แมลงทับที่เราพูดถึงมาก่อนหน้านั้น เป็นแมลงปีกแข็งที่มีปีกสีเขียวแวววาว หนวดสั้นมีรูปร่างหยักคล้ายฟันเลื่อยตัวเมียชอบวางไข่ตามรอยแตกของไม้ ตัวหนอนมักเจาะเปลือกไม้ เข้าไปกัดกินเนื้อเยื่อของต้นไม้ และลำต้นทำให้พืชที่ แมลงทับมาอยู่อาศัยตายได้ จึงทำให้แมลงทับถูกจัดว่าเป็นแมลงศัตรูของพืชด้วย
แมลงทับ มีชื่อสามัญว่า Metalic Wood Boring Beetle อยู่ใวงศ์ Buprestidae ในอันดับ COELOPTERA ทั่วโลกนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่ในบ้านเรามีแมลงทับที่พบอยู่ 2 ชนิดคือแมลงทับขาเขียวกับแมลงทับขาแดง ซึ่งพบมากที่สุดอยู่ในภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แมลงทับนั้นนับว่าเป็นแมลงที่อาภัพ วงจรชีวิตของมันมีแค่ปีเดียว ใช้ชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในดินอย่างน้อยก็ 11เดือน นับตั้งแต่เป็นไข่ เป็นตัวหนอน เป็นดักแด้ แล้วจึงโตเต็มวัย ช่วงโตเต็มวัยนี่แหละที่พวกมันจะผสมพันธุ์กัน มีระยะเวลาเพียงแค่ 3-4 สัปดาห์เท่านั้นซึ่งตกประมาณราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน หลังจากนั้นก็จะตายจากไป ช่วงที่พวกมันเป็น ด้วงมักจะถูกชาวบ้านจับมากินเป็นอาหาร ทั้งปิ้ง, คั่วและทอด อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนแมลงทับ ในธรรมชาติลดน้อยลงไปทุกที
ผลงานวิจัยพบว่าแมลงทับจะมีปรากฏให้เห็นเพียงปีละครั้งเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามากระทบต่อวงจรชีวิต เช่น สภาพแวดล้อมก่อนเข้าหน้าฝน ถ้าหากสภาพอากาศแห้งแล้ง หนอนวัยสุดท้ายจะฟักตัวนิ่งข้ามปีได้ เพื่อรอจนกว่าจะถึงรอบปีตามปกติ มันจึงจะลอกคราบจากดักแด้กลายเป็นแมลงทับตัวโตเต็มวัย
เรื่องสีเขียว เงาวาวของปีกแมลงทับ นักวิชาการด้านกีฏวิทยาท่านได้บอกว่า สีเขียวเงาวาวนั้นมาจากเม็ดสีชนิดหนึ่งนั่นเอง ซึ่งอาหารที่มันกินเข้าไปก็มีส่วนในการสร้างเม็ดสีนี้ แต่ยังไม่พบรายงานที่ศึกษาเรื่องเม็ดสีนี้อย่างจริงจัง จึงไม่ทราบว่ามาจากสารใด โดยมากการวิจัยมักมุ่งเน้นไปที่การศึกษาชีววิทยาของแมลงทับ เช่น วงจรชีวิตหรืองานสำรวจถิ่นที่อยู่ของมันเสียมากกว่า
การที่จะอนุรักษ์แมลงทับเหล่านี้ไว้ สามารถทำได้ด้วยการปลูกต้นไม้ เพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารของมันและไม่ควรจับในฤดูวางไข่ รวมทั้งแนวทางการอนุรักษ์ด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยต่อชีวิตให้พวกมันยังคงสืบเผ่าพันธุ์และมีชีวิตอยู่ให้ลูกหลานเราได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพวกมัน ว่านี่แหละที่เขาเรียกว่า...แมลงทับ...
โดย คนบ้านเดียวกัน
ไม่มีความเห็น