วันนี้พักเรื่องโรคหัวใจไว้ก่อนมาเอาเรื่องโรคที่ควรระวังในหน้านี้เสียก่อน ในตอนนี้จะกล่าวถึงโรค เล็ปโตสไปโรสิส ( ฉี่หนู ) ซึ่งฤดูนี้เป็นฤดูทำนาเราก็ควรต้องระวังไว้
โรคนี้พบในคนที่มีอาชีพที่ต้องย่ำน้ำ เช่น ทำนา ทำสวน เก็บขยะเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และจะเป็นกันมากในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน แต่ก็พบได้ประปรายตลอดปี
อาการ จะมีไข้ขึ้นทันทีทันใด หนาวสั่น ปวดศรีษะมาก ปวดเมื่อยตามตัว ปวดน่อง เจ็บคอ ตาแดง คล้ายไข้หวัดใหญ่ ปวดแน่นท้อง หรือปวดที่ชายโครงขวา อาจมีตาเหลืองหลังมีไข้ 2-5 วัน ต่อมาอาจมีจุดแดงจ้ำเขียวขึ้นตามผิวหนัง มีเลือดออกที่ตาขาว ไอ อาเจียน หรือถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด และในที่สุดอาจมีปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย
สาเหตุ เกิดจากเชื้อ เล็ปโตสไปร่า ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อยู่ในไตของสัตว์แทะ เช่น หนู สุนัข หมู วัว ควาย เชื้อจะออกมากับปัสสาวะถ้าคนกินอาหารที่เปื้อนปัสสาวะหรือเดินลุยน้ำถูกเชื้อนี้เข้าไปทางบาดแผลตามผิวหนัง ก็จะทำให้เกิดโรคนี้ได้ ระยะฟักตัว 7-12 วัน
อาการแทรกซ้อน ปอดบวม กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไตวาย ช็อคจากการเสียเลือด
การรักษา หากสงสัยให้ไปโรงพยาบาล แพทย์จะทำการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และให้ยาต้านจุลชีพ ซึ่งจะได้ผลในระยะต้นของโรคเท่านั้น และทำการแก้ไขอาการตามอาการที่พบต่อไป
ถ้าไม่มีอาการดีซ่าน อาการจะไม่รุนแรง ในรายที่เป็นดีซ่าน มักจะมีโรคแทรก ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ไตวาย และเลือดออก
ถ้าหากว่าท่านผู้ใดที่ทำนาหรือต้องย้ำน้ำที่สกปรกแล้วเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นทางที่ดีท่านควรที่จะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุและหาทางป้องกันเสียก่อนนะครับ
อโรคยา ปรมา ลาภา "ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ"
ขอให้ นศ.กลุ่มสหกรณ์จงมีกำลังกายและใจที่เข้มแข็งเพื่อเข้าถึงสาธารณชน
เฮ้อ...........ทุกวันนี้ทำอะไรก็น่าเสี่ยงไปหมดนะครับ จะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ พูด คิด ก็ต้องระวังหมด ทำไมโลกเราถึงเป็นแบบนี้นะ ใครรู้ช่วยบอกทีจ้า
ช่วงนี้หน้าฝนควรระมัดระวังป้องกันตนเองและร่วมมือในการป้องกันควบคุมโรคฉี่หนูด้วยการกำจัดหนูและทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู กำจัดขยะอาหารของหนูรักษาสภาพแวดล้อมที่บ้าน ในไร่นา ให้สอาดไม่รกรุงรัง หากมีบาดแผลรอยถลอกขีดขวยให้ปิดแผลและหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่ท่วมขังหรือพื้นดินที่แฉะถ้าจำเป็นเมื่อเสร็จภาระกิจแล้วควรล้างน้ำและสบู่ให้สอาด หรือใส่รองเท้าบู๊ดรองเท้าหุ้มข้อก็ได้จะช่วยได้มาก หากมีอาการไอ หนาวสั่น ปวดหัวปวดเมื่อยตามเนื้อตัวควรพบแพทย์ด่วน และอย่าได้ซื่อยากินเองที่บ้านเพราะอันตรายมาก