อ้อมตาดีเห็นคุณธัญญวิตต์ บรรเจิดกิจ
สมาชิกกลุ่มเครือข่ายแสงตะวัน ที่หน้าโรงแรมพิจิตรพลาซ่า
ที่เราไปพัก
จึงได้พบแกนนำกลุ่มเครือข่ายแสงตะวัน
เพื่อนเก่า ได้แก่คุณตระการ
คุณาวุฒิ คุณสิทธิพจน์ เกบุ้ย
และคุณธัญญวิตต์
หลังอาหารเย็นเราจึงไปนั่งคุยกันที่สำนักงานผู้สื่อข่าวสารพัดสำนักข่าวของคุณสิทธิพจน์
ได้รับทราบว่าขณะนี้กลุ่มเครือข่ายแสงตะวันกำลังเข้าไปช่วยรวมกลุ่มเกษตรกรปลูกส้มโอท่าข่อย
ซึ่งเป็นพันธุ์ท้องถิ่น
มีรสหวานอมเปรี้ยว ฉ่ำน้ำ
และเมื่อผลแก่เต็มที่จะไม่มีเมล็ด
ถือเป็นส้มโอพันธุ์คู่บ้านคู่เมืองพิจิตร
ช่วยเหลือให้เกษตรกรผลิตอย่างมีการประกันคุณภาพ
และช่วยเจรจากับร้าน Top Supermarket
ให้เอาไปทำตลาด
ซึ่งจะทำให้มีตลาดกว้างมาก
นอกจากนั้นกลุ่มเครือข่ายแสงตะวันยังมีแผนจะดำเนินการโรงเรียนชาวนาตามแบบของมูลนิธิข้าวขวัญ
สุพรรณบุรี โดยจะดำเนินการในปีงบประมาณ
๒๕๕๐ ทำเป็นเครือข่าย ๓๐ โรงเรียนทั่วจังหวัด
เป็นเวลา ๓ ปี
ผมได้แนะนำให้ไปขอเรียนรู้ประสบการณ์ของ นครสวรรค์ ฟอรั่ม
ของ นพ. สมพงษ์
ยูงทอง และถ้าจะทำอย่างเข้มข้นแบบ รร.
ชาวนา มขข. จะต้องฝึกอบรม “คุณอำนวย” ตั้ง ๓๐
คน ซึ่งคงต้องขอความช่วยเหลือจากทีมคุณทรงพล
เจตนาวณิชย์ด้วย
ผมเป็นคนชอบกินส้มโอ
ที่โรงแรมพิจิตรพลาซ่าที่เราไปพักมีส้มโอท่าข่อยให้บริการเป็นผลไม้ในเมนูอาหารเช้าด้วย
ผมจึงได้มีประสบการณ์ตรง
ว่าส้มโอท่าข่อยไม่มีเมล็ดจริงๆ
รสเปรี้ยวอมหวานแบบที่ผมชอบ และเนื้อนุ่ม
ฉ่ำ
ถือเป็นส้มโอในอุดมคติสำหรับผม
แต่เรื่องทำความตกลงตลาดเดียวให้แก่กลุ่มเกษตรกรนั้นผมเป็นห่วงมาก
ว่าในที่สุดเกษตรกรจะเสียเปรียบ
เพราะเกษตรกรจะตกอยู่ในสภาพไม่มีประสบการณ์การ ดิ้นรน/เรียนรู้
ทางการตลาดเลย พอ Top
บอกว่าไม่รับขายให้ เกษตรกรก็จะช่วยตัวเองไม่ได้
ขอส่งความเป็นห่วงนี้มายังทีมกลุ่มเครือข่ายแสงตะวันด้วยนะครับ
วิจารณ์ พานิช
๑๒ มค. ๔๙
ไม่มีความเห็น