอาทิตย์ของจังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น และที่พิเศษสุดๆ คือการทำเครื่องประดับจากปีกแมลงทับซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
        พระองค์ท่านได้พระราชทานงานศิลปาชีพ ให้กับพสกนิกร ด้วยการนำเอาปีกแมลงทับ มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งก็ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลายกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มเครื่องประดับเพชรพลอย ต.โคกภู  อ.ภูพาน, ศูนย์การศึกษาพัฒนาภูพาน และ โครงการส่งเสริม ศิลปาชีพบ้านทรายทอง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร 

               

         ที่นำมาแสดงในงานก็ทำให้ดูเห็นกันกับตา สวยงามและราคาก็ไม่แพงด้วย ครั้งแรกคิดว่าเป็นการต้องจับแมลงทับจากเป็นๆมาทำ ซึ่งอาจทำให้มีจำนวนแมลงทับลดน้อยลงและสูญพันธุ์ได้ เพิ่งมาทราบว่าเขาใช้เฉพาะตัวที่เสียชีวิตแล้วเอามทำเป็นเครื่องประดับ ซึ่งจะมีอายุการใช้งานได้นานหลายสิบปีเลยเชียว ยิ่งบางตัวประดับเพชรรัสเซียเข้าด้วยแล้วเวลานำไปกลัดบนอกเสื้อใช้ออกงานได้อย่างไม่อายใคร บางแบบก็นำปีกแมลงทับมาประดิษฐ์เป็นเข็มกลัดรูปแมลงปอ รูปนกแก้ว ใช่มีเพียงเท่านี้เพราะกลุ่มชาวบ้านยังได้นำเพชรรัสเซีย หยกและอัญมณีอื่นๆมาทำเป็นเครื่องประดับสวยดีและราคาไม่แพง หากใครจะซื้อหาก็เสียใจด้วยค่ะเพราะจบงานแล้ว แต่หากมีโอกาสผ่านไปเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร ก็แวะไปอุดหนุนกันได้ค่ะ
         และจากโครงการพระราชดำริดังกล่าว กรมป่าไม้จึงได้ดำเนิน “โครงการแมลงทับคืนถิ่น”พร้อมกับรณรงค์ปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับแมลงทับขึ้นที่เทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร อันเป็นการช่วยกันอนุรักษ์แมลงทับไว้ และจากโครงการนี้เองทำให้ประชากรแมลงทับมากขึ้น ชาวบ้านทั้งหลายก็ได้นำปีกของแมลงทับมาเป็นส่วนประกอบในการประดิษฐ์เครื่องประดับ เช่น ตุ้มหู, เข็มกลัด, ปิ่นปักผม และอื่นๆเนื่องจากปีกแมลงทับมีความสวยงาม และทนทาน มีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่าเครื่องประดับจากปีกแมลงทับบางชิ้นของไทยเรานั้นมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5เลยเชียวละ
          ในงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชียครั้งที่ 20 ที่ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 3-12 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการนำแสตมป์ชนิดราคา 5 บาท 4 แบบ ประกอบด้วยภาพผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพรูปสัตว์ปีก 4 ชนิด ที่ประกอบขึ้นจากปีกแมลงทับ อาทิ เป็ด หงส์ ไก่ฟ้า และไก่แจ้ โดยได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาร่วมวางจำหน่ายในการเปิดตัวสุดยอดงานแสตมป์แห่งเอเชียครั้งนี้ด้วย  จึงนับเป็นอีกหนทางหนึ่งที่สามารถสร้างคุณค่าได้จากปีก..แมลงทับ..เพื่อนผู้เกือบต้องจากกันไปชั่วนิรันดร์

                                                           โดย   คนบ้านเดียวกัน

        เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ  http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture05&content=57032

หมายเลขบันทึก: 120206เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2007 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัดีครับ ผมต้องการปีกแมลงทับที่มีสีเหลือบหลากสีครับผมจะเอาไปเป็นแม่สีครับ

ต้องการเยอะหรือเปล่า ผมพอมีอยู่บ้าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท