Project KM-การบริหารเวลาที่ดีของนักศึกษา ป.โท มอ.

            เคล็ดเล็กๆ น้อยๆ ในการบริหารเวลา (ของตัวผมเอง)

      สมบัติอย่างหนึ่งที่ทุกคนมีเท่ากันเหมือนกันหมดคือเวลา ผมเองเจอหลาย
ท่านชอบบ่นว่า "ไม่มีเวลาๆ" (ผมเองก็เป็นบ้างในบางครั้งครับ) ก็เลยนึก
สงสัยว่า ทำไมในขณะที่บางคนบ่นว่าไม่มีเวลา แต่บางคนกลับสามารถใช้
เวลา (ที่มีอยู่เท่าๆ กัน) ในการทำสิ่งต่างๆ ออกมามากมาย ก็เลยสนใจศึกษา
เรื่องของการบริหารเวลามากขึ้น แล้วก็พบว่าการบริหารเวลาที่ดีไม่ได้อยู่ที่
การจัดแบ่งเวลาเท่านั้นนะครับ แต่อาจจะต้องอยู่ที่ความเข้าใจในหลักการทำ
งานของสมองและร่างกายเรา รวมทั้งการมีวินัยของแต่ละคนด้วยผมขอแบ่งปันประสบการณ์ของตนเองที่ใช้ในการบริหารเวลา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ นะครับ แต่ก็ใช่ว่าผมจะบริหารเวลาได้ดีนะครับ ผมเองยังมองว่าตัวเองสามารถทำอะไรๆ ออกมาได้มากกว่านี้ ถ้าบริหารเวลาได้ดีกว่านี้ และถ้าท่านอื่นๆ มีแนวทางหรือข้อเสนอแนะในการบริหารเวลาเพิ่มเติมก็เชิญได้นะครับก่อนอื่นผมคิดว่าเราต้องมองเรื่องของเวลาเป็นการทรัพยากร (Resources) ที่ต้องลงทุนและจัดสรรครับ (Invest and Allocate) เหมือนกับทรัพยากรต่างๆ ที่มีในองค์กรครับ แต่ที่สำคัญคือต้องอย่ามองเรื่องของเวลาเป็นค่าใช้จ่ายเด็ดขาดครับเรื่องของเวลาในฐานะการลงทุนนั้น ทุกท่านลองคิดง่ายๆ ครับว่าในปัจจุบัน ท่านใช้เวลา หรือ ท่านลงทุนกับเวลา คำว่าลงทุนกับเวลานั้นก็คือสิ่งที่เราใช้เวลาทำในปัจจุบัน จะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเราเองในอนาคต เหมือนกับการลงทุนในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งจะออกดอกออกผลให้กับเราในอนาคตไม่ใช่ในปัจจุบัน อย่างตัวผมเองการมาสร้างเว็บ เข้ามาตอบ เข้ามาเขียน รวมทั้งพยายามหาสิ่งต่างๆ ใส่ในเว็บนั้น ผมก็ไม่ได้มองว่าเป็นการเสียเวลา แต่มองว่าเป็นการนำเวลามาลงทุน ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าการทำเว็บจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรในอนาคต แต่ก็เชื่อว่าการมีเว็บนั้นดีกว่าไม่มี ทั้งสำหรับตัวผมเอง (สำหรับใช้ในการเรียนการสอนและการเผยแพร่ความรู้ต่างๆ) และสำหรับท่านอื่นๆ ด้วย หรือ การอ่านหนังสือทางด้านวิชาการ หรือ การติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวทางด้านวิชาการต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการลงทุนด้านเวลาทั้งสิ้น หรือ แม้กระทั่งการเข้าไปอ่านสารต่างๆ ในหนังสือพิมพ์รายวันทั่วไป ก็เป็นการลงทุนด้านเวลาดังนั้นสิ่งแรกคือพยายามมองการใช้เวลาเป็นการลงทุนนะครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องลงทุนทางด้านเวลาตลอดทุกช่วงเวลาที่เราตื่น แต่ก็ขอให้มีช่วงที่เราลงทุนในเวลาบ้าง หรือ เวลาเราขี้เกียจๆ มากนัก ก็พยายามให้คิดว่าเรากำลังลงทุนสำหรับอนาคตครับ นอกจากการมองเวลาเป็นการลงทุนแล้ว ผมเองก็คิดเสมอครับว่าเวลานั้นก็ต้องได้รับการจัดสรรครับ เหมือนกับที่องค์กรต่างๆ จัดสรรงบประมาณ นั้นแหละครับ เราจะต้องรู้จักจัดสรรเวลาที่มีอยู่ในแต่ละวันให้เหมาะสมตามความสำคัญและความต้องการของแต่ละบุคคลครับ ต่อให้ทำงานหนักแค่ไหนก็ต้องมีเวลาสำหรับการพักผ่อน การออกกำลังกาย การอยู่กับครอบครัว หรือ เวลาสำหรับส่วนตัวกันบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับว่าจะแบ่งเวลาอย่างไร ให้กับสิ่งใดบ้าง ท่านผู้อ่านเคยจดบันทึกบ้างไหมครับว่าวันๆ ท่านทำอะไรบ้าง และใช้เวลาสำหรับกิจกรรมแต่ละประเภทมากน้อยเพียงใด? ผมเองเคยทำนะครับ และก็ค้นพบอะไรบางอย่างเหมือนกันครับ โดยผมใช้ Excel ธรรมดาทำครับ โดยบันทึกไว้ทุกชั่วโมงในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้าง แล้วก็พยายามจัดกลุ่มไว้ เช่น งานสอนหนังสือ งานที่ปรึกษา งานค้นคว้าหาความรู้ การพักผ่อน การเดินทาง ฯลฯ แล้วแต่กิจกรรมของแต่ละท่าน แล้วลองจดดูให้ครบทุกวันนะครับ เสร็จแล้วลองทำออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ดู แล้วท่านอาจจะพบแบบผมนะครับ สิ่งที่ผมพบก็คือ เคยคิดว่านอนน้อยหรือนอนไม่พอ (เนื่องจากตื่นเช้ามายังง่วงแล้วไม่อยากตื่น) แต่พอบันทึกเวลาดูแล้วก็พบว่าวันๆ หนึ่งนอนอยู่ประมาณ 6-7 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่าโอเคแล้ว หรือ เคยคิดว่าทำงานมากจนเวลาพักผ่อนน้อย แต่เมื่อบันทึกดูแล้วกลับพบว่าเวลาพักผ่อนที่ใช้ไปเยอะกว่าที่คิดอีกครับ มีข้อเสนอแนะนิดหนึ่งสำหรับท่านที่คิดจะทำนะครับ นั้นคือ ในตอนหลังผมพบว่าจดเป็นรายชั่วโมงนั้นห่างเกินไปครับ ถ้าจะให้ดีจริงๆ ต้องจดเป็นรายสิบห้านาทีครับ แต่ก็ต้องมีวินัยพอสมควรนะครับในการบันทึกกิจกรรม
ที่ทำทุกสิบห้านาที ท่านผู้อ่านลองทำดูก็ได้นะครับ แต่ไม่ใช่ต้องทำจนเป็น
กิจวัตรนะครับ แต่ทำจนรู้ว่าเราจัดสรรเวลาในชีวิตประจำวันไว้อย่างไร เพื่อ
ให้เกิดการเรียนรู้ก็น่าจะพอนะครับ