แม่ครับ+++


ในบางครั้งประโยคที่ว่า “ ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว ” มันก็ไม่เป็นความจริง “

วันแม่แห่งชาติปีนี้ผ่านไปอีกแล้วครับ

คุณผู้อ่านได้ทำอะไรให้กับคุณแม่หรือยัง???

ผมได้ทำแล้วนะครับ ในเย็นหลังเลิกทำงานวันนั้น ผมได้พาคุณแม่ไปกินข้าว และดูหนังที่ท่านชอบ......

ท่านชอบดูหนังไทย...ผมเลยต้องพาท่านไปดู "ตั๊ด สู้ ฟุต".....จริงๆโดยส่วนตัวไม่ชอบดูเท่าไร เพราะว่า มันจะออกโรงแล้ว และ มีหนังที่น่าดูมากกว่านั้น  แต่ก็ต้องตามใจแม่สักวัน ก็เป็นวันแม่นี่ครับ+++

วันนี้เพื่อให้เกี่ยวข้องกัน อยากจะให้คุณผู้อ่านอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ก่อน

++++++ 

ก่อนอื่นต้องขออภัยสำหรับเจ้าของต้นเรื่อง มันอาจตอกย้ำความเจ็บปวดกับคุณในเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรเผยแพร่เพื่อตอกย้ำคนที่ได้ชื่อว่าลูกทุกคนให้หันกลับมาดูคนที่ส่งเสียคุณเลี้ยงดูคุณมาด้วยความเหนื่อยยาก วันนี้เราหันไปเหลียวท่านบ้างหรือเปล่า ก่อนจะไม่มีโอกาสดูแล เมื่อท่านจากเราไปแล้วการจัดงานใหญ่โตมันไม่มีประโยชน์อะไร เวลาท่านอยู่ทำไมไม่ทำ ?


ความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่บรรยายออกมาจากใจ ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป เรียน เที่ยว นอน กิน ดึกๆผมก็โทรคุยกับแฟนของผม ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผมและผมก็เชื่อว่าใครๆเค้าก็ทำแบบนี้กัน “ จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง ” “ กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย ” “ รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง ” “ ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ ”


ประโยคต่างๆที่ผมได้คิดและคัดสรร เตรียมพร้อมมาต่างๆก่อนโทร ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์ ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน “ เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง


กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน ” “ ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง ” “ เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย ” “ วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง ” “ อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ ” โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง ” จนกระทั่งวันนั้น “ ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย ” “ เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ ” “ แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ ”


ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า “Home”


“ โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย ” ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ “ และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่ ”



หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืนและได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา “ ผม ” สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือโทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม


วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ คนเดียวในโลกที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ คนเดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม “ และคนเดียวในโลกที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต ”


ในบางครั้งประโยคที่ว่า “ ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว ” มันก็ไม่เป็นความจริง “

+++++

ได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก รู้สึกสะเทือนใจพอควร เลยนึกมาถึงแม่ของตัวเองทันที วันนี้เลยอยากมาเขียน เรื่องของแม่ผมให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกัน

ตอนนี้ในชีวิตผมก็เหลือแม่อยู่คนเดียว

แม่...ผู้ที่เลี้ยงผมตั้งแต่ผมจำความได้

โดยการขายน้ำผลไม้ เดินขายตั้งแต่สาทร จนสุดถนนสีลม ตั้งแต่ผมเกิด จน ผมเรียนจบทันตแพทย์

แม่ซึ่งโกหกผมตลอดเวลา...ว่าไม่เหนื่อย ทำงานแล้วดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆออกกำลังกายดี

แต่ผลพวงของการทำงานหนักในครั้งกระนั้น ทำให้แม่ผมม่สบาย ปัจจุบันท่านเป็นโรค SLE ซึ่งรักษาไม่หาย ต้องกินยาตลอดชีวิต.....

แม่ที่ไม่เคยนอนก่อนผม และไม่เคยตื่นหลังผม  ซึ่งปกติผมเป้นคนทำงานหนักมาก ปกติสมัยเรียน ผมทำงานบ้านและอ่านหนังสือ จนเกือบตีหนึ่ง และตื่นตีห้าทุกวัน แต่เชื่อไหมว่า แม่ไม่เคยนอนก่อนผม และไม่เคยตื่นหลังผม เลย.....แม่ทำงานหนักตลอดเวลา....

วันนี้....ผมทำงานมีรายได้แล้วครับ

ผมแบ่งเงินเดือนราชการให้แม่ทั้งหมด

แต่คงไม่เพียงพอกับสิ่งที่แม่ให้ผมมาทั้งชีวิต

แต่ท่านคงทราบดีครับ

ว่าผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในชีวิต คือ ท่านครับ+++

คำสำคัญ (Tags): #แม่
หมายเลขบันทึก: 120156เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2007 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ  คิดถึงแม่
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท